ไหวมั้ยรอบนี้?
ตลาดไทยมีวิชาเอาตัวรอดด้วยการรักษา index ด้วยหุ้นไม่กี่ตัวที่สภาพคล่องต่ำ
แต่ในหุ้นหลายๆตัวที่สะท้อนภาพ real sector ไม่สามารถเก็บอาการได้ เพราะพวกนี้วิ่งด้วยผลประกอบการ
สิ่งที่น่ากังวลและเรา(คนไทย)ยังไม่รู้สึก คือ การท่องเที่ยวไทยได้ผ่านพีคไปแล้ว ถ้ายังไม่หาทางแก้และยังใช้วิธีเดิมๆหากิน จะมีแต่ทรงกับทรุด
ก็เหมือนกับที่เรายังคงหวังว่า เรายังจะเป็นประเทศรับจ้างผลิตไปเรื่อยๆทั้งๆที่ในใจก็รู้ว่า แพ้เรื่องค่าแรงกับประเทศรอบๆไปแล้ว
การท่องเที่ยวไทย จะแก้ได้ ต้องแก้ด้วยสร้างกลิ่นอายของประเทศขึ้นมา ตปท.มาเที่ยวเค้าก็อยากจะมาหาแสงสีมาหาบริการอย่างว่านั้นก็ส่วนนึง
แต่อีกส่วนคือเค้ามาหาวัฒนธรรมของเรา เรามีให้เค้าดูเยอะ แต่เรา ตัวเราไม่สร้างมูลค่ากันขึ้นมา เช่น โขน ลิเก
ไม่ใช่ไม่มีนะ แต่มันอยู่ในมุมเล็กๆ ที่แม้แต่คนไทยด้วยกันก็ไม่สนใจ แต่เราไปสนซามูไร อนิเมะ ครอสเพย์ ลาบูบู้
จะว่า เด็กรุ่นใหม่ไม่สนใจ มันก็ส่วนนึง แต่อีกส่วนคือ เราไม่ทำให้เด็กรู้สึกดีด้วยเหมือนกัน
อย่างตอนลูกผมเด็กๆ ผมก็พาลูกผมไปดูหุ่นโจหลุยซ์ ออกมาก็เห็นมีโชว์ ป้ายก็ไม่มีว่า ห้ามจับ ลูกผมก็เข้าไปแตะดูจับเล่นตามประสาเด็ก
ซักพักก็มีคนเดินมาอบรมบอก นี่เป็นของมีครู จะจับเล่นแบบนี้ไม่ได้นะ
ผมรู้แหละว่า ผมผิดเองที่ไม่ได้บอกลูกว่า อย่าเล่น แต่ก็นั้นแหละ ตั้งแต่นั้นมาลูกผมกับโขน ก็กลายเป็นเส้นขนานไปแล้ว
สิ่งที่ผมจะสื่อคือ ถ้าเราอยากให้ของดีของเราไปอยู่ในใจเด็กวันนี้ให้ได้ ของในอดีตต้องเอื้อมลงมาหาเด็ก
อย่าทำเหมือนกับว่า สูงจนแตะต้องไม่ได้เลย เด็กในวันนี้มีทางเคารพในแบบของเค้า
ถ้าเราเห็นเด็กออกแบบชุดโขนแล้วใส่เป็นครอสเพย์ในแบบที่สวยงามนะไปประกวดนะ
ก็อยากให้รู้สึกดี รู้สึกบวกไปกับเค้าว่า เค้ามีโขนอยู่ในใจนะ ดีกว่าที่เค้ามีแต่ซามูไร การ์ตูนญี่ปุ่นนะ
อยากให้เข้าใจว่า นี่คือ softpower ที่เค้าจะเอาไปบอกต่อกันทางโซเชี่ยลแล้วไวรัลออกไปทั่วโลกได้
การนำเสนอแบบนี้จะทำให้สามารถดึงการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่สร้างมูลค่าได้อีกมาก
เพราะถ้าเรายังวนอยู่กับ นวด เหล้ายาปลาปิ้ง งานบริการแบบเดิมๆต่อไป ก็นั้นแหละ กทท.ไทยคงผ่านพีคไปแล้วละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตลาดไทย กำลังทำรูปแบบก้นถ้วยกลับหัวอีกแล้ว
ตลาดไทยมีวิชาเอาตัวรอดด้วยการรักษา index ด้วยหุ้นไม่กี่ตัวที่สภาพคล่องต่ำ
แต่ในหุ้นหลายๆตัวที่สะท้อนภาพ real sector ไม่สามารถเก็บอาการได้ เพราะพวกนี้วิ่งด้วยผลประกอบการ
สิ่งที่น่ากังวลและเรา(คนไทย)ยังไม่รู้สึก คือ การท่องเที่ยวไทยได้ผ่านพีคไปแล้ว ถ้ายังไม่หาทางแก้และยังใช้วิธีเดิมๆหากิน จะมีแต่ทรงกับทรุด
ก็เหมือนกับที่เรายังคงหวังว่า เรายังจะเป็นประเทศรับจ้างผลิตไปเรื่อยๆทั้งๆที่ในใจก็รู้ว่า แพ้เรื่องค่าแรงกับประเทศรอบๆไปแล้ว
การท่องเที่ยวไทย จะแก้ได้ ต้องแก้ด้วยสร้างกลิ่นอายของประเทศขึ้นมา ตปท.มาเที่ยวเค้าก็อยากจะมาหาแสงสีมาหาบริการอย่างว่านั้นก็ส่วนนึง
แต่อีกส่วนคือเค้ามาหาวัฒนธรรมของเรา เรามีให้เค้าดูเยอะ แต่เรา ตัวเราไม่สร้างมูลค่ากันขึ้นมา เช่น โขน ลิเก
ไม่ใช่ไม่มีนะ แต่มันอยู่ในมุมเล็กๆ ที่แม้แต่คนไทยด้วยกันก็ไม่สนใจ แต่เราไปสนซามูไร อนิเมะ ครอสเพย์ ลาบูบู้
จะว่า เด็กรุ่นใหม่ไม่สนใจ มันก็ส่วนนึง แต่อีกส่วนคือ เราไม่ทำให้เด็กรู้สึกดีด้วยเหมือนกัน
อย่างตอนลูกผมเด็กๆ ผมก็พาลูกผมไปดูหุ่นโจหลุยซ์ ออกมาก็เห็นมีโชว์ ป้ายก็ไม่มีว่า ห้ามจับ ลูกผมก็เข้าไปแตะดูจับเล่นตามประสาเด็ก
ซักพักก็มีคนเดินมาอบรมบอก นี่เป็นของมีครู จะจับเล่นแบบนี้ไม่ได้นะ
ผมรู้แหละว่า ผมผิดเองที่ไม่ได้บอกลูกว่า อย่าเล่น แต่ก็นั้นแหละ ตั้งแต่นั้นมาลูกผมกับโขน ก็กลายเป็นเส้นขนานไปแล้ว
สิ่งที่ผมจะสื่อคือ ถ้าเราอยากให้ของดีของเราไปอยู่ในใจเด็กวันนี้ให้ได้ ของในอดีตต้องเอื้อมลงมาหาเด็ก
อย่าทำเหมือนกับว่า สูงจนแตะต้องไม่ได้เลย เด็กในวันนี้มีทางเคารพในแบบของเค้า
ถ้าเราเห็นเด็กออกแบบชุดโขนแล้วใส่เป็นครอสเพย์ในแบบที่สวยงามนะไปประกวดนะ
ก็อยากให้รู้สึกดี รู้สึกบวกไปกับเค้าว่า เค้ามีโขนอยู่ในใจนะ ดีกว่าที่เค้ามีแต่ซามูไร การ์ตูนญี่ปุ่นนะ
อยากให้เข้าใจว่า นี่คือ softpower ที่เค้าจะเอาไปบอกต่อกันทางโซเชี่ยลแล้วไวรัลออกไปทั่วโลกได้
การนำเสนอแบบนี้จะทำให้สามารถดึงการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่สร้างมูลค่าได้อีกมาก
เพราะถ้าเรายังวนอยู่กับ นวด เหล้ายาปลาปิ้ง งานบริการแบบเดิมๆต่อไป ก็นั้นแหละ กทท.ไทยคงผ่านพีคไปแล้วละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้