เราทำงานอยู่ร้านบุฟเฟต์มาเกือบ10 ปี ( ตำแหน่งแคชเชียร์) อยู่ได้เพราะมันใกล้บ้านเดินทางสะดวก ผ่านพนักงานด้วยกันมาทุกรูปแบบ นายจ้างเราเป็นคนชอบใช้อารมณ์กับพนักงานบ่อยครั้ง ที่ผ่านที่เราทนได้เพราะเราคิดว่า เรามาหาเงิน จึงไม่ได้ใส่อะไรมากแต่พอช่วงหลังโควิด ยอดขายที่ร้านเริ่มตก ขายของไม่ได้ก็เอะอะโทษพนักงาน พนักงานเริ่มทยอยออกเรื่อยๆ จนเหลือแค่ 5 คน รวมเด็กเสริฟ แคชเชียร์ และพนักงานครัว เริ่ม หักเงินพนักงานด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น ถูพื้นไม่สะอาดหักตัง ตากผ้าเช็ดโต๊ะแล้วไม่เก็บหักตัง ประมาณนี้ ชอบด่าพนักงานโดยไร้เหตุผลเช่น ยืนรอลูกค้า ก็โดนด่าจะมายืนเฉยๆทำไม งานมีไห้ทำเยอะแยะ อย่างแบบ ไปเช็ดขาเก้าอี้สิ ไปล้างพัดลมสิ( ทั้งร้านมีพัดลม 12 ตัว ) แล้วทำไห้เสร็จภายในวันเดียว ระหว่างทำคือ ต้องรับลูกค้าและดูแลลูกค้าไปด้วย ร้านเปิด 10:30 พนักงานต้องเข้างาน 9:30 ระหว่างนั้นอาจมีลูกค้า เข้าก่อนเวลา แต่ พนักงานยังไม่รับเพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดร้านเตรียมของยังไม่เสร็จ สักพัก โทรมาด่าพนักงานทันทีว่า ทำไมเตรียมของไม่เสร็จ แล้วไห้เราเอาลูกค้าเข้ามานั่งในร้านก่อนทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน แล้วมาเร่งพนักงานทุกคนด้วยคำด่าต่างๆนาๆ บางวันอาจมีลูกค้าเยอะ เกือบเต็มร้าน ( ร้านมี 30 โต๊ะ โต๊ะละ4 คน ) การดูแลอาจไม่ทั่วถึง เพราะมีเด็กเสริฟแค่2 รวมแคชเชียร์อีก1 เป็น3 ทำไห้โดยคอมเพลนอยู่บ่อยครั้งแต่นายจ้างก็ยังไม่คิดจะรับพน้กงงานเพิ่ม เพราะคิดว่า ไม่จำเป็น แต่โทษพนักงานที่ยังอยู่แทนว่าลูกต้าแค่นี้ทำไม ดูแลไม่ได้ แบบกูจะบ้า เวลาปิดร้านคือ 4 ทุ่ม แค่ว่า ถ้าลูกค้าเข้าตอน3 ทุ่มครึ่งก็ยังรับอยู่ ( ที่ร้านเป็นร้านหมูกระทะ ) ซึ่งมันใช้เวลากินนาน จะไม่รับก็ไม่ได้เพราะโทรมาด่าถ้าไม่รับ เพราะนายจ้างมองกล้องตลอด แล้วเป็นแบบนี้เกือบทุกวัน จะเก็บของก่อนก็ไม่ได้ต้องรอลูกค้าออกไปก่อน กลับบ้านอีกที่ 5 ทุ่ม 6 ทุ่ม แต่พนักงานทุกคนไม่เคยได้โอทีในส่วนนี้เลย แถมมาสายยังหักทุกบาททุกสตางค์ ระบบจัดการลูกน้องก็ใช้ระบบลูกรัก ไม่เคยเป็นกลาง พอลูกจ้างที่เป็นลูกรักไปฟ้องหรือทะเลาะกับพนักงานคนอื่น เช้ามาก็มาใช้คำพูดกดดัน ด่าท่อ กลั่นแกล้ง และเปรียบเทียบพนักงงานคนนั้นกับพนักงานลูกรักตัวเอง จนเขาลาออก เรื่องราวแบบนี้คือมีตลอดเมื่อมันวนลูปอยู่แบบนี้ไม่เรื่อยๆ เราทำงานที่นี่มานาน จนรู้ทุกอย่าง ทั้งเสริฟ เก็บโต๊ะ ซักผ้า ยกโต๊ะ ขึ้น - ลง กวาด ถู ทำทุกอย่าง แม้กระทั้งบางวันคนล้างจานมาทำงานช้าแล้วจานไม่พอเราก็ต้องไปล้างมาไห้ในครัวใช้ก่อน เมื่อไหร่ที่ในครัวไม่ทันเราก็ไปช่วย จนตอนนี้พนักงานทุกคนที่ร้านเริ่มไม่ไหวกันแล้ว เพราะ เริ่มเบื่อหน่อยกับนายจ้าง คุยกับนายจ้างก็ได้แต่คำพูดแต่ไม่คิดจะแก้ไข อยากถามทุกคนว่า ถ้าหากนายจ้างยังเป็นแบบนี้ต่อไปเราควรหาทางออกเรื่องนี้ยังๆไงดี อักทั้งยังไม่มีใครมาแทนงานของเราได้ เพราะเคยแจ้งลาออกเพราะเรื่องนี้ไปแล้ว1รอบแต่นายจ้างไม่ไห้เราออกเพราะยังไม่มีใครมาทำงานส่วนนี้ของเราได้ แถมตอนแจ้งลาออกตอนนั้น นายจ้างทวงบุญคุณเราเรื่องที่เราเบิกเงินล่วงหน้าไปใช้วีคละ 1000 ( ท่ร้านรับเงินเดือนเป็น วีค ) ตอนนั้นเขาบอกเราว่า ไม่ไห้ออก ไม่คิดถึงตอนเขาไห้เราเบิกตังบ้างหรอมาลา ออกแล้วใครจะทำงาน ดพอได้ยินนายจ้างพูดแบบนี้ เราไปไม่เป็นเลยทุกคนตอนนั้น หรือ เราขี้คลาดก็ไม่รู้ จึงทำไห้เราไม่ได้ลาออก แล้วก็เลิกเบิกงานไปเลย กลัวเป็นบุญคุณ แต่ครั้งนี้เราเริ่มหมดไฟ แถม อายุยังไม่เยอะเท่าไหร่ ทุกคนว่าเราควรลาออกด้วยเหตุผลไหนดี จึงจะสมเหตุสมผล ที่ไม่แป็นผลเชิงลบตัวเองกับที่ทำงานเพรสะเราก็อยู่ที่นี่จนผูกพันธ์สุดๆ
ถ้านายจ้างเป็นแบบนี้เราควรหาเหตุผลลาออกแบบไหนดี