ช่วงนี้มีข่าวที่คนทั่วโลกจับตา คือ "รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ชัตดาวน์มานานถึง 40 วันเต็ม" ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ!
ล่าสุดเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น เมื่อวุฒิสภาทั้งสองพรรคกำลังจะลงมติเปิดทำการรัฐบาลชั่วคราวไปจนถึงเดือนมกราคม 2026 แต่คำถามคือ... หลังเปิดกลับมาแล้ว “เศรษฐกิจอเมริกา” จะฟื้นหรือทรุดต่อ?
ทำไมถึงเกิดภาวะชัตดาวน์?
จุดเริ่มต้นคือวันที่ 1 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา เพราะ สภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณปี 2026 ได้ทันเวลา
ทั้งสองพรรคขัดแย้งกันในหลายเรื่อง เช่น
- งบประมาณรวมของรัฐ
- เงินอุดหนุนด้านสาธารณสุข (Affordable Care Act: ACA)
- การจัดสรรงบสำหรับโครงการช่วยเหลือประชาชน
เมื่อร่างงบไม่ผ่าน หน่วยงานรัฐบาลกลางจำนวนมากจึงต้อง “หยุดทำงานชั่วคราว” และข้าราชการหลายแสนคนถูกพักงานแบบไม่ได้รับค่าจ้าง
ใครได้รับผลกระทบมากที่สุด?
1. ข้าราชการและผู้รับจ้างรัฐ: ประมาณ 800,000 คนไม่ได้รับค่าจ้าง ต้องพึ่งเงินเก็บหรือกู้ยืมมาประทังชีวิต
2. บริการสาธารณะและข้อมูลเศรษฐกิจ: หน่วยควบคุมการบิน (FAA) ลดกำลังลงกว่า 10% โครงการช่วยเหลืออาหาร (SNAP) เริ่มตึงตัว และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ตัวเลขจ้างงาน (NFP) และเงินเฟ้อ ถูก “เลื่อนประกาศออกไป”
3. รัฐบาลมลรัฐและท้องถิ่น: ต้องออกเงินมาช่วยโครงการที่รัฐบาลกลางหยุดจ่าย ทำให้บางรัฐเริ่มมีปัญหางบประมาณ
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
สำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ประเมินว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจอาจสูงถึง 7–14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่าแม้จะเปิดรัฐบาลกลับมา เศรษฐกิจก็ยังอาจใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าจะกลับมาปกติ และถ้าเหตุการณ์นี้ยืดเยื้อไปถึงช่วงเทศกาลปลายปี การจับจ่ายของผู้บริโภคและยอดขายค้าปลีกอาจดิ่งลงอีก
แล้วถ้า “ชัตดาวน์” ยืดเยื้อกว่านี?
- ภาระหนี้สาธารณะและแรงกดดันทางการคลังจะเพิ่มขึ้น
- ตลาดการเงินอาจเริ่มตั้งคำถามถึง “ความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ”
- ความขัดแย้งทางการเมืองอาจกระทบต่อการเลือกตั้งระดับมลรัฐในปีหน้า
บทสรุป
แม้จะมีสัญญาณดีว่ารัฐบาลอาจเปิดทำการได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้า แต่ผลกระทบจากการชัตดาวน์ 40 วันครั้งนี้ได้ทิ้งรอยแผลลึกไว้กับระบบเศรษฐกิจ การเมือง และความเชื่อมั่นของประชาชน คำถามสำคัญคือ หลังเปิดรัฐบาลได้แล้ว “สหรัฐฯ จะยังคงเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจโลกได้เหมือนเดิมไหม?”
อ้างอิงจากการวิเคราะห์ตลาด โดย EBC Financial Group
รัฐบาลสหรัฐฯ จ่อยุติชัตดาวน์หลัง 40 วัน แล้วเศรษฐกิจจะเดินต่อยังไง?
- งบประมาณรวมของรัฐ
- เงินอุดหนุนด้านสาธารณสุข (Affordable Care Act: ACA)
- การจัดสรรงบสำหรับโครงการช่วยเหลือประชาชน