ก็ตามกระทู้เลยค่ะ พอดีว่า ช่วงปีที่ผ่านมาเต็มๆ เรื่องราวในชีวิตค่อนข้างถาโถมเนาะ
แล้วนี่ก็มาดูแลพ่อป่วยเป็นโรคไตค่ะ
ถ้าใครได้อ่านกระทู้ของเราตอนก่อนๆ ก็จะพบว่า มีปัญหากันในการดูแลพ่อ กับพี่น้องมาก
ซึ่งเราเป็นลูกคนกลาง หลักๆ พี่น้องจะอ้างว่า ก็เค้าแต่งออกแล้ว ละมันไกล จะเดินทางพาพ่อมาฟอกไตแต่ละทีมันลำบาก
ไกล เดินทางจาก ตจว เข้า กรุงเทพ ช่วงเวลาเร่งด่วน รถมันติดมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยเสนอแนะว่า ก็แค่เรียก Grab หรือจ้างคนมารับส่งพ่อ
แต่ว่าต้องหารเงินกัน สามคนพี่น้อง แต่ก็โดนต่อว่า ถ้าทำไม่ได้ไม่ต้องพูด เดี๋ยวน้องทำเอง...เราก็เลยเก็บไอเดียที่เรานำเสนอนั้นไป
ใจเราก็คิดว่า เออ น้องคงไปแทนได้ แต่ทำไปแค่ไม่ถึงสามเดือน ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะมีปัญหาอีกแล้วหละ
ไอเราก็ขออาสา ไปส่งเองตอนเช้า รับจบ 2 วัน/อาทิตย์ พี่กับน้อง ไปรับพ่อจาก รพ.มาส่งบ้าน รับไปคนละวัน
แต่มันจะมีวันที่พ่อจะต้อง follow up กับหมอ หลายๆโรคที่พ่อเป็น ซึ่งต้องหาตอนเย็น เราก็ได้แจ้งพี่น้องไปว่า ถ้านัดวันที่พ่อฟอกพอดี
ให้พ่อเข้าไปพบหมอเอง แล้วเดี๋ยวเราไปรับ ซึ่งเราก็จะได้ไม่ต้องลางานบ่อย...
มันก็มักจะเป็นปัญหา พี่น้องก็จะบอกว่า ทำไมทำงั้น ต้องลานะ โดยที่พวกเค้าไม่เคยฟังเหตุผล ว่าทำไมเราลาไม่ได้
เราต้องแจ้งก่อนนะคะ คืองานประจำเราอ่ะ ทำเกี่ยวกับ การต้อนรับคณะมาดูงานในที่ทำงาน แล้วบางทีเราก็จะต้องเป็นคนบันทึกภาพนิ่ง และวิดีโอ
คนที่มาดูงาน แล้วคนที่มาดูงาน บางทีเค้าก็ไม่ได้มีกำหนดการในการมาดูล่วงหน้าค่ะ บางรายถึงจะมีกำหนดการมาก่อน
หากเราลา การบันทึกภาพในวันนั้นมันก็จะไม่มี บางครั้ง หัวหน้าก็หยวนที่จะไม่ว่ากล่าวเรา ซึ่งท่านใจดี
และเห็นใจเรามาก เราเลยอยากทำงานให้ดีตอบแทนท่าน
แต่ด้วยความที่เราก็รับเงินจากที่ทำงานนะ จะให้เราลาอะไรบ่อยๆ อ่าค่ะ ใจคอพี่น้องจะไม่ช่วยแบ่งเบาเรื่องตรงนี้เลยเหรอ
แล้วพอเราแจ้งสาเหตุไป เค้าก็พูดแค่ว่า มันต้องลาได้ดิ ครอบครัวต้องสำคัญกว่า ใช้คำพูดที่เราเคยบอกให้พี่น้องมาแบ่งเบาภาระ
การรับพ่อที่ รพ ตอนก่อนที่มีปัญหากัน...เพราะเราไม่อยากโดนไล่ออก ถ้าเราล้ม ไม่มีรายได้ น่าจะยิ่งหนักกว่านี้
ที่ตอนก่อนๆ มาตั้งกระทู้ถามๆ เพื่อนในพันธ์ทิพไปนั่นแหละ....
แล้วเนื่องจากเราต้องทำงานเสริม(งานพิเศษ) ไปด้วย หลังเลิกงาน ทำให้เรา นอนไม่ค่อยปกติ
ทำให้ช่วงที่ผ่านมา เราเป็นลมตอนคุยกับหัวหน้าที่ทำงาน หัวหน้าและ HR หิ้วปีกไปนอนห้องพยาบาล
ส่วนเมื่อวาน คุยกับพี่น้อง แล้วค่อนข้างเครียด อ้วกแตกตอนเย็นถึงประมาณสามทุ่ม เหมือนเครียดลงกระเพาะ
ทั้งหมดทั้งมวล
เรารู้สึกว่า ที่เราทำมาทั้งหมด...และพยายามสื่อสารให้พี่น้องเข้าใจเราเนี้ย เราผิดเหรอ
เห็นพี่น้องชอบบอกว่า มีปัญหาอะไรให้คุย อย่าเก็บเงียบๆ
แต่พอเราแจ้งปัญหา พร้อมเรื่องสุขภาพเราไป ก็มักจะโดนว่ากล่าวว่า
แล้วเราคิดว่าพี่น้อง ไม่มีปัญหาในชีวิตเลยเหรอ บางเรื่องเราก็ไม่ต้องบอกหมดก็ได้ เห็นพี่น้องบอกว่า ทุกคนมีปัญหาหมดแหละ
ซึ่งเราก็เข้าใจนะไม่ใช่เราไม่เข้าใจ แต่เค้าบอกว่า เรามีปัญหาอะไรให้เราแจ้งเค้าไง?
สุดท้าย เหมือนพบว่า การอยู่เงียบๆ แบบ ไม่ต้องปรึกษาใคร และทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามฉบับที่ตัวเองทำเต็มที่แล้วน่าจะดีที่สุดไม๊?
สถาบันครอบครัวที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่เลยนะ
เวลาสื่อสารกับคนในครอบครัว แล้วเค้าไม่พยายามรับฟัง นี่เราควรปรึกษาต่อไหมนะ?
แล้วนี่ก็มาดูแลพ่อป่วยเป็นโรคไตค่ะ
ถ้าใครได้อ่านกระทู้ของเราตอนก่อนๆ ก็จะพบว่า มีปัญหากันในการดูแลพ่อ กับพี่น้องมาก
ซึ่งเราเป็นลูกคนกลาง หลักๆ พี่น้องจะอ้างว่า ก็เค้าแต่งออกแล้ว ละมันไกล จะเดินทางพาพ่อมาฟอกไตแต่ละทีมันลำบาก
ไกล เดินทางจาก ตจว เข้า กรุงเทพ ช่วงเวลาเร่งด่วน รถมันติดมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยเสนอแนะว่า ก็แค่เรียก Grab หรือจ้างคนมารับส่งพ่อ
แต่ว่าต้องหารเงินกัน สามคนพี่น้อง แต่ก็โดนต่อว่า ถ้าทำไม่ได้ไม่ต้องพูด เดี๋ยวน้องทำเอง...เราก็เลยเก็บไอเดียที่เรานำเสนอนั้นไป
ใจเราก็คิดว่า เออ น้องคงไปแทนได้ แต่ทำไปแค่ไม่ถึงสามเดือน ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะมีปัญหาอีกแล้วหละ
ไอเราก็ขออาสา ไปส่งเองตอนเช้า รับจบ 2 วัน/อาทิตย์ พี่กับน้อง ไปรับพ่อจาก รพ.มาส่งบ้าน รับไปคนละวัน
แต่มันจะมีวันที่พ่อจะต้อง follow up กับหมอ หลายๆโรคที่พ่อเป็น ซึ่งต้องหาตอนเย็น เราก็ได้แจ้งพี่น้องไปว่า ถ้านัดวันที่พ่อฟอกพอดี
ให้พ่อเข้าไปพบหมอเอง แล้วเดี๋ยวเราไปรับ ซึ่งเราก็จะได้ไม่ต้องลางานบ่อย...
มันก็มักจะเป็นปัญหา พี่น้องก็จะบอกว่า ทำไมทำงั้น ต้องลานะ โดยที่พวกเค้าไม่เคยฟังเหตุผล ว่าทำไมเราลาไม่ได้
เราต้องแจ้งก่อนนะคะ คืองานประจำเราอ่ะ ทำเกี่ยวกับ การต้อนรับคณะมาดูงานในที่ทำงาน แล้วบางทีเราก็จะต้องเป็นคนบันทึกภาพนิ่ง และวิดีโอ
คนที่มาดูงาน แล้วคนที่มาดูงาน บางทีเค้าก็ไม่ได้มีกำหนดการในการมาดูล่วงหน้าค่ะ บางรายถึงจะมีกำหนดการมาก่อน
หากเราลา การบันทึกภาพในวันนั้นมันก็จะไม่มี บางครั้ง หัวหน้าก็หยวนที่จะไม่ว่ากล่าวเรา ซึ่งท่านใจดี
และเห็นใจเรามาก เราเลยอยากทำงานให้ดีตอบแทนท่าน
แต่ด้วยความที่เราก็รับเงินจากที่ทำงานนะ จะให้เราลาอะไรบ่อยๆ อ่าค่ะ ใจคอพี่น้องจะไม่ช่วยแบ่งเบาเรื่องตรงนี้เลยเหรอ
แล้วพอเราแจ้งสาเหตุไป เค้าก็พูดแค่ว่า มันต้องลาได้ดิ ครอบครัวต้องสำคัญกว่า ใช้คำพูดที่เราเคยบอกให้พี่น้องมาแบ่งเบาภาระ
การรับพ่อที่ รพ ตอนก่อนที่มีปัญหากัน...เพราะเราไม่อยากโดนไล่ออก ถ้าเราล้ม ไม่มีรายได้ น่าจะยิ่งหนักกว่านี้
ที่ตอนก่อนๆ มาตั้งกระทู้ถามๆ เพื่อนในพันธ์ทิพไปนั่นแหละ....
แล้วเนื่องจากเราต้องทำงานเสริม(งานพิเศษ) ไปด้วย หลังเลิกงาน ทำให้เรา นอนไม่ค่อยปกติ
ทำให้ช่วงที่ผ่านมา เราเป็นลมตอนคุยกับหัวหน้าที่ทำงาน หัวหน้าและ HR หิ้วปีกไปนอนห้องพยาบาล
ส่วนเมื่อวาน คุยกับพี่น้อง แล้วค่อนข้างเครียด อ้วกแตกตอนเย็นถึงประมาณสามทุ่ม เหมือนเครียดลงกระเพาะ
ทั้งหมดทั้งมวล
เรารู้สึกว่า ที่เราทำมาทั้งหมด...และพยายามสื่อสารให้พี่น้องเข้าใจเราเนี้ย เราผิดเหรอ
เห็นพี่น้องชอบบอกว่า มีปัญหาอะไรให้คุย อย่าเก็บเงียบๆ
แต่พอเราแจ้งปัญหา พร้อมเรื่องสุขภาพเราไป ก็มักจะโดนว่ากล่าวว่า
แล้วเราคิดว่าพี่น้อง ไม่มีปัญหาในชีวิตเลยเหรอ บางเรื่องเราก็ไม่ต้องบอกหมดก็ได้ เห็นพี่น้องบอกว่า ทุกคนมีปัญหาหมดแหละ
ซึ่งเราก็เข้าใจนะไม่ใช่เราไม่เข้าใจ แต่เค้าบอกว่า เรามีปัญหาอะไรให้เราแจ้งเค้าไง?
สุดท้าย เหมือนพบว่า การอยู่เงียบๆ แบบ ไม่ต้องปรึกษาใคร และทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามฉบับที่ตัวเองทำเต็มที่แล้วน่าจะดีที่สุดไม๊?
สถาบันครอบครัวที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่เลยนะ