[CR] ดู๋ดี๋แอ่วเหนือ – จากเมืองสู่วิถีชาวดอย (อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่) 6 วัน 7 คืน

สวัสดีครับพวกเราดู๋ดี๋พาทัวร์ ทริปนี้พวกเราจะบุกไป ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เราไปในช่วงฤดูฝน (เดือนตุลาคม) ซึ่งที่เราไปช่วงเดือนตุลาคมเป็นช่วงหลังสอบโปรเจคเสร็จพอดีและยังเป็นช่วงที่ป่าไม้เขียวขจี พวกเราจะพาไปดูว่าสะเมิงไม่ได้มีแค่สตรอเบอรี เผื่อใครๆที่อยากจะไปท่องเที่ยวกับชุมชน อยู่กับชาวบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตเป็นยังไง ไปดูกันเลยยย
สมาชิกที่ร่วมเดินทางครั้งนี้มีทั้งหมด 7 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาปีที่ 4 วิศวกรรมเครื่องกล มจธ. หรือที่รู้จัก เครื่องกลบางมด ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วพวกเราชอบท่องเที่ยวเป็นเรื่องปกติแต่เราไม่ค่อยได้เที่ยวแนววิถีชีวิตในชุมชน แต่พอได้เรียนวิชา GEN441 Culture and Excursion เลยทำให้รู้ว่าการท่องเที่ยวมีหลายแบบ อาทิ เช่น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เป็นต้น ส่วนสมาชิกพวกเราสนใจที่อยากจะไปท่องเที่ยววิถีชุมชน อยากจะไปสัมผัส ใกล้ชิดกับชาวบ้านในชุมชน ว่าเขาอยู่กินกันอย่างไรใช้ชีวิตกันอย่างไร เราเลยไปเจอ อยู่ที่ที่หนึ่ง นั่นก็คือ อำเภอสะเมิง ซึ่งปกติแล้วพอพูดถึงสะเมิง คนส่วนมากจะนึกถึงสตรอเบอรีเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง เราจะได้ไปเจอกับความหลากหลายของชาติพันธ์ุ ไม่ว่าจะเป็น ชาวปกาเกอะญอ(ชาวกะเหรี่ยง),ชาวม้ง,ชาวพื้นเมือง อีกทั้ง ตำบลบ่อแก้วยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวลั้วะในสมัยก่อน

DAY 0
เข้าเรื่องกันเลยครับ
เรานัดรวมตัวกันที่หอเพื่อน เพื่อตรวจเช็คสัมภาระข้าวของต่างๆของแต่ละคน เมื่อทุกคนพร้อมแล้วเราจะมุ่งหน้าออกเดินทางไปยังสถานีกลางกรุงเทพ
อภิวัฒน์ เวลา 17.00 น. โดยเรียก bolt ราคา 520 บาท ตกคนละ 74.28บาท
พวกเรานั่งรถไฟตู้นอนชั้น 2 (Daewoo) ราคา 768 บาท ออกเวลา 20.05 ถึงเวลา 08.40 อันนี้เป็นประสบการณ์นั่งรถไฟตู้นอนชั้น 2 ครั้งแรก จากการเที่ยวครั้งก่อนๆพวกเราเคยนั่งรถไฟชั้น 3 ซึ่งมันได้ฟีลของลมแต่ละจังหวัดแต่ไม่ไหว เนื่องจากไม่มีระบบปรับอากาศทำให้เจอฝุ่นทุกจังหวัด และการนอนลำบากไม่เหมาะกับ การที่เมื่อไปถึงสถานีปลายทางแล้วเที่ยวต่อเลย(เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของพวกเรา)  แต่เมื่อมานอนรถไฟชั้น 2 นอนสบาย มีความเป็นส่วนตัว และได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ พร้อมที่จะเที่ยวทันทีในวันถัดไป
ป.ล. แนะนำให้จองกลางๆตู้เพราะจะมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เช่น กลิ่นควันของรถไฟ
ป.ล. รถไฟชั้น 3 จะมีแม่ค้า/พ่อค้า มาหาบของขาย ได้กินตลอดทาง

DAY 1
ในที่สุดก็ถึงเชียงใหม่แล้ว ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 12 ชั่วโมง 45 นาที สังเกตจากหน้าตาทุกคนครับ สดชื่นกันหมด แต่ตอนนี้ทุกคนหิวกันมากกกก
พวกเราเดินทางต่อไปสถานีขนส่งช้างเผือก โดย bolt ราคา 150 บาท ตกคนละ 22 บาท แล้วเราจะไปหาอะไรกินแถวนั้นเลย
มื้อแรกเราฝากท้องง่ายๆที่ ป.ประทีปก๋วยเตี๋ยวเรือ สาขาขนส่งช้างเผือก By แสนดี เลือกร้านอยู่ในสถานีขนส่งช้างเผือก เมนูที่ร้านมีก็จะเป็นพวก ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เป็นต้น ราคาเริ่มต้นที่ 25-40 บาท ถือว่าราคาดี กองทัพต้องเดินด้วยท้องอิ่มแล้วพร้อมเดินทางต่อไปสะเมิงงงงงงงงง!!!!!
เรานั่งรถประจำทาง หรือ รถเหลืองสายเชียงใหม่-บ่อแก้ว ราคา 110 บาท แต่พวกเราลงที่ตัวเมืองสะเมิงที่หน้าสำนักงานสาธารณสุขสะเมิง เสียไปแค่ 80 บาท ส่วนการเดินทางถ้าคนที่มีประสบการณ์ในการนั่งรถบนดอยแล้วอาจจะไม่มีปัญหาแต่คนที่คิดว่าเมารถแน่ๆแนะนำให้กินยาแก้เมารถก่อนขึ้น ซึ่งสมาชิกเราน็อคไป 2 คนสังเกตได้จากหน้าคนเสื้อขาว และอีกอย่างที่เราเลือกจะนั่งรถเหลืองมาเพราะเราอยากนั่งร่วมกับชาวบ้านจะได้พูดคุยทักทายกันตลอดทาง
ป.ล. ในภาพนี้อยู่ที่ตำบลโป่งแยง
ถึงแล้วตัวเมืองสะเมิงใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที ใช้เวลาเดินทางไม่นานพอถึงแล้วหิวอีกแล้ว เพื่อนไปเจอร้านลาบ บรรยากาศในตลาด ก็เลยจัดไป ราคา 100 บาท + ข้าวเหนียว 30 บาท มาฟังรสชาติสัมผัสแรกของคนที่ไม่เคยกิน (อร่อย เย็น นัวร์ จากนิวเจ) (รสชาติถึงสมุนไพรเข้มข้น สัมผัสใหม่ๆ จากดู๋ดี๋) ยังไม่ทันกินหมดจานพี่ที่จะดูแลเราต่อตลอดทั้งทริปก็มาแล้วนั่นก็คือ ประธานเชน หรือ พี่เชนบ่อแก้ว
ถึงที่พักคืนแรกกันแล้วเวลาประมาณ 15:00 เราพักที่ บ่อแก้ว เลเจนด์ นำสัมภาระมาเก็บ ทำธุระล้างหน้าล้างตา เเล้วเราจะไปเยี่ยมชมหมู่บ้านแม่ขะปูเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยง
ถ่ายรูป check-in กันหน่อย อันนี้เป็นส่วนด้านหลังที่พัก บรรยากาศดีมาก ทั้งบ้านมีแต่พวกเรา ต้องบอกก่อนว่าที่พักไม่มีเครื่องปรับอากาศแต่อากาศเย็นสบาย
ระหว่างทางไปหมู่บ้านแม่ขะปู วิวระหว่างทาง อากาศสดชื่นบริสุทธิ์มาก

ถึงหมู่บ้านแม่ขะปูแล้ว เป็นครั้งแรกที่เราได้เข้าไปในบ้านของชาวบ้านแบบใกล้ชิด เขาจะมีน้ำชาต้อนรับเรา พี่เจ้าของบ้านชื่อ พะตี่(ลุง)สะอุจะเป็นคนนำเรื่องราวของที่นี้ เราก็นั่งฟังเรื่องเล่า แลกเปลี่ยนความรู้ต่างๆ และ เดี๋ยวพะตี่สะอุจะพาไปเดินชมหมู่บ้านกัน
ตามความเชื่อของคนกระเหรี่ยงเชื่อว่า สิ่งของทุกอย่างจะมีคู่หมด อย่างแก้วยังมีคู่เลย ตอนแรกพวกเราก็งงว่าแก้วทำไมต้องแหว่ง   เเก้วที่ใส่ชาที่เราได้ลองดื่มดู จะมีเเก้วที่ไม่เเหว่งเเละเเหว่ง นั่นเเสดงถึงเพศทั้งสอง
ระหว่างเดินชมหมู่บ้าน แวะถ่ายรูปกับผู้เฒ่าประจำหมู่บ้าน (น่าจะอายุเยอะสุด) มาจนถึงตรงนี้ยังไม่ได้แนะนำตัวสมาชิกร่วมเดินทางเลยย เรียงจากซ้ายไปขวา มี2แถว แถวล่าง ฟลุ๊ค,เบสท์,พี่เชน(คนดูแลเรา) แถวบน ปู้ ,เฟียต,เข็มทิศ,นิวเจ,มาร์ค ***สองคนกลางแถวบนเป็นชาวบ้าน
หลังจากเที่ยวชมหมู่บ้านจนเหนื่อยถึงเวลาของท้องเรา ทางที่พักได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว ก็คือต้มแซ่มหมูป่า(ความจริงหมูธรรมดาแต่พี่เชนเขาหลอกคนที่ไม่รู้),กระเพราไก่ย่าง,ผัดผักรวม อีกอย่างที่สำคัญทางที่พักจะมีการแยกขยะทุกครั้ง

มาต่อเรากินข้าวเย็นกันเสร็จดูเวลายัง 18.30 อยู่เลย แต่ในชนบทมันเงียบและมืดแล้ว แต่เราอยู่กรุงเทพยังไม่ชิน พี่เชนเลยพาไปนั่งดื่มชิลๆที่ร้าน ป.ปลา ใกล้ๆที่พัก กลางวันจะขายอาหารปกติ กลางคืนจะเป็นแนวบาร์ชิล มีหม่าล่าทีเด็ดเลย ใครมาที่บ่อแก้วหรือมากับพี่เชน ต้องไปให้ได้แนะนำเลย เราจะได้ไปดูวัฒนธรรมการกินการดื่มของชาวบ้าน ถือว่าเป็นการรับประสบการณ์ที่ดีอีกอย่างนึง

เชื่อพวกเรายังว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่ดี ไปแรกนั่งเงียบๆอยู่โต๊ะเดียว ผ่านสักพักโดนต้อนรับจาก พี่ๆ โดน welcome drink ท่องเอาไว้มันคือวัฒนธรรม พวกเราก็เด็กวิศวะจะไปยอมได้ไงงง แต่พวกเราอยู่กันได้สักพักก็ต้องรีบกลับมานอนเพราะพรุ่งนี้มีภารกิจสำคัญอยู่
ป.ล. แม่ค้าน่ารักมากกกก ต้องไปกันให้ได้นะครับ



DAY 2
เข้าสู่วันที่สอง ตอนรับมื้อเช้าด้วยข้าวต้มไข่ออนเซน อุ่นๆ กินกับอากาศเย็นๆ ฟินมากกก เมื่อท้องพร้อมเราไปกันต่ออออ
กินข้าวเสร็จประมาณ 10:30น. พะตี่ตีกะคนที่จะพาเราไปเดินป่าก็มาพอดี  การเดินป่าครั้งนี้จะไม่เหมือนการไปเดินเที่ยวธรรมดา เเต่จะเป็นเส้นทางการเดินที่เป็นการเปิดเส้นทางใหม่ที่ยังไม่เคยมีนักท่องเที่ยวคนไหนเดินมาก่อน จะเป็นเส้นทางที่ชาวดอยเขาใช้เดินเพื่อหาของป่าจริงๆ
อันนี้เเค่เริ่มต้นทางขึ้นพวกผมก็เหนื่อยกันเเล้ว เมื่อคืนหนักไปหน่อย ดูการเเต่งตัวของนิวเจชิลจัด
กว่าจะขึ้นมาได้ ถ่ายรูปรวมสักหน่อย
โชคดีไปเดินวันที่ไม่มีฝนท้องฟ้าปลอดโปร่ง ถ้ามีฝนละก็ไม่อยากจะคิดเลย เเค่นี้นิวเจก็ลื่นทั้งทางเเล้ว
เราใช้เวลาเดินมา2ชั่วโมง เราเลยมาเเวะที่สวนของพะตี่โยชู เพื่อทำอาหารกินกัน ลืมบอกไปเลยพะตี่โยชู จะเป็นผู้นำเรื่องราวในด้านการทำอาหาร
มาเหนื่อยๆขอพักเเป๊ปนึง 
มาๆ ได้เวลาละ พะตี่โยชูเสนอเมนู หมูย่าง กับ ต้มหมูใส่ขมิ้น จะเป็นเมนูง่ายๆสำหรับกินในป่าในดอย มีส่วนผสมเพียงเเค่ขมิ้น เกลือ ตะไคร้ ข่า ผงพริกกะเหรี่ยง 
เจอคนดังครับ ดังไฟ (ก่อไฟ) เบสท์กับมาร์คจะรับผิดชอบดูเเลหมูย่าง
ได้เวลาเเล้ว ทุกคนคงสงสัยว่าหน้าที่เข็มทิศคืออะไร รอชิม!! อี้ก่าเหมาะขนาดดดดดดด
กินเสร็จต้องทำอะไร นอนสิครับ พักเอาเเรงสักครึ่งชั่วโมง 
มีเเรงเเล้ว เดินทางกันต่อ
ระหว่างทางเจอฝูงนิวเจ เอ้ย!!! ฝูงควาย เดินจากบ้านพะตี่โยชูไป 800 เมตร
ทางขึ้นน้ำตกจะอยู่ตรงที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ่อเเก้ว พักหายใจหายคออีกสักนิด เพราะเรากำลังจะโดนเชือด 
เริ่มต้นมาพวกเราบอกว่าชิลๆ ทางสบายเดินทางราบ พูดไม่ทันขาดคำ ลื่นไปหนึ่ง ไม่ต้องสงสัยว่าใคร เจ้าเก่าเจ้าเดิม นิวเจ

**ต่อในคอมเมนท์นะครับบ**
ชื่อสินค้า:   ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ บ่อแก้วเลเจนด์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่