เมื่อคุณขอพรเรื่องสุขภาพไว้ตอนต้นปี แต่คุณดันไปกินบุฟเฟ่ต์ทุกอาทิตย์

สวัสดีครับ Silver Gaze ครับ

วันนี้อาจจะแปลกสักหน่อยนะครับ กับการที่เราได้มาพบกันในช่วงค่ำของวันจันทร์แบบนี้ แต่ก็ด้วยความที่เรื่องในวันนี้มันดันเป็นเรื่องที่อิมเพ็คกับชีวิตผมสุดๆ ผมเลยอดทนรอจนถึงวันเสาร์ อาทิตย์อย่างที่ผมมักจะมาตั้งกระทู้ตามปกติไม่ไหวจริงๆ 

คือเรื่องมันมีอยู่ว่า….วันนี้ผมไปกินบุฟเฟ่ต์มาครับ

สำหรับผม การกินบุฟเฟ่ต์ทุกวันจันทร์เนี่ย มันมีจุดเริ่มต้นมาจากการให้รางวัลตัวเองที่ผ่านความยากลำบากของวันจันทร์มาได้ ซึ่งก็ฟังดูไม่แปลกอะไรใช่ไหมครับ แต่ที่มันแปลกก็คือ ผมยิ้มกินทุกวันจันทร์ แบบกินทุกวันจันทร์จริงๆ ทั้งๆ ทีตอนโครงการนี้มันเริ่มเมื่อช่วงต้นปี ผมเริ่มโครงการนี้ด้วยการกินแบบสองอาทิตย์ไปครั้ง หรือไม่ก็สามอาทิตย์ไปครั้ง ไม่ได้ไปทุกวันจันทร์แบบนี้

ซึ่งการที่ผมจู่ๆ ก็ดันไปเพิ่มความถี่ของการกินบุฟเฟ่ต์ทุกวันจันทร์ ก็เหมือนจะเป็นการกระทำที่ทำให้พระเจ้าไม่พอใจเท่าไหร่

พระเจ้าก็เลยส่งไอนี่มาจัดการผม เมื่อกี้นี้เลยครับ

(สำหรับท่านที่พะอืดพะอมง่ายๆ ก็ไม่ได้ต้องไปเปิดดูนะครับ เอาเป็นว่ามันคืออะไรสักอย่างที่มาโผล่ในหม้อชาบูของผมก็แล้วกัน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

บอกเลยครับ ว่าได้ผลชะงัด

เพราะจังหวะที่เจอเจ้าแมลงวันตัวนี้อยู่ในหม้อ ความอยากอาหารของผมก็สลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง ในขณะที่ความคิดเรื่องการกินบุฟเฟ่ต์ทุกวันจันทร์ กลายเป็นเหมือนเรื่องน่าตลกเหมือนการพยายามฝึกเต้นเพลงเกาหลีเพื่อไปจีบสาวตอนเด็กๆ เลยทีเดียว

คือเอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้นะครับ ว่าที่เจ้าแมลงวันนี่มันมาโผล่ในหม้อของผม มันเป็นเพราะความโกรธของพระเจ้า หรือเป็นเพราะคำสาปจากสาวกลัทธินมปีศาจจากกระทู้ที่แล้วของผม ซึ่งโดนลบไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นอะไรมันก็ทำให้ผมถึงกลับเดินไปขอ Refund เดินพะอืดพะอมเข้าห้องน้ำ แล้วรีบเดินไปซื้อนมเปรี้ยวมาดื่มเยอะๆ เพื่อเร่งการทำงานของระบบชับถ่ายให้เร็วที่สุดในฉับพลัน

แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีปนอยู่บ้างครับ เพราะด้วยนิสัยของผมที่มักจะต้มของแยกกันระหว่างผักและเนื้อ ฝั่งที่เป็นเนื้อที่ผมกินเข้าไปเยอะมากๆ จึงอยู่รอดปลอดภัยจากการกามิกาเซ่ของเจ้าแมลงวัน ในขณะที่ฝั่งผักก็ถือว่าโอเคอยู่ครับ เพราะผักที่ผมกินคือสาหร่ายและแครอทซึ่งต้องใช้เวลาต้มที่นาน ผมเลยกินสาหร่ายเข้าไปแค่นิดหน่อย

ถึงแบบนั้น สิ่งที่กวนใจผมจริงๆ และทำให้ผมรู้สึกพะอืดพะอม จนถึงขั้นอยากได้สาวทอมบอย ผมสั้น น่ารัก คูลๆ แต่ก็มีด้านที่อ่อนโยนมาลูบหลังปลอบใจ ก็คือความเป็นได้ต่างๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่เจ้าแมลงวันตัวนี้เข้ามาอยู่ในหม้อต้มของผมนี่แหละครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมถึงกับมองหน้าพนักงานร้าน ตอนเขาถามว่า ‘พี่จะกินต่อไหมคะ ?’ 

โดยความเป็นไปได้แรกคือ : เจ้าแมลงวันตัวนี้อยู่ในหม้อของผมมานานแล้ว 
ความเป็นไปได้แรกที่แม้จะฟังดูเลวร้ายแบบสุดๆ แต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่กับความเป็นไปได้นี้ เพราะอย่างที่บอก ผมยังไม่ค่อยได้แตะอาหารต่างๆ ในฝั่งนี้ ผมเลยไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ ในขณะที่ผมมีความเชื่อว่า ถึงเจ้าแมลงวันนี่มันจะอยู่หม้อเดียวกับอาหารต่างๆ แต่ความร้อนสูงที่ส่งผ่านน้ำมา ก็น่าจะทำให้เชื้อโรคจากตัวแมลงวันตายก่อนที่จะเคลื่อนที่ไปถึงอาหารอื่นๆ ผมเลยชิวๆ เพราะถ้ายังเห็นมันทั้งตัว ก็แสดงว่าเราเซฟ

ความเป็นไปได้ที่สองคือ ; เจ้าแมลงวันตัวนี้กามิกาเซ่ใส่หม้อของผม ตอนผมเดินไปกดน้ำ
ความเป็นไปได้ที่สองนี้มีความเป็นไปได้สูงมากครับ เพราะตอนที่พี่พนักงานเขาเอาหม้อมาให้ ผมก็เช็คพอสมควรว่ามันไม่มีอะไรแปลกๆ ติดมากับตัวหม้อ เนื่องจากร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แบบนี้มันมีอัตราการ Turn Over ของลูกค้าสูงอยู่แล้วครับ เพราะงั้นความผิดพลาดมันมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่แล้ว การเช็คให้ถี่ถ้วนแม้จะเป็นร้านที่เราเชื่อใจจึงเป็นอะไรที่เราควรจะทำเป็นพื้นฐาน ไม่งั้นสิ่งที่น่ากลัวกว่าเจ้าแมลงวัน ก็เห็นจะเป็นฝอยขัดหม้อที่ลอยอยู่ในน้ำซุปของเรานี่แหละ

ความเป็นไปได้สุดท้ายคือ : มันมาพร้อมกับอาหารหรือวัตถุดิบต่างๆ 
พูดให้เข้าใจง่ายที่สุดก็คือ “แมลงวัน Freeze Dry กรุบกรอบกับรสชาติที่ล้ำลึกเกินจินตนาการ 5555” คือขอโทษจริงๆ เพราะผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน แต่พอเวลาผมเจอเรื่องที่น่าจะซีเรียส สมองผมมันจะเปลี่ยนตัวเองไปเข้าสู่โหมดบ้าๆ บอๆ โดยอัตโนมัติ ผมจึงอดไม่ได้จริงๆ ที่จะมานั่งเล่นมุก แมลงวัน Freeze Dry ทั้งๆ ที่หัวข้อนี้มันควรจะเป็นหัวข้อที่จริงจังแบบสุดๆ อย่างความเป็นไปได้ที่เจ้าแมลงวันจะติดมาจากระบบ Supply Chain

เพราะถ้าความเป็นไปได้ที่ 1 และความเป็นไปได้ที่ 2 เป็นความเป็นไปได้ที่ฟังดูเลวร้ายแล้ว การที่เจ้าแมลงวันติดมาจากระบบ Supply Chain นี่ถือเป็นอะไรที่เลวร้ายกว่าอีกครับ เพราะนั่นเแปลว่าคุณต้องไปนั่งวัดดวงกับทุกๆ ถาด ว่าคุณจะมีโอกาสได้เจอกับน้องแมลงวัน น้องแมลงสาป หรือสิ่งที่พึงประสงค์อื่นๆ จากการจัดการของทางร้านหรือเปล่า ซึ่งนั่นแหละครับ ที่ทำให้ช่วงสองสามเดือนนี้ ผมน่าจะขยาดกับการกินบุฟเฟ่ต์ไปเลยทีเดียว

ส่วนตัวผมว่ามันน่าจะเป็นประสบการณ์ระดับเดียวกับคนที่เจอไข่แมลงวัน ไข่นู่นนี่ในเนื้อนั่นแหละครับ คือใจหนึ่งมันก็เข้าใจได้นะ ว่าความผิดพลาดมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่อีกใจหนึ่งมันก็รู้สึกแย่นะครับ กับการจ่ายเงินประมาณ 300 บาท แต่มันดันไม่เพียงพอที่จะทำให้เราได้ทานอาหารที่ปลอดภัย เพราะการไปกินร้านลุงแมวหน้าปากซอย มันยังมีค่าวัตถุดิบ แล้วก็ค่าฝีมือของลุงแมวใช่ไหมครับ แต่พอมันเป็นร้านบุฟเฟ่ต์แล้วเนี่ย มันก็มีแค่วัตถุดิบล้วนๆ แล้วอ่ะ ขอวัตถุดิบที่ดี และความปลอดภัยแค่นั้นเอง 300 มันเลยเป็นเงินที่เยอะพอสมควรนะครับ ถ้าเราใช้ Logic นั้น

ก็ไม่คิดเลยครับว่าการที่ผมดื้อกับพระเจ้าจะให้ผลแบบนี้ แต่คิดดูอีกที ผมว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรขนาดนั้นหรอกครับ เพราะอีกไม่นานก็จะถึงช่วงปีใหม่แล้ว ก็ถือเสียว่าให้โอกาสตัวเองได้สตาร์ทสิ่งใหม่ๆ ล่วงหน้าคนอื่นไปสักเดือนสองเดือนก่อนเลยแล้วกัน  

…จะได้มีเหตุผลเลิกพยายามเร็วกว่าคนอื่นได้ด้วยเลย 5555
 
หวังว่าจะได้พบกันอีก
SIlver Gaze
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่