เสียงที่มีเอกลักษณ์และการออกแบบเพื่อผู้เล่นสายฟิงเกอร์สไตล์ คือจุดเด่นที่ทำให้ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC น่าสนใจเป็นพิเศษ รุ่นนี้ผสานวัสดุคุณภาพเข้ากับแนวคิดด้านสรีรศาสตร์อย่างลงตัว ได้โทนเสียงอุ่น ชัด และควบคุมง่าย พร้อมสัมผัสการเล่นที่สบายมือ เหมาะกับคนที่ต้องการกีต้าร์ตัวเดียวใช้ได้ทั้งซ้อม เล่นสด และอัดเสียง
จุดเด่นของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC
จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ไม้หน้าซีดาร์แท้ (Solid Red Cedar) ซึ่งตอบสนองต่อแรงดีดได้ไว เพียงดีดเบาก็ได้ไดนามิกชัดและรายละเอียดการสัมผัสสายด้วยปลายนิ้วชัดเจน ย่านเสียงกลางมีเนื้ออุ่น ไม่บาดหู เมื่อจับคู่กับไม้หลังและข้างมะฮอกกานีแท้ (Solid Mahogany) โทนรวมจะหนาและแน่น แต่ยังคงความใสในย่านเสียงสูง เสียงมีมิติ และฟังได้นานโดยไม่ล้า
ระบบไฟฟ้าใช้ L.R. Baggs Anthem ซึ่งผสมสัญญาณจากไมโครโฟน (mic) และ under‑saddle pickup ได้อย่างกลมกลืน ทำให้เสียงเมื่อเสียบแอมป์เป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ตั้งค่าง่ายบนเวที และลดเวลาในการปรับ EQ ในสตูดิโอ เหมาะทั้งการเล่นเดี่ยวและการรองรับนักร้อง
วัสดุและงานประกอบที่ใส่ใจรายละเอียด (Flow Series)
บอดี้ทรง OM พร้อมคัตอะเวย์ ช่วยเข้าถึงเฟรตบนได้สะดวก ทรงกะทัดรัด จับถนัดมือ และให้บาลานซ์โทนดี เหมาะกับฟิงเกอร์สไตล์และการสตรัมมิงระดับเบาถึงปานกลาง ขอบบอดี้และขอบเฟรตบอร์ดผ่านการลบคมด้วยมือ (Hand‑Rolled Edge) ลดความระคายมือเวลารูดนิ้วหรือเล่นนาน ๆ รายละเอียดงานแบบนี้มักพบในกีต้าร์ระดับสูง ทำให้สัมผัสโดยรวมเรียบเนียนและพรีเมียม
ฟิงเกอร์บอร์ดและบริดจ์ทำจากไม้ อีโบนี ช่วยให้โฟกัสของโน้ตชัดเจน การถ่ายแรงสั่นจากสายสู่ไม้หน้ามีประสิทธิภาพ หมุดสายเป็นอีโบนีจึงคุมโทนได้ดี นัทและแซดเดิลใช้ Graph Tech TUSQ ทำให้ซัสเทนสม่ำเสมอทุกสาย จูนอยู่และตอบสนองเวลาเล่นสไลด์ได้ดี
โปรไฟล์คอ Ergo‑A เล่นสบาย ลดอาการล้า
โปรไฟล์คอ Ergo‑A แบบไม่สมมาตร ออกแบบให้เข้ากับรูปมือจริง ช่วยให้จับคอถนัดในหลายท่าทาง ไม่ว่าจะบาร์คอร์ดหรือเล่นโน้ตเดี่ยว คอถูกเสริมความแข็งแรงด้วยไม้วอลนัทสองชั้นเพื่อความเสถียร จึงทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เหมาะกับผู้ที่ต้องพกกีต้าร์ไปหลายสถานที่
เล่นง่ายทั้งฟิงเกอร์สไตล์และสตรัม
ความกว้างนัท 44.5 มม. ช่วยจัดวางนิ้วได้โล่ง ลดการชนสายข้างเคียง เหมาะกับเทคนิคฮาร์มอนิก การสลับนิ้วแบบ Travis Picking และการเดินเบส สเกลคอ 25.5 นิ้วให้แรงตึงสายพอดี เมื่อเพิ่มแรงดีดยังควบคุมโทนอยู่ ไม่ฟุ้ง ผู้ที่ชอบจูนดรอปเล็กน้อยยังคงได้ความแน่นของโน้ตครบ
ตารางสเปกและการใช้งานจริง
เพื่อให้เลือกได้ตรงกับการใช้งานของคุณ ต่อไปนี้คือสรุปสเปกสำคัญพร้อมคำแนะนำแบบย่อ:
-
บอดี้ OM พร้อมคัตอะเวย์: ย่านเสียงกลางเด่น รายละเอียดปลายนิ้วชัด เข้าถึงเฟรตบนได้ง่าย เหมาะกับการโซโล่เมโลดี้
-
ไม้หน้า Cedar แท้: ตอบสนองเร็ว เล่นเบาก็ได้ระดับเสียงชัดเจน รายละเอียดปลายนิ้วชัด เหมาะกับงานอัดเสียง
-
ไม้หลัง–ข้าง Mahogany แท้: เพิ่มความอุ่นและน้ำหนักในย่านกลาง–ต่ำ แต่ยังคงความใสในย่านเสียงสูง
-
ความกว้างนัท 44.5 มม.: มือใหม่วางนิ้วได้โล่ง ส่วนมืออาชีพทำเทคนิคได้มั่นใจ
-
สเกล 25.5 นิ้ว: สมดุลระหว่างแรงตึงและซัสเทน จูนลดครึ่งเสียงหรือหนึ่งเสียงยังควบคุมโทนได้
-
คอ Ergo‑A: จับถนัด ลดความล้าเมื่อเล่นนาน ๆ เหมาะทั้งซ้อมและเล่นสด
-
ฟิงเกอร์บอร์ด/บริดจ์ Ebony + หมุด Ebony: โฟกัสของโน้ตชัด การส่งเสียงคมชัด
-
นัท–แซดเดิล TUSQ: ซัสเทนสม่ำเสมอ จูนอยู่ เสียงเปิดสายใส
-
ภาคไฟฟ้า L.R. Baggs Anthem: โทนเป็นธรรมชาติ ใช้งานง่ายทั้ง FOH และสตูดิโอ
-
สาย D’Addario EXP16 Light: ควบคุมง่าย โทนบาลานซ์ เหมาะกับผู้เล่นส่วนใหญ่
ประสบการณ์ใช้งานจริง: เมื่อต่อเข้ามอนิเตอร์บนเวที เสียงยังคงความเป็นอะคูสติกชัด ไม่แข็ง เมื่อเพิ่มโวลุ่มก็ไม่บาดหู จังหวะเคาะบอดี้ถ่ายทอดดีเพราะความไวของซีดาร์และระบบ Anthem สำหรับงานอัด สามารถอัดสัญญาณตรง (DI) แล้วเสริมไมค์หน้ากีต้าร์อีกตัวเพื่อเพิ่มบรรยากาศ จะได้โทนเสียงกว้าง มีอากาศ และเป็นธรรมชาติ ใช้งานง่ายทั้ง FOH และสตูดิโอ
การดูแลรักษาและการเลือกสาย สำหรับ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC
- ความชื้น 45–55%: ใช้ตัวควบคุมความชื้นในกล่องหรือห้อง หลีกเลี่ยงแดดจัดและความร้อนสูง
- เปลี่ยนสายทุก 1–2 เดือน หรือราว 30–40 ชั่วโมงการเล่น: แม้สายเคลือบอย่าง EXP16 จะทน แต่เมื่อโทนหม่นลงควรเปลี่ยนเพื่อคงความใสและอินโทเนชัน
- ดูแลฟิงเกอร์บอร์ดอีโบนี: เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ และใช้น้ำมันเลมอนสำหรับเครื่องดนตรีปีละ 1–2 ครั้งเพื่อคงความชุ่มชื้น
- เช็คคอและแอคชั่นเมื่อเปลี่ยนขนาดสาย/อากาศเปลี่ยน: ปรับทรัสร็อดตามความเหมาะสม
- ตัวเลือกสาย: หากต้องการแรงดีดมากขึ้นสำหรับสตรัมมิง ลองขนาดสาย 12–53 (Custom Light) หรือ 12–54 (Light) สาย Phosphor Bronze จะให้โทนอุ่นและรายละเอียดกลางสวยกับชุดไม้นี้
เคล็ดลับสำหรับงานแสดง: บันทึกค่าพรีเซ็ต EQ/มิกซ์ที่เหมาะกับระบบเสียงที่ใช้เป็นประจำไว้ จะช่วยตั้งค่าได้รวดเร็วและได้โทนคงที่ทุกครั้ง หากเจอฟีดแบ็ก ให้ลองใช้ Notch Filter หรือตัดย่าน 200–400Hz ก่อน
แนวทางตั้งค่าเสียงสำหรับเวทีและสตูดิโอ (ใช้งานระบบ Anthem)
-
โหมดผสมสัญญาณ (Blend): เริ่มที่ 50/50 ระหว่างไมค์กับอันเดอร์แซดเดิล แล้วค่อยเพิ่มสัดส่วนไมค์เมื่อเวทีนิ่ง หรือ ลดไมค์เมื่อเวทีก้องมาก
-
อีคิวพื้นฐานเวที: ตัดย่านต่ำราว 80–100Hz เพื่อลดเสียงลมหรือแรงกระแทก ลดย่าน 200–300Hz หากเสียงอืด และเพิ่ม 5–7kHz เล็กน้อยให้ปลายโน้ตใสขึ้น
-
อีคิวสำหรับอัดเสียง: คงโทนธรรมชาติไว้ก่อน แล้วปรับเล็กน้อยที่ 2–4kHz เพื่อดึงรายละเอียดปลายนิ้ว และเพิ่ม 8–10kHz บาง ๆ ให้เกิด “อากาศ”
-
การเพิ่มความยาวโน้ต (Sustain): หากต้องการยาวขึ้น ให้ตั้งแอคชั่นไม่ต่ำเกินไป ตรวจนัท/แซดเดิล และใช้สายสภาพดีเสมอ
-
การจัดการ Feedback: ใช้ซาวด์โฮลปลั๊กเมื่อต้องเล่นดังในพื้นที่แคบ ลดย่าน 200–400Hz ก่อน แล้วค่อยใช้ Notch Filter ถ้าจำเป็น
ตัวอย่างแนวเพลงและเทคนิคที่เข้ากับโทนซีดาร์–มะฮอกกานี
-
ฟิงเกอร์สไตล์เมโลดิก: ซีดาร์ตอบสนองไว รายละเอียดปลายนิ้วชัด เมโลดีกับไลน์เบสเดินคู่กันได้โดยไม่ทับย่าน
-
บลูส์อะคูสติกเบาถึงปานกลาง: มะฮอกกานีเติมเนื้อในโทนกลาง เล่น slap/tap เบา ๆ ก็ยังได้ยินชัด
-
โฟล์คหรือซิตี้ป็อปอะคูสติก: คอร์ดเปิดและการสตรัมมิงจังหวะกลาง ๆ ให้โทนอุ่น ละมุน ฟังสบาย
-
โซโล่ตำแหน่งสูง: ทรง OM คัตอะเวย์เข้าถึงเฟรตบนง่าย โน้ตพุ่ง เด่น แต่ไม่แหลมบาดหู
การเลือกแอมป์/DI และอุปกรณ์ต่อพ่วงให้เหมาะ สำหรับ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC
-
แอมป์อะคูสติก: เลือกรุ่นที่มีช่อง DI และเอฟเฟค Reverb/Chorus เล็กน้อย เพื่อเพิ่มมิติ โดยไม่กลบโทนไม้
-
DI Box: ใช้แบบแอคทีฟเมื่อใช้สายยาวหรือเวทีกว้าง สัญญาณนิ่งและเงียบ เหมาะกับระบบ Anthem
-
สายสัญญาณ: ใช้สายคุณภาพ หัวต่อแน่นหนา ความยาวเท่าที่จำเป็น เพื่อลดสัญญาณรบกวน
-
เอฟเฟคเสริม: ใช้ Reverb/Delay เพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มระยะลึก หลีกเลี่ยงการเปิดมากจนโน้ตพร่า
สรุปความคุ้มค่าของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC
เมื่อพิจารณาวัสดุ งานประกอบ สรีรศาสตร์ของคอ และระบบไฟฟ้าที่ให้เสียงเป็นธรรมชาติ รุ่นนี้ตอบโจทย์ครบสำหรับคนที่ต้องการกีต้าร์อะคูสติกหนึ่งตัวที่ใช้ได้ครอบคลุม ทั้งซ้อม เล่นสด และอัดเสียง ราคาเมื่อเทียบสิ่งที่ได้รับถือว่าคุ้มค่า เหมาะทั้งผู้เริ่มต้นที่อยากได้เสียงจริงจัง และผู้เล่นที่มองหาตัวหลักไว้ทำงานระยะยาว
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒
สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada >
ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee >
ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee
🎸🌲 กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC เสียงอบอุ่นจากไม้ซีดาร์และนวัตกรรมคอ Ergo-A 🎶✨
เสียงที่มีเอกลักษณ์และการออกแบบเพื่อผู้เล่นสายฟิงเกอร์สไตล์ คือจุดเด่นที่ทำให้ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC น่าสนใจเป็นพิเศษ รุ่นนี้ผสานวัสดุคุณภาพเข้ากับแนวคิดด้านสรีรศาสตร์อย่างลงตัว ได้โทนเสียงอุ่น ชัด และควบคุมง่าย พร้อมสัมผัสการเล่นที่สบายมือ เหมาะกับคนที่ต้องการกีต้าร์ตัวเดียวใช้ได้ทั้งซ้อม เล่นสด และอัดเสียง
จุดเด่นของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC
จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ไม้หน้าซีดาร์แท้ (Solid Red Cedar) ซึ่งตอบสนองต่อแรงดีดได้ไว เพียงดีดเบาก็ได้ไดนามิกชัดและรายละเอียดการสัมผัสสายด้วยปลายนิ้วชัดเจน ย่านเสียงกลางมีเนื้ออุ่น ไม่บาดหู เมื่อจับคู่กับไม้หลังและข้างมะฮอกกานีแท้ (Solid Mahogany) โทนรวมจะหนาและแน่น แต่ยังคงความใสในย่านเสียงสูง เสียงมีมิติ และฟังได้นานโดยไม่ล้า
ระบบไฟฟ้าใช้ L.R. Baggs Anthem ซึ่งผสมสัญญาณจากไมโครโฟน (mic) และ under‑saddle pickup ได้อย่างกลมกลืน ทำให้เสียงเมื่อเสียบแอมป์เป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ตั้งค่าง่ายบนเวที และลดเวลาในการปรับ EQ ในสตูดิโอ เหมาะทั้งการเล่นเดี่ยวและการรองรับนักร้อง
วัสดุและงานประกอบที่ใส่ใจรายละเอียด (Flow Series)
บอดี้ทรง OM พร้อมคัตอะเวย์ ช่วยเข้าถึงเฟรตบนได้สะดวก ทรงกะทัดรัด จับถนัดมือ และให้บาลานซ์โทนดี เหมาะกับฟิงเกอร์สไตล์และการสตรัมมิงระดับเบาถึงปานกลาง ขอบบอดี้และขอบเฟรตบอร์ดผ่านการลบคมด้วยมือ (Hand‑Rolled Edge) ลดความระคายมือเวลารูดนิ้วหรือเล่นนาน ๆ รายละเอียดงานแบบนี้มักพบในกีต้าร์ระดับสูง ทำให้สัมผัสโดยรวมเรียบเนียนและพรีเมียม
ฟิงเกอร์บอร์ดและบริดจ์ทำจากไม้ อีโบนี ช่วยให้โฟกัสของโน้ตชัดเจน การถ่ายแรงสั่นจากสายสู่ไม้หน้ามีประสิทธิภาพ หมุดสายเป็นอีโบนีจึงคุมโทนได้ดี นัทและแซดเดิลใช้ Graph Tech TUSQ ทำให้ซัสเทนสม่ำเสมอทุกสาย จูนอยู่และตอบสนองเวลาเล่นสไลด์ได้ดี
โปรไฟล์คอ Ergo‑A เล่นสบาย ลดอาการล้า
โปรไฟล์คอ Ergo‑A แบบไม่สมมาตร ออกแบบให้เข้ากับรูปมือจริง ช่วยให้จับคอถนัดในหลายท่าทาง ไม่ว่าจะบาร์คอร์ดหรือเล่นโน้ตเดี่ยว คอถูกเสริมความแข็งแรงด้วยไม้วอลนัทสองชั้นเพื่อความเสถียร จึงทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เหมาะกับผู้ที่ต้องพกกีต้าร์ไปหลายสถานที่
เล่นง่ายทั้งฟิงเกอร์สไตล์และสตรัม
ความกว้างนัท 44.5 มม. ช่วยจัดวางนิ้วได้โล่ง ลดการชนสายข้างเคียง เหมาะกับเทคนิคฮาร์มอนิก การสลับนิ้วแบบ Travis Picking และการเดินเบส สเกลคอ 25.5 นิ้วให้แรงตึงสายพอดี เมื่อเพิ่มแรงดีดยังควบคุมโทนอยู่ ไม่ฟุ้ง ผู้ที่ชอบจูนดรอปเล็กน้อยยังคงได้ความแน่นของโน้ตครบ
ตารางสเปกและการใช้งานจริง
เพื่อให้เลือกได้ตรงกับการใช้งานของคุณ ต่อไปนี้คือสรุปสเปกสำคัญพร้อมคำแนะนำแบบย่อ:
- บอดี้ OM พร้อมคัตอะเวย์: ย่านเสียงกลางเด่น รายละเอียดปลายนิ้วชัด เข้าถึงเฟรตบนได้ง่าย เหมาะกับการโซโล่เมโลดี้
- ไม้หน้า Cedar แท้: ตอบสนองเร็ว เล่นเบาก็ได้ระดับเสียงชัดเจน รายละเอียดปลายนิ้วชัด เหมาะกับงานอัดเสียง
- ไม้หลัง–ข้าง Mahogany แท้: เพิ่มความอุ่นและน้ำหนักในย่านกลาง–ต่ำ แต่ยังคงความใสในย่านเสียงสูง
- ความกว้างนัท 44.5 มม.: มือใหม่วางนิ้วได้โล่ง ส่วนมืออาชีพทำเทคนิคได้มั่นใจ
- สเกล 25.5 นิ้ว: สมดุลระหว่างแรงตึงและซัสเทน จูนลดครึ่งเสียงหรือหนึ่งเสียงยังควบคุมโทนได้
- คอ Ergo‑A: จับถนัด ลดความล้าเมื่อเล่นนาน ๆ เหมาะทั้งซ้อมและเล่นสด
- ฟิงเกอร์บอร์ด/บริดจ์ Ebony + หมุด Ebony: โฟกัสของโน้ตชัด การส่งเสียงคมชัด
- นัท–แซดเดิล TUSQ: ซัสเทนสม่ำเสมอ จูนอยู่ เสียงเปิดสายใส
- ภาคไฟฟ้า L.R. Baggs Anthem: โทนเป็นธรรมชาติ ใช้งานง่ายทั้ง FOH และสตูดิโอ
- สาย D’Addario EXP16 Light: ควบคุมง่าย โทนบาลานซ์ เหมาะกับผู้เล่นส่วนใหญ่
ประสบการณ์ใช้งานจริง: เมื่อต่อเข้ามอนิเตอร์บนเวที เสียงยังคงความเป็นอะคูสติกชัด ไม่แข็ง เมื่อเพิ่มโวลุ่มก็ไม่บาดหู จังหวะเคาะบอดี้ถ่ายทอดดีเพราะความไวของซีดาร์และระบบ Anthem สำหรับงานอัด สามารถอัดสัญญาณตรง (DI) แล้วเสริมไมค์หน้ากีต้าร์อีกตัวเพื่อเพิ่มบรรยากาศ จะได้โทนเสียงกว้าง มีอากาศ และเป็นธรรมชาติ ใช้งานง่ายทั้ง FOH และสตูดิโอ
การดูแลรักษาและการเลือกสาย สำหรับ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC
- ความชื้น 45–55%: ใช้ตัวควบคุมความชื้นในกล่องหรือห้อง หลีกเลี่ยงแดดจัดและความร้อนสูง
- เปลี่ยนสายทุก 1–2 เดือน หรือราว 30–40 ชั่วโมงการเล่น: แม้สายเคลือบอย่าง EXP16 จะทน แต่เมื่อโทนหม่นลงควรเปลี่ยนเพื่อคงความใสและอินโทเนชัน
- ดูแลฟิงเกอร์บอร์ดอีโบนี: เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ และใช้น้ำมันเลมอนสำหรับเครื่องดนตรีปีละ 1–2 ครั้งเพื่อคงความชุ่มชื้น
- เช็คคอและแอคชั่นเมื่อเปลี่ยนขนาดสาย/อากาศเปลี่ยน: ปรับทรัสร็อดตามความเหมาะสม
- ตัวเลือกสาย: หากต้องการแรงดีดมากขึ้นสำหรับสตรัมมิง ลองขนาดสาย 12–53 (Custom Light) หรือ 12–54 (Light) สาย Phosphor Bronze จะให้โทนอุ่นและรายละเอียดกลางสวยกับชุดไม้นี้
เคล็ดลับสำหรับงานแสดง: บันทึกค่าพรีเซ็ต EQ/มิกซ์ที่เหมาะกับระบบเสียงที่ใช้เป็นประจำไว้ จะช่วยตั้งค่าได้รวดเร็วและได้โทนคงที่ทุกครั้ง หากเจอฟีดแบ็ก ให้ลองใช้ Notch Filter หรือตัดย่าน 200–400Hz ก่อน
แนวทางตั้งค่าเสียงสำหรับเวทีและสตูดิโอ (ใช้งานระบบ Anthem)
- โหมดผสมสัญญาณ (Blend): เริ่มที่ 50/50 ระหว่างไมค์กับอันเดอร์แซดเดิล แล้วค่อยเพิ่มสัดส่วนไมค์เมื่อเวทีนิ่ง หรือ ลดไมค์เมื่อเวทีก้องมาก
- อีคิวพื้นฐานเวที: ตัดย่านต่ำราว 80–100Hz เพื่อลดเสียงลมหรือแรงกระแทก ลดย่าน 200–300Hz หากเสียงอืด และเพิ่ม 5–7kHz เล็กน้อยให้ปลายโน้ตใสขึ้น
- อีคิวสำหรับอัดเสียง: คงโทนธรรมชาติไว้ก่อน แล้วปรับเล็กน้อยที่ 2–4kHz เพื่อดึงรายละเอียดปลายนิ้ว และเพิ่ม 8–10kHz บาง ๆ ให้เกิด “อากาศ”
- การเพิ่มความยาวโน้ต (Sustain): หากต้องการยาวขึ้น ให้ตั้งแอคชั่นไม่ต่ำเกินไป ตรวจนัท/แซดเดิล และใช้สายสภาพดีเสมอ
- การจัดการ Feedback: ใช้ซาวด์โฮลปลั๊กเมื่อต้องเล่นดังในพื้นที่แคบ ลดย่าน 200–400Hz ก่อน แล้วค่อยใช้ Notch Filter ถ้าจำเป็น
ตัวอย่างแนวเพลงและเทคนิคที่เข้ากับโทนซีดาร์–มะฮอกกานี
- ฟิงเกอร์สไตล์เมโลดิก: ซีดาร์ตอบสนองไว รายละเอียดปลายนิ้วชัด เมโลดีกับไลน์เบสเดินคู่กันได้โดยไม่ทับย่าน
- บลูส์อะคูสติกเบาถึงปานกลาง: มะฮอกกานีเติมเนื้อในโทนกลาง เล่น slap/tap เบา ๆ ก็ยังได้ยินชัด
- โฟล์คหรือซิตี้ป็อปอะคูสติก: คอร์ดเปิดและการสตรัมมิงจังหวะกลาง ๆ ให้โทนอุ่น ละมุน ฟังสบาย
- โซโล่ตำแหน่งสูง: ทรง OM คัตอะเวย์เข้าถึงเฟรตบนง่าย โน้ตพุ่ง เด่น แต่ไม่แหลมบาดหู
การเลือกแอมป์/DI และอุปกรณ์ต่อพ่วงให้เหมาะ สำหรับ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC
- แอมป์อะคูสติก: เลือกรุ่นที่มีช่อง DI และเอฟเฟค Reverb/Chorus เล็กน้อย เพื่อเพิ่มมิติ โดยไม่กลบโทนไม้
- DI Box: ใช้แบบแอคทีฟเมื่อใช้สายยาวหรือเวทีกว้าง สัญญาณนิ่งและเงียบ เหมาะกับระบบ Anthem
- สายสัญญาณ: ใช้สายคุณภาพ หัวต่อแน่นหนา ความยาวเท่าที่จำเป็น เพื่อลดสัญญาณรบกวน
- เอฟเฟคเสริม: ใช้ Reverb/Delay เพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มระยะลึก หลีกเลี่ยงการเปิดมากจนโน้ตพร่า
สรุปความคุ้มค่าของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Cort Flow-OC
เมื่อพิจารณาวัสดุ งานประกอบ สรีรศาสตร์ของคอ และระบบไฟฟ้าที่ให้เสียงเป็นธรรมชาติ รุ่นนี้ตอบโจทย์ครบสำหรับคนที่ต้องการกีต้าร์อะคูสติกหนึ่งตัวที่ใช้ได้ครอบคลุม ทั้งซ้อม เล่นสด และอัดเสียง ราคาเมื่อเทียบสิ่งที่ได้รับถือว่าคุ้มค่า เหมาะทั้งผู้เริ่มต้นที่อยากได้เสียงจริงจัง และผู้เล่นที่มองหาตัวหลักไว้ทำงานระยะยาว
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee