
สิริพงศ์ ชี้ คนละครึ่ง พลัส เฟส 2 มาแน่ รอ ครม.เคาะ ธ.ค. คลัง เผย 10 วัน ใช้สิทธิหมด 1.89 แสนราย
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในช่วงจากนี้ไปถึงมีการเลือกตั้งใหม่ ประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 ที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนธันวาคมนี้ และเริ่มใช้ภายในเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอดูจำนวนคนที่จะได้รับสิทธิ และวงเงินงบประมาณที่จะนำมาดำเนินโครงการ เบื้องต้นจะพิจารณาให้สิทธิคนที่ไม่ได้รับสิทธิเฟสแรกก่อน ขณะที่คนที่ได้เฟสแรกไปแล้ว จะได้รับสิทธิเพิ่มด้วย โดยทั้งเฟส 1 และเฟส 2 จะได้รับเงินเท่าๆ กัน
“ยกตัวอย่างเช่น รัฐบาลประกาศให้คนละ 3,000 บาท คนที่ไม่ได้สิทธิเฟสแรก จะได้ 3,000 บาท ส่วนคนที่ได้เฟสแรกไปแล้ว 2,000-2,400 บาท จะได้เงินเติมให้ครบวงเงิน 3,000 บาท ซึ่งเป็นเพียงแนวคิด ยังไม่มีข้อสรุป ส่วนเกณฑ์การใช้ และร้านค้ายังเหมือนเดิมกับเฟสแรก ยังไม่มีการขยายไปยังร้านค้าขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องการให้มีเงินหมุนเข้าสู่ระบบร้านค้ารายเล็ก ขณะที่ร้านใหญ่ๆ แม้จะไม่ได้ทางตรงก็ยังได้ทางอ้อม” นายสิริพงศ์กล่าว
นายสิริพงศ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนที่ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มียอดหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท ผ่านกลไกการซื้อหนี้โดย AMC มาตรการแก้หนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มาตรการการออมเงินโดยการหักลดหย่อนภาษี เพื่อสนับสนุนการซื้อหน่วยกองทุนต่างๆ รวมถึง มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอาจจะมีออกมาตรการเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังได้สรุปยอดการใช้โครงการคนละครึ่ง พลัส ของประชาชน และร้านค้าที่ร่วมลงทะเบียนว่า ณ เวลา 17.00 น.วันที่ 9 พฤศจิกายน มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งรวม 882,493 ราย และมีประชาชนใช้จ่ายแล้วรวม 26,265.5 ล้านบาท
ขณะที่ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน พบว่ามีประชาชนใช้สิทธิรวม 19,389,656 ราย แบ่งเป็น ประชาชนผู้ยื่นแบบภาษี 7,786,481 ราย และประชาชนผู้ไม่ยื่นแบบภาษี 11,603,175 ราย
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีประชาชนใช้สิทธิหมดแล้วรวม 189,915 ราย โดยเป็นประชาชนผู้ไม่ยื่นแบบภาษีทั้งหมด ขณะที่ผู้ที่ยื่นแบบภาษียังใช้ไม่หมด... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.matichon.co.th/economy/news_5449213
สิริพงศ์ ชี้ คนละครึ่ง พลัส เฟส 2 มาแน่ รอ ครม.เคาะ ธ.ค. คลัง เผย 10 วัน ใช้สิทธิหมด 1.89 แสนราย
สิริพงศ์ ชี้ คนละครึ่ง พลัส เฟส 2 มาแน่ รอ ครม.เคาะ ธ.ค. คลัง เผย 10 วัน ใช้สิทธิหมด 1.89 แสนราย
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในช่วงจากนี้ไปถึงมีการเลือกตั้งใหม่ ประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 ที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนธันวาคมนี้ และเริ่มใช้ภายในเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอดูจำนวนคนที่จะได้รับสิทธิ และวงเงินงบประมาณที่จะนำมาดำเนินโครงการ เบื้องต้นจะพิจารณาให้สิทธิคนที่ไม่ได้รับสิทธิเฟสแรกก่อน ขณะที่คนที่ได้เฟสแรกไปแล้ว จะได้รับสิทธิเพิ่มด้วย โดยทั้งเฟส 1 และเฟส 2 จะได้รับเงินเท่าๆ กัน
“ยกตัวอย่างเช่น รัฐบาลประกาศให้คนละ 3,000 บาท คนที่ไม่ได้สิทธิเฟสแรก จะได้ 3,000 บาท ส่วนคนที่ได้เฟสแรกไปแล้ว 2,000-2,400 บาท จะได้เงินเติมให้ครบวงเงิน 3,000 บาท ซึ่งเป็นเพียงแนวคิด ยังไม่มีข้อสรุป ส่วนเกณฑ์การใช้ และร้านค้ายังเหมือนเดิมกับเฟสแรก ยังไม่มีการขยายไปยังร้านค้าขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องการให้มีเงินหมุนเข้าสู่ระบบร้านค้ารายเล็ก ขณะที่ร้านใหญ่ๆ แม้จะไม่ได้ทางตรงก็ยังได้ทางอ้อม” นายสิริพงศ์กล่าว
นายสิริพงศ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนที่ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มียอดหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท ผ่านกลไกการซื้อหนี้โดย AMC มาตรการแก้หนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มาตรการการออมเงินโดยการหักลดหย่อนภาษี เพื่อสนับสนุนการซื้อหน่วยกองทุนต่างๆ รวมถึง มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอาจจะมีออกมาตรการเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังได้สรุปยอดการใช้โครงการคนละครึ่ง พลัส ของประชาชน และร้านค้าที่ร่วมลงทะเบียนว่า ณ เวลา 17.00 น.วันที่ 9 พฤศจิกายน มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งรวม 882,493 ราย และมีประชาชนใช้จ่ายแล้วรวม 26,265.5 ล้านบาท
ขณะที่ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน พบว่ามีประชาชนใช้สิทธิรวม 19,389,656 ราย แบ่งเป็น ประชาชนผู้ยื่นแบบภาษี 7,786,481 ราย และประชาชนผู้ไม่ยื่นแบบภาษี 11,603,175 ราย
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีประชาชนใช้สิทธิหมดแล้วรวม 189,915 ราย โดยเป็นประชาชนผู้ไม่ยื่นแบบภาษีทั้งหมด ขณะที่ผู้ที่ยื่นแบบภาษียังใช้ไม่หมด... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/economy/news_5449213