หมอนทองวิทยา บ่งชี้ถึงความรู้สึกเบื้องลึกของคน โดยเฉพาะกับพ่อแม่ที่เคยมีลูกเล่นฟุตบอล แล้วโดนถึบทิ้ง

ปรากฏการณ์ของทีม ที่ทำให้สนามศุภชลาศัยทะลึกทะล้นในแบบที่ คนจัดไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยอะไรใดๆ เปรียบเหมือนตอนที่เราไปด่าอินโด ด่าทีมเวียดนาม   อ้อ ลืมไปนี่คือบอล 7 สี ทีวีเพื่อคุณ ไม่ใช่ของสมาคมบอล

พีคที่หลายๆ คนมักไม่พูดจริงๆเกี่ยวกับว่าทำไมเราถึงได้เชียร์ทีมหมอนทอง นอกจากกระแส ทีมไร้งบ ขับรถวินเทจมาแบบนั้น ซึ่งนั่นก็เรียกกระแสจากจิตใจ และกระแสสังคมทั่วๆไป  แต่เชื่อเถอะว่า พีคของมันจริงๆ คือ คนสะใจ  และสมน้ำหน้า กับบรรดาเหล่าโรงเรียนเก่าๆ ของเด็กๆ พวกนี้ทั้งหลายแหล่  และแน่นนอนว่า บรรดาผู้ปกครองที่เคยสนับสนุนเด็กๆ ให้ได้ก้าวเข่าสู่สนาม  

คือผู้ปกครองทุกคนก็พยายามดันลูกตัวเอง แต่บางคนก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน นั่งสำรอง ไร้วินัย เกเร... ไม่เชื่อฟัง ไม่เข้าตาโค้ช  พ่อแม่บางคนก็พยายามอ้อนวอน โค้ชก็อ้างว่าเด็กไร้วินัย นู่นนี่นั่น  และแน่นอนหนึ่งในเด็กๆเหล่านั้น ไม่เด็กจาก อบต อบจ ผู้ใหญ่ คหบดี หลานคนนั้น ลูกคนนี้  ติดซะส่วนใหญ่  นี่คือภาพความเป็นจริง ปฏิเสธไม่ได้เลย   เด็กคนไหน เลอะๆเทอะๆ เกเร ไม่สวัสดีโค้ช ไม่นอบน้อม ไม่น่ารักน่าเอ็นดู บวกกับพ่อแม่จนหน่อย ไม่เหลือครับ โน่น เก็บลูกบอลโน่นนน  ปัญหาของบอลไทยมันก็เริ่มจากจุดนี้ล่ะครับ  ไปๆ มาๆ โค้ชยิ้มยืมเงินผู้ปกครองหรือเปล่าก็ไม่รู้ อันนี้พูดลอยๆนะ 5555


คือจิตใจสำนึกมันก็สะใจไงครับ สะใจเหล่าบรรดาโค้ชที่เคยถีบเค้าออก ลองถามผู้ปกครองดูสิว่า คำว่าเด็กใคร คือเด็กใคร มันมีทุกวงการล่ะครับ ลองถามบรรดาผู้ปกครองของเด็กที่ไม่ถึงฝันดู  คือส่วนใหญ๋คือ สะใจ ละนี่คือการตบหน้าและเอาเท้าเหยียบหน้าบรรดาโค้ชที่ไม่เคยแล  และที่สำคัญคือดันมาอยู่กับโค้ชสกล ที่เงินสนับสนุนแทบไม่มี   คือมันผิดกันจริงๆ

คนไทยนอกจากชอบมวยรอง ยังรับไม่ได้ค่อยได้ และถ้ายิ่งใครทำได้ คือจะยิ่งสะใจมากๆ  เหมือนปรากฏการณ์ที่สนามนั่นแหละครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่