สุขแบบปฏิฆะ เป็นยังไง?

สุขแบบปฏิฆะ เป็นยังไง?

    ความสุขแบบปฏิฆะ      คือ     ความสุขที่เสแสร้ง แกล้งว่าตนเองมีความสุข แกล้งทำไม่จริง     ข้างในจิตใจปฏิฆะ (ขัดเคือง, ไม่พอใจ) แต่ข้างนอกทำเป็นมีความสุข

    ต้องปั้นหน้า ต้องทำท่าทำทาง หาวิธีกลบเกลื่อน

    ถ้าเป็นอย่างนี้จะมีความสุขได้ยังไง? มันก็ทุกข์ เพราะว่าทุกอย่างเป็นการแบกไว้ บีบคั้นตัวเอง

ถ้าสุขที่แท้จริง
ข้างในจิตใจ ต้องไม่ปฏิฆะ

ใจกว้าง ไม่ใจแคบ
ไม่หมายมั่นสำคัญตนผิด

ต้องให้รู้จักแบ่งปัน
แม้แต่ความดีก็ต้องรู้จักแบ่งปัน
    
คำว่า เอื้อ-เกื้อ-กัน ก็จะทำให้ตัวปฏิฆะลดลง

    ๑.เอื้อ คือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เอื้ออำนวย เอื้อให้โอกาส  เปิดใจเต็มใจที่จะช่วยเหลือ

    เอื้ออารี อารีอารอบ หมายถึง มีเมตตาต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน รักกัน ส่งเสริมให้ เปิดโอกาสให้ ยอมรับเปิดโอกาสให้เหตุผล

    เอื้อโอกาสยอมรับฟังเขา เอื้อโอกาสให้เขารับฟังเรา แสดงความมีน้ำใจดีต่อผู้อื่น เอาใจใส่ มีน้ำใจ มีเมตตาต่อกัน


    ๒.เกื้อ คือ เกื้อกูล เกื้อหนุน ส่งเสริม ช่วยเหลือแบ่งปัน     ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เบียดเบียนผู้อื่น

    ทำนุบำรุง ดำรงรักษา ดูแล อุ้มชู ปฏิสังขรณ์ และเอื้อให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ ทำดี ปลดทุกข์ แก้ทุกข์

    จาคะ อภัยให้ ไม่ถือสา มีความกรุณาต่อกัน


    ๓.กัน คือ เข้าใจซึ่งกันและกัน รักกัน ให้โอกาสกัน ให้อภัย  กัน เคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน เคารพตัวเอง เคารพในความแตกต่างซึ่งกันและกัน  ไม่อคติต่อกัน

    ป้องกันซึ่งกันและกันไม่ให้ตกไปในความชั่ว ใฝ่ต่ำ ทุจริตคดโกง เข้าสู่ในหุบเหวแห่งอบายมุข อบายภูมิ เคารพในหน้าที่  

    สามัคคีกัน อย่าเป็นปรปักษ์กัน ความคิดอย่าตีกัน

    อย่าดูถูกดูแคลน อย่าหมิ่นเชื้อชาติศาสนา และมีมุทิตาจิตต่อกัน
    

พอปฏิฆะลดลง

สิ่งที่ตามมา ก็คือ "ความสุขที่แท้จริง" สันติสุขย่อมเกิดขึ้นแน่นอน

    ฉะนั้น เราต้องสุขอย่างสันติ ไม่ใช่สุขอย่างปฏิฆะ

ถ้าทุกคนเปิดใจกว้างขึ้นมี เอื้อ-เกื้อ-กัน
จะทำให้ปฏิฆะลดลง สันติสุขก็จะมากขึ้น

ทำอย่างนี้  ความสุขย่อมมีอยู่
ในชีวิตประจำวันได้




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่