🦌🦌🦌
🩸ถ้ายังจำ Winnie-the-Pooh: Blood and Honey ได้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของ “จักรวาลสุดป่าเถื่อน” ที่เรียกว่า Poohiverse: Monster Assemble โปรเจกต์ที่หยิบเหล่าตัวละครเทพนิยายและการ์ตูนในวัยเด็กมาบิดให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดฆาตกร ซึ่งจักรวาลนี้เริ่มต้นด้วย
🐻 Winnie-the-Pooh: Blood and Honey (2023) — ที่พูห์กับพิกเล็ตกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ได้ยินว่าจะมีภาค 2 ด้วย
🐷 Piglet’s Revenge (อยู่ในแผนต่อยอด) ซึ่งมันโผล่มาใน Winnie-the-Pooh: Blood and Honey แล้วด้วย
🐇 Peter Pan’s Neverland Nightmare (อยู่ระหว่างพัฒนา)
และตอนนี้ มันได้ขยายสู่เรื่องใหม่ล่าสุดกับ “Bambi: The Reckoning” (2025) — การกลับมาของลูกกวางผู้เคยร้องไห้ให้กับแม่ แต่ครั้งนี้... มันกลับมาร้องไห้ด้วย “เลือดของมนุษย์”
🦌🦌🦌
🌲เรื่องราวของเจ้า “แบมบี้” ที่หลังจากสูญเสียคู่ชิวตตัวเมียไปแล้ว มันก็อาศัยอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยความแค้นและความตาย หนังเปิดฉากด้วยเหตุการณ์กลุ่มครอบครัวที่อาศัยในบ้านในป่าลึก แล้วต้องเผชิญกับ “บางสิ่ง” ที่ซุ่มมองพวกเขาอยู่ ก่อนจะค่อย ๆ ถูกไล่ล่าและฉีกกระชากอย่างโหดเหี้ยม
🦌🦌🦌
🦌 “Bambi: The Reckoning” เปิดตัวอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการปูเรื่องยืดยาว ไม่มีการเล่าอดีตแบบซึ้ง ๆ เหมือนต้นฉบับดิสนีย์ แต่แทนที่จะได้เห็นลูกกวางตาใสที่วิ่งเล่นในป่า หนังกลับโยนคนดูเข้าสู่โลกแห่ง “ความบ้าคลั่งและการล้างแค้นของธรรมชาติ” ตั้งแต่ต้นเรื่อง และคล้ายกับ Winnie-the-Pooh: Blood and Honey ที่เริ่มจากความงง ๆ ก่อนจะไต่ระดับสู่ความโหด “Bambi: The Reckoning” ก็ใช้สูตรเดียวกัน ค่อย ๆ เผยให้เห็นเบื้องหลังว่าทำไมเจ้ากวางถึงกลายเป็นสัตว์อสูรที่ไล่ล่ามนุษย์แบบไม่ปรานี แม้บางจุดจะเล่าแบบกระโดด ๆ แต่ก็ยังคงความดิบ เถื่อน และเต็มไปด้วยความสาแก่ใจของคอหนังสยองแนว “สัตว์สังหาร”
🦌🦌🦌
🔪 จุดเด่น ความโหดจัดเต็มตามสไตล์ Poohiverse หนังไม่หวงฉากเลือด ไม่กลัวความรุนแรง ตัวกวางยักษ์ใช้เขาไล่ขย้ำ ฉีก แขน ขา หัวคนแบบไม่ยั้ง และยังมีดีไซน์ของกวางสุดหลอน ผสมระหว่างสัตว์จริงกับความเป็นอสูรเหนือธรรมชาติ เหมือนเอา “อสุรกายกับสัตว์” มารวมกันจนเกิดเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหม่ในจักรวาลนี้ โทนหนังดิบและจริงจังขึ้น ดีกว่า Blood and Honey ภาคแรกในแง่การถ่ายภาพ แสง สี และการใช้โลเคชันป่าที่ให้ความรู้สึก “เอาตัวรอดจากบางสิ่งที่ตามล่าอยู่ แฟนของจักรวาลนี้จะได้ความฟีลเดิมแบบครบ คนที่อยากดูอะไรโหด ๆ ไม่ต้องคิดเยอะ รับรองได้เลือดแน่นอน
🦌🦌🦌
⚠️ จุดด้อยของหนังแน่นอน คือบทและการเล่าเรื่องยังคงงง ๆ โดยเฉพาะตอนต้นเรื่องที่ไม่อธิบายชัดว่ากวางยักษ์มาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร CG ในบางฉากก็ดูลอยๆ แบบไม่เนียนเลย เหมือนหนังเกรดบีถูกๆ ที่ทำ CG แบบง่อยๆ การแสดงของนักแสดงก็ยังมีความแข็งทื่อในบางช่วง โดยเฉพาะกลุ่มนักล่าที่ไม่ค่อยมีมิติ ทำให้หนังดูเหมือนแค่โชว์ฉากฆ่า ตอนจบจบง่ายเกินไป เหมือนรีบปิดฉากเพื่อต่อยอดไปภาคหน้า มากกว่าจะหาทางจบให้สมเหตุสมผล และที่สำคัญขาดมิติอารมณ์หรือความรู้สึกสงสารสัตว์ ที่ต้นฉบับดิสนีย์เคยให้ไว้ กลายเป็นหนัง “revenge horror” ล้วน ๆ ที่เน้นความสะใจมากกว่าความลึก
🦌🦌🦌
🩸 “Bambi: The Reckoning” คือหนังที่ตอบโจทย์คอหนังสยองสายโหดแบบไม่ต้องคิดมาก มาดูแค่เพื่อเห็นลูกกวางกลายร่างเป็นสัตว์เพชฌฆาตสุดโหด ไล่ล่ามนุษย์อย่างไร้ปรานี ถึงจะยังไม่ใช่หนังดีในเชิงโครงเรื่อง แต่ก็เป็นอีกก้าวที่ทำให้จักรวาล Poohiverse ดูจริงจังขึ้น และเริ่มมี “รสชาติ” ของความเป็น franchise slasher สไตล์ใหม่ ที่หยิบตัวละครวัยเด็กมาทำลายภาพจำแบบยับเยิน หนังเหมาะกับคนที่ชอบหนังแนว creature horror หรือสายโหดเลือดสาดที่อยากดูอะไร “ไร้สาระ แต่สะใจ”และถ้าคุณชอบตอนพูห์ถือมีดในป่ามาแล้ว... เจ้ากวางใน Bambi: The Reckoning จะทำให้คุณ “ขยาดเวลาเห็นกวาง” ไปอีกนาน 🦌💀
[CR] [#Review] Bambi: The Reckoning - จากลูกกวางสุดน่ารัก สู่สัตว์ป่าเพชฌฆาตเลือดเย็น อีกหนึ่งบทโหดจากจักรวาล Poohiverse
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้