โดยส่วนตัวไม่เคยเชื่อเรื่องคู่ขวัญ คู่จิ้น คู่จริง
ไม่ว่าจะคู่ไหนก็ตามเพราะเชื่อในองค์ประกอบโดยรวม
ที่ทำให้ละครเรื่องหนึ่งประสบความสำเร็จได้
รวมทั้งจิราณี จิรายุและราณี
คุณชายพุฒิภัทรบอกตรง ๆ ก็ไม่ดู
เพราะไม่ชอบคาแรคเตอร์ละคร พระเอกนางเอกแบบนี้
แต่ก็รับรู้ถึงความโด่งดังของเรื่องนี้
ได้กลับมาดูผ่าน ๆ ครั้งล่าสุดเพื่อดูพัฒนาการบางอย่าง
และกลับมาเจอในปดิวรัดา
ในเรื่องนี้ไม่ได้ห่วงคนที่เล่น แต่ห่วงคนเขียนบท
เพราะไม่สำเร็จจะเป็นสนามอารมณ์ของทุกอย่าง
แต่สิ่งที่ดีและโดดเด่นที่สุดของปดิวรัดาก็คือบทโทรทัศน์
และประคองให้จิราณีบินสูงขึ้นไปอีกทั้งคู่
กลับมาเจอกันอีกครั้งแม้จะไม่คู่กันแต่ทำให้เราเห็น
ความเป็นนักแสดงของพวกเขาทั้งคู่มากขึ้นในกรงกรรม
จนมีโอกาสที่จะกลับมาเจออีกครั้งกับ เจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง
ละครคู่กันในรอบ 9 ปี ของจิราณีที่กลับมาครั้งนี้คู่นี้จะขายขำ
ละครตลกเหมือนเรื่องง่าย ๆ แต่ถ้าไม่เจอการรวมตัวกันที่ใช่
ผลิตมันออกมาและต้องทำให้คนดูบันเทิงได้
แต่ถ้าทีมงานและนักแสดงสนุก แต่ไม่ตรงกับความต้องการของคนดู
มันจะเป็นตลกร้ายและแผลเป็นที่ลบเลือนได้ยาก
เหมือนที่เคยกังวลและเขียนไปตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของเรื่องนี้
ฉะนั้นไม่ใช่แค่บทที่ต้องแบก จิราณีต้องแบกหน้าตาของเรื่องนี้
เมื่อละครเดินทางมาถึงตอนจบก็ไม่ได้เป็นแบบคาดหวังเหมือนช่วงต้นเรื่อง
เรียกว่าละครพากันมาจบแบบคาบเส้นแบบบัวเกือบช้ำน้ำเริ่มขุ่นเกือบจะเน่า
ละครเรื่องนี้ตลกจริง แต่โรแมนติกน้อยมากเพราะผู้ผลิตกังวลกับคำว่าคู่จิ้นเกินไป
และพยายามสร้างดราม่าเพื่อจะขับเคลื่อนเรื่องไปเพื่อให้ละครไม่เบาไป
แต่มันกลายเป็นทำให้ละครหาทิศทางไม่ได้ว่าจะเอายังไงกันแน่
ตัวร้ายก็มีมากมายแต่อย่างที่คิดมันจะหมดบทไปตามทางของมันเอง
แม้กระทั้งโจรร้ายที่ก็หมดบทไปง่าย ๆ แบบเสียดายนักแสดง
แต่พระนางต้องมาเจอความวุ่นวายของจังหวะบทกลับไปกลับมาของตัวละครแทน
จนคนดูก็ไม่อยากจะรู้สึกจะรักตัวละครทั้งขุนเอกและคำดวงเท่าไหร่
ทั้งคู่เป็นตัวละครที่คนดูยังรักแต่มันน้อยกว่าคนที่ขับเคลื่อนตัวละครเรื่องนี้ คือ จิราณี
เมื่อกำหนดเรื่องเป็นรักหลอก ๆ
มันก็ต้องสร้างเรื่องกันว่ารักหลอกจะกลายเป็นรักกันจริง ๆ ไหม
แต่มันดันมาอยู่กับคู่นี้ซึ่งมันทำให้เรื่องแบบนี้แอบไม่มีความหมาย
เพราะมัน flow ไปหมดจนเหมือนละครจะจบกันไปแต่ต้นเรื่องเลย
มันเป็นข้อดีและข้อเสียของคู่นี้ในเงื่อนไขละครที่มันเป็นแบบนี้
และทีมงานก็เลือกทางเลือกที่ผิดให้ตัวละครคู่นี้ไปต่อแบบละครที่ทำให้เห็นกัน
แต่ความเป็นจิราณีก็ยังเด่นชัดไม่ว่าสถานการณ์ละครจะเป็นแบบไหนก็ตาม
จริง ๆ ตอนแรกก็กังวลมีบทเรียนจากรุ่นพี่ และรุ่นเดียวกัน
ว่าการกลับมาเจอมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด
เมฆหมอกในความอินผลงานในอดีตมันจางลงไปตามกาลเวลา
ซึ่งจริง ๆ คู่นี้ก็เกือบจะหลับเหมือนกันแต่ก็ยังกลับกันมาได้
อาจเพราะไม่ได้ร่วมงานกันบ่อย ๆ และไม่ติดกันเกินไป
ทำให้เวลาทั้งคู่กลับมาเจอกันมันมีอะไรที่แตกต่างเสมอ
ทั้งประสบการณ์และทักษะความสามารถที่มันเพิ่มพูน
และเกื้อกูลกันให้มันออกมาดีที่สุดและไม่ใช่ประคองกันไปให้รอดแบบแรก ๆ
เรื่องนี้พระนางดูเหมือนติดเล่นด้วยเรื่องราวและบทพระนางที่ตลกเป็นหลัก
แต่ทั้งคู่ก็สามารถทำให้เห็นภาพใหม่ของทั้งคู่ โดยไม่รู้สึกเสียของที่เล่นเรื่องนี้
ส่วนตัวอยากรู้วิธีคิดของการทำงานร่วมกันของคู่นี้ว่าพวกเขาคิดแบบไหน
พอมาเห็นเบื้องหลังและการพูดถึงในเรื่องก็เข้าใจ
และเห็นถึงความเป็นกัลยาณมิตรทางการแสดงพวกเขา
เรื่องนี้จะเป็น last dance ของจิราณีไหมไม่มีใครรู้ได้
ถ้าจะเจอกันอีกจะเป็นที่ตรงนี้หรือแห่งหนไหนก็ไม่ขอคาดเดา
แม้ผลตอบรับมันจะออกมาแบบเกือบ ๆ จะอิหยังวะแต่ผลงานชิ้นนี้
เห็น เบลล่า ที่มีความสนุกและความสุขที่ได้เป็นตัวละครตัวนี้
และ เจมส์ จิรายุ ที่มีจะอีกคาแรคเตอร์ตัวละครที่ได้เลือกและลองทำออกจาก safe zone
ที่ทำให้ลูกค้าสนใจติดต่อเขาไปแสดงนอกจากคาแรคเตอร์เดิม ๆ ที่คุ้นตา
และสองคนร่วมกันทำฝันของกันและกันและร่วมทำออกมาให้ดีที่สุด
ให้คนดูได้ชื่นชมในทุกสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจแสดงบทบาทนั้น
และทำให้ตัวเองหมดสงสัยทำไมคนถึงนิยมชมชอบคู่นี้มาเกือบ 12 ปี
เจ้าคุณพี่ ฯ กับ จิราณี
ไม่ว่าจะคู่ไหนก็ตามเพราะเชื่อในองค์ประกอบโดยรวม
ที่ทำให้ละครเรื่องหนึ่งประสบความสำเร็จได้
รวมทั้งจิราณี จิรายุและราณี
คุณชายพุฒิภัทรบอกตรง ๆ ก็ไม่ดู
เพราะไม่ชอบคาแรคเตอร์ละคร พระเอกนางเอกแบบนี้
แต่ก็รับรู้ถึงความโด่งดังของเรื่องนี้
ได้กลับมาดูผ่าน ๆ ครั้งล่าสุดเพื่อดูพัฒนาการบางอย่าง
และกลับมาเจอในปดิวรัดา
ในเรื่องนี้ไม่ได้ห่วงคนที่เล่น แต่ห่วงคนเขียนบท
เพราะไม่สำเร็จจะเป็นสนามอารมณ์ของทุกอย่าง
แต่สิ่งที่ดีและโดดเด่นที่สุดของปดิวรัดาก็คือบทโทรทัศน์
และประคองให้จิราณีบินสูงขึ้นไปอีกทั้งคู่
กลับมาเจอกันอีกครั้งแม้จะไม่คู่กันแต่ทำให้เราเห็น
ความเป็นนักแสดงของพวกเขาทั้งคู่มากขึ้นในกรงกรรม
จนมีโอกาสที่จะกลับมาเจออีกครั้งกับ เจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง
ละครคู่กันในรอบ 9 ปี ของจิราณีที่กลับมาครั้งนี้คู่นี้จะขายขำ
ละครตลกเหมือนเรื่องง่าย ๆ แต่ถ้าไม่เจอการรวมตัวกันที่ใช่
ผลิตมันออกมาและต้องทำให้คนดูบันเทิงได้
แต่ถ้าทีมงานและนักแสดงสนุก แต่ไม่ตรงกับความต้องการของคนดู
มันจะเป็นตลกร้ายและแผลเป็นที่ลบเลือนได้ยาก
เหมือนที่เคยกังวลและเขียนไปตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของเรื่องนี้
ฉะนั้นไม่ใช่แค่บทที่ต้องแบก จิราณีต้องแบกหน้าตาของเรื่องนี้
เมื่อละครเดินทางมาถึงตอนจบก็ไม่ได้เป็นแบบคาดหวังเหมือนช่วงต้นเรื่อง
เรียกว่าละครพากันมาจบแบบคาบเส้นแบบบัวเกือบช้ำน้ำเริ่มขุ่นเกือบจะเน่า
ละครเรื่องนี้ตลกจริง แต่โรแมนติกน้อยมากเพราะผู้ผลิตกังวลกับคำว่าคู่จิ้นเกินไป
และพยายามสร้างดราม่าเพื่อจะขับเคลื่อนเรื่องไปเพื่อให้ละครไม่เบาไป
แต่มันกลายเป็นทำให้ละครหาทิศทางไม่ได้ว่าจะเอายังไงกันแน่
ตัวร้ายก็มีมากมายแต่อย่างที่คิดมันจะหมดบทไปตามทางของมันเอง
แม้กระทั้งโจรร้ายที่ก็หมดบทไปง่าย ๆ แบบเสียดายนักแสดง
แต่พระนางต้องมาเจอความวุ่นวายของจังหวะบทกลับไปกลับมาของตัวละครแทน
จนคนดูก็ไม่อยากจะรู้สึกจะรักตัวละครทั้งขุนเอกและคำดวงเท่าไหร่
ทั้งคู่เป็นตัวละครที่คนดูยังรักแต่มันน้อยกว่าคนที่ขับเคลื่อนตัวละครเรื่องนี้ คือ จิราณี
เมื่อกำหนดเรื่องเป็นรักหลอก ๆ
มันก็ต้องสร้างเรื่องกันว่ารักหลอกจะกลายเป็นรักกันจริง ๆ ไหม
แต่มันดันมาอยู่กับคู่นี้ซึ่งมันทำให้เรื่องแบบนี้แอบไม่มีความหมาย
เพราะมัน flow ไปหมดจนเหมือนละครจะจบกันไปแต่ต้นเรื่องเลย
มันเป็นข้อดีและข้อเสียของคู่นี้ในเงื่อนไขละครที่มันเป็นแบบนี้
และทีมงานก็เลือกทางเลือกที่ผิดให้ตัวละครคู่นี้ไปต่อแบบละครที่ทำให้เห็นกัน
แต่ความเป็นจิราณีก็ยังเด่นชัดไม่ว่าสถานการณ์ละครจะเป็นแบบไหนก็ตาม
จริง ๆ ตอนแรกก็กังวลมีบทเรียนจากรุ่นพี่ และรุ่นเดียวกัน
ว่าการกลับมาเจอมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด
เมฆหมอกในความอินผลงานในอดีตมันจางลงไปตามกาลเวลา
ซึ่งจริง ๆ คู่นี้ก็เกือบจะหลับเหมือนกันแต่ก็ยังกลับกันมาได้
อาจเพราะไม่ได้ร่วมงานกันบ่อย ๆ และไม่ติดกันเกินไป
ทำให้เวลาทั้งคู่กลับมาเจอกันมันมีอะไรที่แตกต่างเสมอ
ทั้งประสบการณ์และทักษะความสามารถที่มันเพิ่มพูน
และเกื้อกูลกันให้มันออกมาดีที่สุดและไม่ใช่ประคองกันไปให้รอดแบบแรก ๆ
เรื่องนี้พระนางดูเหมือนติดเล่นด้วยเรื่องราวและบทพระนางที่ตลกเป็นหลัก
แต่ทั้งคู่ก็สามารถทำให้เห็นภาพใหม่ของทั้งคู่ โดยไม่รู้สึกเสียของที่เล่นเรื่องนี้
เรื่องนี้จะเป็น last dance ของจิราณีไหมไม่มีใครรู้ได้
ถ้าจะเจอกันอีกจะเป็นที่ตรงนี้หรือแห่งหนไหนก็ไม่ขอคาดเดา
แม้ผลตอบรับมันจะออกมาแบบเกือบ ๆ จะอิหยังวะแต่ผลงานชิ้นนี้
เห็น เบลล่า ที่มีความสนุกและความสุขที่ได้เป็นตัวละครตัวนี้
และ เจมส์ จิรายุ ที่มีจะอีกคาแรคเตอร์ตัวละครที่ได้เลือกและลองทำออกจาก safe zone
ที่ทำให้ลูกค้าสนใจติดต่อเขาไปแสดงนอกจากคาแรคเตอร์เดิม ๆ ที่คุ้นตา
และสองคนร่วมกันทำฝันของกันและกันและร่วมทำออกมาให้ดีที่สุด
ให้คนดูได้ชื่นชมในทุกสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจแสดงบทบาทนั้น
และทำให้ตัวเองหมดสงสัยทำไมคนถึงนิยมชมชอบคู่นี้มาเกือบ 12 ปี