จากรอบก่อนได้ลองตัว Air 3 ไป รอบนี้ได้ตัว Buds 3 มา โดยรวมคือเป็นหูฟังสำหรับฟังเพลงหนักๆ เล่นเกมส์ได้ แถมยังเป็นหูฟังรุ่นใหม่ที่รองรับ iSuper Game Link ด้วย เป็นยังไงมาอ่านกันต่อครับ
อุปกรณ์ในกล่อง
1. หูฟัง iSuper EVOBUDS 3 สีดำ
2. สายชาร์จ Type-C
3. จุดสำรองให้ 2 ไซต์ S/L
4. คู่มือการใช้งาน
วัสดุตัวเคสและหูฟัง
- ตัวเคสรอบนี้จะจะบางขึ้น ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนที่เป็นตลับแป้ง เป็นผิวแบบด้านของผมเป็นสีดำ การเปิดเคสคือเปิดด้านบนเหมือนรุ่น Pro ข้างล่างมี พอร์ท USB-C สำหรับชาร์จไฟและไฟ LED เล็กๆ บอกสถานะการชาร์จครับ
- ตัวหูฟังเป็นแบบ In-Ear เปลี่ยนจุกซิลิโคนได้ ในส่วนของก้านจะเป็นแบบผิวเงา ในส่วนหูฟังด้านบนจะเป็นแบบผิวด้าน ข้อดีคือเวลามีเหงื่อมันจะไม่มีเสียงแจ๊บๆ แบบหูฟังดูดกับผิวของเรา กับอีกอย่างเวลาเอาเข้าออก จะง่ายไม่ฝืดครับ
- หูฟังมีไมค์ให้ข้างละ 3 ตัว ตำแหน่งบน 2 และตำแหน่งล่าง 1 ทำหน้าที่ต่างกันออกไป ทั้ง รับเสียงของเรา , รับเสียงข้างนอก (เวลาเปิดโหมด Transparency ) , และไมค์ตัดเสียงรบกวน จากที่ใช้งานเล่นเกมส์ อีกฝั่งแจ้งว่าเสียงชัดดี น่าจะเป็นเพราะมีไมค์ 2 ตัวหลักๆ ที่ทำหน้าที่ตัดเสียงกับดูดเสียงเรานี่แหละครับ
- Touch Control จะอยู่ด้านปลายบนของก้าน จับได้สะดวกแน่นอน เพราะรุ่นนี้ถ้าดูดีๆ ก้านเหมือนจะใหญ่ขึ้น จับถนัดดีครับ
- ตรงด้านข้างในของก้านจะมี จุดแม่เหล็ก 2 จุดเอาไว้ขาร์จกับเคสครับ
การเชื่อมต่อแอป iSuper Play
- iSuper EVOBUDS 3 สามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อปรับแต่งหลายๆ อย่างได้ผ่านแอป iSuper Play เหมือนเดิม รองรับทั้ง iOS และ Android ปรับแต่งอะไรได้บ้างมาดูครับ
- หลังจากเชื่อมต่อแล้ว หน้าแรกของแอป Status จะบอกแบตเตอรี่ของหูฟังทั้ง 2 ข้าง
เมนู Sound ตรงนี้จะมีเมนูย่อยอีก 3 เมนูคือ
- - ปรับ EQ เสียง : โดยสามารถเลือก Preset จากโรงงานได้มีทั้งหมด 7 เสียง และสามารถ Custom EQ เองได้อีก
--------------------------
Noise canceling mode มีอยู่ 2 โหมดคือ
--------------------------
[ Noise Canceling ] คือ การตัดเสียงรบกวนถ่ายนอก สำหรับที่อยู่ในพื้นที่เสียงดังๆ เช่นบนห้างที่เสียงดังๆ ตัวเปิดแล้วเงียบกริบเลยครับ น่าจะเป็นหูฟังแบบ in ear เลยช่วยการตัดเสียงอีกชั้น
- - - ในโหมดนี้จะมี 5 โหมดย่อยในการตัดเสียงตมระดับความดังที่เราได้เจอ คือ Adaptive ANC , Noisy (เสียงรบกวนเล็กน้อย) , Commuting (เสียงรบกวนมาก) , Indoor (เสียงบริเวณที่เงียบ) , Anti-wind noise (เสียงลมหรือเสียงจากพัดลมก็ได้ อันนี้ผมทดสอบกับพัดลมคือไม่มีเสียงลมพัดที่หูเลยครับ 555)
[ Transparency ] คือ โหมดรับเสียงภายนอกเข้ามาในหูฟังเรา โดยปกติถ้าเราใส่หูฟังแบบ In Ear มันจะไม่ค่อยได้ยินเสียงข้างนอก แต่ถ้าเปิดโหมดนี้ ไมค์ที่อยู่ในหูฟังจะดึงเสียงข้างนอกมาให้เราฟังด้วย ก็จะดีสำหรับคนที่อยากฟังด้วย และฟังคนรอบข้างเม้าท์ไปด้วยครับ 5555555 ใครทำงานอยู่ที่ออฟฟิตผมว่าใช้ได้เลย
- สุดท้ายจะเป็น [ Normal ] คือเป็นการปิดโหมด ANC ครับ
(จะมีโหมด EnvironmentAdaptive ช่วยในการตัดเสียงแบบอัตโนมัติจากสภาวะแวดล้อมข้างนอก ปรับแบบสูงต่ำได้)
- Sound Channel Balance : คือการปรับระดับการได้ยินหูฟังข้างซ้ายและขวา ให้ดังเท่าๆ กัน สำหรับบางคนที่มีปัญหาได้ยินไม่เท่ากันของหูครับ
เมนู Setting หลักๆ จะมี 6 เมนูในการใช้งานคือ
1. ปรับแต่งคำสั่ง Touch Control หูทั้ง 2 ข้าง โดยสามารถแตะได้ถึง 3 ครั้งในการสั่งงานผ่านหูฟังครับ
2. เสียง Beep Volume คือเสียงผู้หญิงที่พูด โหมดต่างๆ ว่าจะให้ความดังเท่าไหร่
3. Timing Power-off คือ ตั้งเวลาปิดหูฟัง
4. Sleep mode คือปิดการทำงานของ Touch Contol ไม่ให้โดนแตะตอนนอนหลับครับ
5. Gaming Mode เปิดปิดตรงนี้ หรือที่หูฟังก็ได้
6. Dual Device connection เปิดใช้งานการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน
7. อื่นๆ ก็จะมีอัพเกรดเฟิร์มแวร์และรีเซ็ตหูฟังครับ
รีวิวเสียงกันบ้าง
iSuper EVOBUDS 3 ใช้ไดรเวอร์ขนาด 12mm ให้เสียงที่แน่นและหนามากๆ ส่วนเสียงที่ผมได้ฟังจะเป็นตามนี้ครับ
- เสียงเดิมจากโรงงานเลยจะเป็น เสียงเน้นเบสเป็นหลัก อันนี้คือเน้นจริงๆ นะ ถ้าได้ใส่เข้าไปในหูเต็ม มันจะเงียบแล้วเบสจะลูกใหญ่ ตามด้วยเสียงกลางที่ไม่แสบหู เสียงจากสแนร์ได้ยินฟังชัดเจนดี หรือเสียงนักร้องจะได้ยินชัดดีครับ ส่วนเสียงแหลม พอมีเบสหนักๆมา เสียงแหลมก็จะมีได้ยินอยู่ แต่ไม่ได้ซิกๆ แบบละเอียด แต่ถ้าจะเพิ่มเสียงแหลม ไปปรับ EQ ให้เกราฟด้านขวาดันขึ้นได้ครับ อันนี้คือข้อดีของปรับ EQ ได้ แต่สำหรับผมเสียงจากโรงงานก็เพียงพอแล้วครับ ฟังนานๆ ไม่แสบหูดี และอีกอย่างผมชอบเสียงเบสอยู่ละ 555
- Sound stage กว้างฟังสนุก ไม่อึดอัด แต่ไม่ได้โปร่งแบบกว้างมาก เพราะหูฟังยังให้เสียงแหลมไม่มากพอครับ
- แนวเพลงที่แนะนำ เน้นเพลง ROCK , Dance , Tech , Blues , Electronic พวกนี้ฟังได้จะสะใจมาก ผมเปิด 90% ขึ้นเบสมาเต็ม ไม่แสบหูเลย
การใช้งานเล่นเกมส์
- อันนี้บอกตามตรงว่าผมใช้ iSuper Evobuds 2 รุ่นเก่าเล่น PUBG Mobile ทุกวัน คือผมค่อนข้างเชื่อใจโหมดเกมส์ของ iSuper ว่ามันเล่นเกมส์ FPS แบบแทบจะไม่ดีเลย์เลยหรือดีเลย์จะน้อยมาก ถ้ารุ่น Evobuds 3 จะลงต่ำไปถึง 68ms ใช้บลูทูธเวอร์ชัน 5.4 รุ่นยังใหม่อยู่ ที่สำคัญหูฟังรุ่นนี้ รองรับตัว Game Link ที่จะใช้งานกับ PC เล่นเกมส์ ทำงานเรื่องเสียงตัดต่อ ไม่ดีเลย์ได้เลย เพราะผมใช้อยู่ทุกวัน คอนเฟิร์มครับ
- ส่วนการฟังบน Youtube แนะนำให้เปิด Game mode เพราะบางคลิปก็อาจจะดีเลย์บ้าง ถ้าเปิด Game Mode ไว้ เสียงกับปากที่พูดจะตรงกันแทบทุกคลิปครับ
แบตเตอรี่และการใช้งาน
หูฟังจะใช้งานต่อเนื่อง 6 ชั่วโมงอันนี้ปิด ANC นะครับ ถ้าเปิด ANC จะใช้ได้ 4 ชั่วโมง ประมาณนีแหละ ผมลองใส่ทำงานแบบปิด ANC 3 ชั่วโมงกว่า แบตก็ยังไม่เตือนว่าหมดครับ ถ้าใช้ร่วมกับเคสชาร์จจะชาร์จได้ 3-4 รอบ รวมๆ แล้วจะใช้งาน 10 กว่าชั่วโมงขึ้นแน่นอนครับ
สรุปหลังการใช้งาน
iSuper EVOBUDS 3 ก็ยังเป็นหูฟังที่เน้นเบสเป็นหลัก ใครชอบฟังเพลงหนัก ชอบหูฟังแบบอินเอียร์ หรือใช้งานทำงาน เล่นเกมส์ก็ได้ ผมแนะนำจริงๆ เพราะหูฟังรุ่นนี้มันก็ตอบโจทย์หลายอย่างสำหรับผมนะ ไม่มีปัญหาอะไรเลย เสียงโรงงานก็จูนมาให้อย่างดีแล้ว ที่สำคัญก็ยังรองรับ iSuper Game Link ด้วย (แนะนำให้ซื้อไม่แพงครับตัว Game link เนี่ย ใช้กับ PC คือตีบวกไปเลย) ใครสนใจลองดูลิ้งก์ที่ผมแปะไว้ให้นะครับ วันโปรเหลือน่าจะ 600 กว่าบาทครับ
[SR] รีวิว iSuper EVOBUDS 3 หูฟังรุ่นใหม่ ตัดเสียง ANC สาย ROCK เบสหนัก เล่นเกมส์ จัดให้ไว
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้