ทำไมคนแบบนี้ถึงกล้าเรียกตัวเองว่าเพื่อนสนิท

ก่อนอื่นก่อนบอกกว่อนว่าหนูสนิทกับคนนี้มาตั้งแต่ ม.1 จนถึงปัจจุบัน (ม.4) พอดีพ่อหนูเป็นเพื่อนกันค่ะ ช่วงม.1เป็นช่วงเข้าโรงเรียนใหม่หนุยังไม่ได้สนิทกับคนนี้มากมาสนิทอีกทีก็ช่วงเทอม2 แรกๆเขาก็ดีค่ะจนมาถึง ม.2 มีการไปเข้าค่ายค้นหาตัวตนกันมีหนูเขาแล้วก็เพื่อนอีกคน เขานัดกันใส่เสื้อห้องพิเศษกันแต่เพื่อนคนนี้บอกหนูว่าให้ใส่ของปีที่แล้ว(ม.1) ซึ่งหนูมารู้อีกทีตอนเช้าก่อนที่จะไปเข้าค่าย(เพื่อนอีกคนมาบอกก่อน หนูพยายามคิดดีๆเพราะต้องอยู่กันอีกหลายปีค่ะ เลคิดวว่าคงแกล้งกันเฉยๆมั้ง ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ดูแปลกๆไป ชอบแซะหลายๆอย่างตั้งแต่รสนิยมไปจนถึงอาหารที่ชอบ ขอลองยกตัวอย่างประโยคนะคะ เวลาหนูพูดว่าหนูนมถั่วเหลืองยี่ห้อนี้ เขาจะพูดประมาณว่า ชอบไปได้ยังไงเขาเคยกินแล้วรถชาติเหมือนอ้วก สำหรับหนูค่อนข้างมีเพื่อนเยอะช่ประถามมเรียกได้ว่าสนิทง่ายเลยค่ะ เพื่อนที่หนูเคยสนิด้วยไม่มเคยมีใครพูดคำประมาณนี้ ส่วนตตอนประถมเมเรียนโรงเรียนธรรมดาเป็นสังคมหลายๆแบบ หนูรู้จักคนเยอะ แต่ก็อย่างที่พูดมาหนูไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้จริงๆ พออยู่ไปเรื่อยๆเขากับหนูก็เรียนพิเศษที่เดียวกัน หนูค่อนข้างถนัดภาษาอังกฤษ เวลาเขามีสอบหรือครูถามในที่เรียนพิเศษ หนูก็จะตอบ แต่หลังจากหนูตอบเพื่อนหนูก็จะไม่คุยกับหนูเลยจนกลับบ้าน หลายครั้งที่ปกติตอนนั้นหนูกับเขาจะเดินมาเรียนด้วยกันเพราะไม่ค่อยไกล แต่ช่วงนั้นฝนตกก็เลยเป็นการให้พ่อแม่มารับไปส่งมากกว่า ก็เลยคิดว่าเขาไม่สนิทกับหนูตั้งแต่ตอนนั้นรึเปล่า หลายครั้งที่เวลาหนูไปเรียนหนูจะนั่งข้างๆกับเพื่อนคนนี้ตลอด เขาจะไม่พูดกับหนูเลยจนหนูพยายามชวนคุยแต่พูดกับคนอื่น วันนึงหนูก็อยากรู้ว่าถ้าหนูไม่ชอวนเขาคุยเขาจะเป็นยังไงสรุปเขาตึงใส่หนูทั้งวันจนเลิกเรียนพิเศษ มีหลายๆคนที่เรียนกับหนูถามตลอดว่าทะเลาะอะไรกัน หนูก็อยากบอกว่าไม่รู้ เพราะเห็นเขาคุยกับคนอื่นปกติแต่ไม่คุยกับหนูเลย(ที่นั่งข้างๆกัน) หนูพยายามปรับหลายครั้งจนเวลาหนูพูดอะไรเขาจะคอยช็อตตลอด หนูไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้กับแค่หนู ไอ้เรื่องแบบนี้หนูพยายามถามแม่บ่อยๆแล้ว ถามเพื่อนสนิทอีกคนแต่ก็ไม่ค่อยกล้าเล่ามากเพราะกลัวเพื่อนสนิทคิดไม่ดีหรือมองไม่ดีใส่เพื่อนหนู จนมาม.3 หนูคิดว่ส ม.3เป็นปีที่อย่างน้อยหนูจะได้สอบย้ายโรงเรียนไปอยู่ที่อื่น ที่ๆคนต้อฃทักทายกันใหม่และหาเพื่อนใหม่ช่วงนั่นหนูพยายามไม่คิดอะไรและปลีกตัวมาอยู่กับเพื่อนอีกคนมากกว่า ช่วงม.3หนูอยากเขาทางสายภาษามากๆแน่นอนว่า ห้องเรียนพิเศษวิทย์-คณิต จะย้ายไปสายภาษาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หนูทะเลาะกับพ่อแม่บ่อยมาก แต่ก็พยายามมีควาทสุขกับเพื่อนที่โรงเรียน ส่วนทาฃที่เรียนพิเศษหนูก็ขอออกมาเพราะคุณแม่อยากให้ติวเจาะจงมากกว่า(คุณแม่จะให้สอบเข้าโครงการวิทย์หลายๆโครงการ) สักพักเขาก็ออกตามมา หนูเลือกเรียนออนไลน์ช่วงนั่นหนูคิดว่าหนูจะได้ออกไปก็เลยพยายามคุยกับเพื่อนในห้องที่คิดว่าดีทุกคน มันเลยเป็นเรื่องที่ดีบ้าง เพื่อนคนนี้เขาก็ดูปกติแล้วทำตัวเหมือนเดิมแต่หนูคิดว่าตอนนี้เพื่อในห้องหนูก็มีเยอะมากแล้ว แล้วอีกเดี๋ยวก็คงจะได้ย้ายโรงเรียน หนูมีควาทสุขมาก ตอนนั้นหนุขอผู้ชายคนนึงคบหนู(คนนี้หนูคุยๆเลิกๆตั้งแต่ม.1โดยรวมก็คุยกันปีละครั้ง) หนูดีใจที่คิดว่าอีกเดี๋ยวพอหนูย้ายโรงเรียนไปต่างจังหวัดไปอยู่หอ หนูคงมีความสุขกว่านี้และคบกันแบบสบายใจ อันนี้มันอาจจะนอกเรื่องนิดนึงแต่หนูขอบอกก่อนเลยค่ะ หนูติดโครงการวิทย์ทุกโครงการ แต่หนูไม่ติดโรงเรียนที่มีสายที่หนูอยากเข้า หนูขอไม่โทษใครค่ะผิดเองที่หนูไม่ได้ตั้งใจ จัดเวลาไม่ดีค่ะ แต่หนูเศร้ามากๆวันนั้น หนูคิดว่า หนูไม่ติดโรงเรียนนี้หนูคงไม่มีความหวังอะไรแล้ว หนูเลยคิดอะไรไม่ดีมากๆค่ะ เอาเป็นว่าหลังจากนั้นหนูก็บอกเลิกผู้ชายคนนั้นไป สุดท้ายคนที่เห็นแก่ตัวก็คือหนูจริงๆ เรื่องโครงการวิทย์หนูติดสองที่เป็นสำรองแล้วก็ตัวจริงแต่ว่าตัวจริงที่คิดคือจังหวัดไกลมากแล้วสำรองก็เรียกไม่น่าถึงเลยต้องมาสอบ เข้าโครงการก้องเรียนพิเศษโรงเรียนเดิมค่ะ หนูก็ติดนั่นแหละค่ะแต่เพื่อนเก่าที่หนูสนิทด้วย อยู่ห้อง2หมดเลย มีหนูที่อยู่ห้อง1(ห้องเรียนพิเศษโรงเรียนหนูมี2ห้อง) ตอนแรกคิดว่าอย่างน้อยก็ดีที่ไม่ต้องเจอเพื่อนคนนั้นแล้ว แต่ช่วงม.4หนูรู้สึกว่าหนูเข้ากับใครในห้อง1ไม่ได้เลย เพราะส่วนมากเป็นห้อง1เก่า แล้วห้อง1กับห้อง2ปัหนูเคยมีปัญหาหนักกันมาก แล้วก็อาจจะเป็นเพราะหนูสุขภาพจิตไม่ดี อยู่ๆก็เป็น ซึมเศร้า กับ BPD เลยค่ะ หนูพยายามคุยกับทั้งห้องตัวเองและเพื่อนสนิทคนที่อยู่ห้องสอง แต่แน่นอนหนูต้องเจอหน้ากับเพื่อนของหนู(คนที่หนูพูดถึงไป) หนูไม่อยากให้มีปัญหา หนูเลยพยายามคุยกันแบบปกติ หนูรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว เลยดีใจมากๆค่ะ  หนูเห็นเพื่อนสนิทของหนูคุยกันกับแฟนเก่าแบบสนิท พูดตามตรงหนูไม่คิดอะไรเลยค่ะ หนูรู้สึกผิดกับแฟนเก้าหนูมากจริงๆที่หนูเอาเขาเข้ามาในสนามอารมณ์ของหนู แต่เพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกันของหนู บอกว่าเขาอยู่ในกลุ่มเดียวกับแฟนเก่าหนูในกลุ่มแอพๆนึง แฟนเก่าของหนูมาร้องให้ในโทรกลุ่มช่วงที่หนูเลิกกันแล้วมาถามเหตุผลกับเพื่อนของหนู(เพื่อนที่หนูพูดถึง) ว่าเขาผิดอะไรบอกเลิกทำไมงงแช้วก็โกรธหนูซึ่งในโทรอันนั้นมัเพื่อนของแฟนเก่าหนูเต็มเลยที่นินทาหรือด่าหนู (หนูไม่ได้บอกเหตุผลเพราะช่วงนั้นหนูก็ไม่เข้าใจตัวเองแค่รู้สึกว่าทำผิดมามากพอแล้ว) ตอนได้ยินก็เป็นเหตุผลว่าเพื่อนห้องเก่าที่เคยสนิทด้วยดูนินทาว่าร้ายหนู แต่ว่า เหตุผลที่เขาคิดว่าหนูคบกับเขาคือ หนูคบกับเขาเพราะกลัวสตอร์กเกอร์ อันนี้หนูมารู้เหตุผลเพราะเพื่อนสนิทหนูบอกว่าอยู่ๆแฟนเก่าหนูก็ร้องไห้ตอนเลิกเรียนแล้วพูดกับเพื่อนหนู(คนที่หนูพูดถึง)ว่าเขาเป็นแค่คนปกป้องดูแล เรื่องสตอร์กเกอร์หนูขออธิบายก่อนว่าเกิดขึ้นช่วง ม.3 เขาวาดรูปหนูลงในไอตีเป็นสิบๆภาพและคอยเดินตามจะมาดักเจอหนู เอาตามจริงหนูไม่เคยกลัวคนแบบนี้เลย รู้สึกว่าเป็นคนที่น่าสงสารมากว่าแต่แน่นอนพอมันเข้าใกล้มากเกินไปหนูก็สวนด่าบ้าง จนถึงตอนที่หนูคบกับแฟนเก่าเขาก็ไม่มารังควานอีก แต่ช่วงที่หนูเจอคนที่รู้ในห้องก็มีเยอะ แต่เขาไม่ได้ทำตัวปกป้องอะไรหนูเลยหนูก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะมาปกป้องด้วย เพราะดูตั้งแต่ตอนคบ ไม่เคยคุยกับที่ฌรงเรียนทั้งที่คบอยู่เลยเรื่องนี้ก็ไม่กล้าทำอะไรมีแต่เพื่อนอีกคนที่มาปกป้องเรื่องนี้ จบเรื่องนี้ไปก่อน สรุปคือหนูก็นัดกินอาหารกับเพื่อน(คนที่หนูพูดถึง)สองคน และบอกเหตุผลตามจริงหนูนึกว่ามันจะดีขึ้นมาสรุปแล้วเหตุผลพวกนั้นเขาไม่เคยบอกแฟนเก่าหรือแก่ข่าวอะไรในกลุ่มเพื่อนเลย นินทาหนูกับคนอื่นลับหลังเต็มไปหมด หนูไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากอะไรทำไมเจาทำแบบนี้เขาบอกว่าหนูเป็นเพื่อนสนิทแต่ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงหนูไม่เข้าใจเรื่องที่บ้านก็แย่พอแล้วยังค้องเจออะไรแบบนี้อีก (หนูลืมบอกว่าพ่อแม่ไม่ได้พาหนูไปหาหมอเลย คุณแม่ทำงานในสายงานพวกนี้(โรงพยาบาล) จนหนูต้องไปหาน้าที่เป็นเพื่อนแม่(เป็นหมอจิต) ให้ช่วยบิกว่าจริงๆแล้วหนูเป็นอะไรกันแน่ แน่นอนว่าสุดท้ายคุณน้าก็บอกแม่อยู่ดีแต่แม่ไม่ยอบรับไม่เป็นไรเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันหนูแค่สงสัยว่าอะไรทำให้คนที่กล้าบอกว่าเป็นเพื่อนของหนูเพื่อนสนิทหนูและเลือกหนูเป็นรายชื่อเพื่อนที่สนิทที่สุดทำแบบนี้กนผุไม่เคยเข้าใจเลยค่ะ ตอนนี้ ม.4เทอม2หนูดีขึ้นมาเยอะมากๆแค่พอต้องมองหน้าเพื่อนคนนี้หนูรุ้สึกไม่ดีคลอดเวลาเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ (บางข้อความหนูอาจพิมพ์ผิดหรือนอกเรื่องตกหล่นไปบ้างยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ🙏)