JJNY : ไม่เห็นด้วย! ปล่อยตัวเชลยศึก│กรุงเทพโพลล์ เผยไม่มีเงินทุน│กัมพูชาหนุนจีนเป็นศูนย์กลางทองคำโลก│เตือนฝนตกหนัก 37จว.

ชาวบ้านไม่เห็นด้วย! ปล่อยตัว 18 เชลยศึกเขมร ควรมีข้อต่อรองทวง “ตาควาย-คนา” กลับคืนมาให้ได้ก่อน
.
.
ชาวบ้านไม่เห็นด้วยปล่อยตัว 18 เชลยศึกเขมร ปราสาทตาควาย-ปราสาทคนา เขมรยังยึดครองอยู่ ควรมีข้อต่อรองนำพื้นที่ของไทยได้กลับคืนมาให้ได้ก่อน
.
กรณีมีกระแสข่าวว่า กองทัพบก ได้ประสานไปยังกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กป.ชต.) ให้เตรียมความพร้อม สถานที่ ที่พัก เตรียมการปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชา จำนวน 18 นาย จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ในวันที่ 12 พ.ย.68 นี้
.
โดยวันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ชายแดนสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่ปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และในพื้นที่ปราสาทคนา บ้านแนงมุด ต.แนงมุด อ.กาบเชิง ถึงความคิดเห็นกรณีดังกล่าว
.
น.ส.สุดา ชาวบ้านไทยนิยมพัฒนา ม.17 ต.บักได อ.พนมดงรัก บอกว่า ยังไม่อยากให้ปล่อยอยากให้มีข้อต่อรองกันก่อน เพราะตัวปราสาทตาควายกับปราสาทคนา เราก็ยังไม่ได้คืนเขมรยังครอบครองอยู่ อะไรก็จะยกให้เขาไปหมด ปล่อยไปฟรีๆ โดยไม่มีข้อต่อรองเงื่อนไขอะไร เขาให้ปล่อยก็จะปล่อย เรื่องทหารก็เหมือนกันตอนนี้ยังไม่อยากให้ทหารถอนกำลังออก เพราะกัมพูชาไว้ใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาจะรุกคืบเข้ามาตอนไหน ถ้ายอมเสียไปแล้วเขาก็จะรุกล้ำดินแดนของเราเข้ามาอีกเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเราเสียไปเท่าไหร่แล้ว
.
ด่านก็เหมือนกันเราน่าจะตั้งเงื่อนไขถ้าเราไม่ได้พื้นที่ของเราคืนก็ไม่อยากให้เปิดด่าน ปิดไปเลยยิ่งดี เชลยศึก 18 คนถ้าไม่มีเงื่อนไขเราก็ไม่อยากให้ปล่อยไป เราน่าจะมีข้อต่อรองกับเขาบ้าง ไม่ใช่ให้เขาเอ่ยเอาอ้างเอาเราฝ่ายเดียวแล้วเราต้องทำตามเขาทุกอย่าง ทั้งที่เราเหนือกว่าเขาทุกด้าน แต่ตอนนี้เหมือนเราอ่อนแอกว่าเขา สงสารทหารทำงานลำบาก เพราะว่าคนในพื้นที่คลุกคลีอยู่กับทหารรู้ว่าเป็นอะไรอย่างไร ไม่มีใครอยากเสียดินแดนหรอก
.
ปราสาทตาควายก็เป็นของเรา ชาวบ้านไทยนิยมก็เป็นคนไปบูรณะตัวปราสาท รุ่นพ่อรุ่นปู่ไปบุกเบิกและพัฒนาทำถนนหนทางขึ้นไป อยากได้ปราสาทตาควายกับคืนมาก่อน ไม่อยากให้เขมรขึ้นไปอยู่กันแบบนี้ ต่อไปชาวบ้านที่อยู่ติดกับปราสาทจะปลอดภัยไหม ห่างแค่ไม่กี่กิโล ไม่รู้ว่าเขารุกคืบมาอีกตอนไหน ตัวปราสาทก็อยู่พื้นที่สูงแล้วเราอยู่ที่ราบจะหาความปลอดภัยจากไหน เสียใจมากทั้งๆ ที่เราไม่ควรจะเสียเลยปราสาทตาควาย ตามที่ได้ดูข่าวเหมือมาจากการเจรจาหยุดยิงที่ทำให้เราเสีย ตอนนี้อยากให้ทำด้วยวิธีไหนก็ได้ให้ได้ปราสาทกลับมาคืนเพราะมันเป็นของคนไทย
.
ขณะที่ นายวีรวัฒน์ พันธุ์ศิลป์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านแนงมุด ม.1 ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ผู้ซึ่งเคยเข้าไปสำรวจตัวปราสาทคนา เพื่อที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อหลายสิบก่อน บอกว่า ต้องไปดูก่อนเชลยศึกกับแผ่นดินไทยที่เขมรยึดไป ถ้าปล่อยไปแล้วเกิดประโยชน์กับแผ่นดินไทย ช่วยให้ได้แผ่นดินไทยกลับคืนมาได้ก็ต้องไปคุยกัน
.
แต่ถามว่าคุยกันมากี่รอบแล้วแต่ไม่เคยเห็นคุยในเรื่องทวงแผ่นดินไทยของเรากลับคืนมาเลย ในชุดระดับของต่างประเทศระดับกระทรวงเรา แต่ถ้าเขาเอาประเด็นเฉลยศึกมาอ้างว่าไม่ส่งหรือจะส่งแล้ว ถ้าส่งมันก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนกันกับแผ่นดินของเราที่ถูกเขมรยึดครองอยู่ ปัจจุบันคือปราสาทคนากับปราสาทตาควาย ถ้าแลกเปลี่ยนกันได้มันก็ดี
.
ตนไม่อยากพูดอะไรไปมากว่านี้ เป็นเรื่องราวระหว่างประเทศ แต่พอมีประเทศที่สามเข้าผูกมัดนั้นมันคือปัญหา ตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาประเทศที่สามเข้าต่อรองปัญหาระหว่างเราสองประเทศที่มีปัญหากัน
.
ส่วนเรื่องปล่อยตัว 18 เชลยศึก ถ้าปล่อยแล้วมันได้อะไรขึ้นมา กับการไม่ปล่อยแล้วมันได้อะไรขึ้นมา ถ้าปล่อยไปแล้วไม่ได้อะไรก็เหมือนปล่อยให้เขาไปฟรีๆ ทางไทยก็ไม่รู้แบบไหน เย็นอยู่แบบนี้แล้วจะทวงคืนแผ่นไทยคืนมาได้อย่างไร เหมือนกับยอมเขาทุกอย่างโดยที่ศักยภาพของไทยเราเหนือกว่าฝั่งกัมพูชาอยู่แล้ว ไม่รู้ยอมเขาเพื่ออะไร
.
ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลให้ชัดเจนในเรื่องของแผ่นดินที่เขมรยึดครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทตาควายและปราสาทคนา แล้วก็ประเด็นของเชลยศึกที่มีข่าวว่าจะปล่อยไปต้องชัดเจนว่าอะไรที่เราจะได้คืนตามมา ขอฝากด้วย
.

.
กรุงเทพโพลล์ เผยคนไทยเกินครึ่งอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่มีเงินทุน
.
กรุงเทพโพลล์ เผยคนไทยเกินครึ่งอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่มีเงินทุนมากพอ ตามมาด้วยขาดความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจ และไม่รู้ว่าจะทำธุรกิจอะไรดี
.
วันที่ 7 พ.ย. 2568 กรุงเทพโพลล์ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยสำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจประจำไตรมาส 3 ของปี 2568” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศในระหว่างวันที่ 19-27 ตุลาคม 2568 จำนวน 1,129 คน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เพื่อสำรวจความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ) ประจำไตรมาส 3 ของปี 2568
.
โดยได้ทำการเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ช่วงเดือน ก.ค. 2568) ในประเด็นต่างๆ พบว่า มีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจในอนาคตข้างหน้ามากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 63.3 (โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1) รองลงมาคือ เห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคต คิดเป็นร้อยละ 60.7 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9) และมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ คิดเป็นร้อยละ 56.4 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5) ขณะที่เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว คิดเป็นร้อยละ 65.7 (ลดลงร้อยละ 7.8)
.
ส่วนสาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 52.1 ไม่มีเงินทุนมากพอ รองลงมาคือ คิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว คิดเป็นร้อยละ 37.1 ขาดความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจ คิดเป็นร้อยละ 35.7 ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำธุรกิจอะไรดี คิดเป็นร้อยละ 32.0 และกลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน คิดเป็นร้อยละ 30.8
.


กัมพูชา เตรียมฝากทองในจีน หนุนจีนเป็นศูนย์กลางทองคำโลก ลดการพึ่งพาตะวันตก
.
เผย กัมพูชาจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ฝากทองคำสำรองไว้ในจีน ภายใต้คลังที่ขึ้นทะเบียนกับตลาดทองเซี่ยงไฮ้ สะท้อนยุทธศาสตร์จีนผลักดันระบบการเงินโลกที่ลดการพึ่งพาตะวันตก
.
วันที่ 7 พฤศจิกายน  2568  สื่อธุรกิจ Business Times รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า กัมพูชาเตรียมฝากทองคำสำรองส่วนหนึ่งไว้กับประเทศจีน ถือเป็นก้าวแรกของจีนในการผลักดันตนเองสู่การเป็นศูนย์กลางทองคำโลก โดยทองคำของกัมพูชาจะถูกจัดเก็บในห้องนิรภัยที่จดทะเบียนกับ ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) ภายในเขตปลอดภาษีเมืองเสิ่นเจิ้น โดยเป็นทองคำที่กัมพูชาเพิ่งจัดซื้อใหม่ ไม่ใช่การย้ายทองคำสำรองเดิม  
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ยังมีอีกหลายประเทศที่แสดงความสนใจฝากทองคำในจีน เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาศูนย์กลางทองคำแบบดั้งเดิมอย่างลอนดอน ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวครั้งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจีนที่ต้องการเป็นผู้ดูแลทองคำของชาติอื่น เพื่อสร้างระบบการเงินโลกที่ลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐและศูนย์กลางตะวันตก 
.
ขณะที่ข้อมูลจาก สภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่า ปัจจุบันกัมพูชามีทองคำสำรองราว 54 ตัน คิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมูลค่า 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 960,000 ล้านบาท
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายชี เสนา ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกัมพูชา กล่าวว่า ทางการกำลังพิจารณาหลายสถานที่ทั่วโลกในการจัดเก็บทองคำสำรองของประเทศ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าจีนเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา และ ธนาคารกลางจีน ยังไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่างนี้แต่อย่างใด
.
ที่มา Business Times
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่