ศึก 11.11 ร้อนระอุ! JD สั่งปรับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า 20 ล้าน ฐาน ‘ขายถูกกว่า’ บนแพลตฟอร์มอื่น
.
เทศกาลชอปปิง "11.11" (วันคนโสด) ในจีนปีนี้เดือดเป็นพิเศษ เมื่อยักษ์ใหญ่โซเชียลและอีคอมเมิร์ซอย่าง Douyin (TikTok จีน) และ JD.com ปะทะกันอย่างเปิดเผย โดยมีชนวนเหตุจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ (คาดว่าเป็น Midea) ถูก JD สั่งปรับเงิน 5 ล้านหยวน (ประมาณ 23 ล้านบาท) โทษฐาน "ละเมิดกฎด้านราคา" เนื่องจากราคาสินค้าบน Douyin เมื่อรวมคูปองส่วนลดต่างๆ แล้ว ต่ำกว่าราคาที่แบรนด์ขายบน JD
.
แม้ว่าในภายหลัง JD จะยกเลิกค่าปรับดังกล่าว แต่เหตุการณ์นี้ก็ได้จุดประเด็นการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น
.
◾การตอบโต้จาก JD
.
แหล่งข่าว JD: โต้ว่าข่าวลือเรื่อง "การบีบบังคับให้เลือกแพลตฟอร์ม" ไม่เป็นความจริง JD เพียงแค่มีนโยบายว่าราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มของตน "ต้องไม่สูงกว่า" แพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อเป็นการปกป้องผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าจำนวนมากบน JD
.
แหล่งข่าว Douyin: สวนกลับว่า นี่คือหลักฐานที่ยืนยันว่า JD กำลัง "แทรกแซงสิทธิ์ในการดำเนินงานอย่างอิสระ" ของร้านค้า และใช้ค่าปรับมหาศาลเพื่อข่มขู่ไม่ให้แบรนด์ต่างๆ เข้าร่วมแคมเปญการตลาดของแพลตฟอร์มอื่น
.
ด้าน Midea (แบรนด์ที่ถูกอ้างถึง): ตอบกลับสื่อเพียงว่า ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ปรากฏบนโลกออนไลน์นั้น "ไม่เป็นความจริง"
.
◾แพลตฟอร์มมีสิทธิ์คุม "ราคาต่ำสุด" หรือไม่
.
ประเด็นนี้ชี้ไปที่ "การบังคับด้านราคา" ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของจีนวิเคราะห์ว่า
ผิดกฎหมาย: การที่แพลตฟอร์มบังคับให้ร้านค้าต้องตั้งราคา "ถูกที่สุดในทุกช่องทาง" ถือเป็นการควบคุมกลไกตลาดมากเกินไป และอาจขัดต่อกฎหมายอีคอมเมิร์ซและกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน
.
คำแนะนำถึงแบรนด์: ควรใช้กลยุทธ์ "ราคากลาง" (Suggested Retail Price) ที่เท่ากันทุกช่องทาง และสื่อสารให้ชัดเจนว่าราคาที่ลดลงเกิดจาก "ส่วนลดของแบรนด์" หรือ "ส่วนลดของแพลตฟอร์ม"
.
◾"กฎใต้ดิน" ที่มองไม่เห็นแต่ร้านค้ารู้กัน
.
คนในวงการอีคอมเมิร์ซผู้ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแฉว่า "การคุมราคา" นี้เป็น "กฎใต้ดิน" ที่เกิดขึ้นทุกปี โดยเฉพาะช่วง 11.11
.
วิธีเลี่ยงของแบรนด์: ใช้วิธี "เปลี่ยนเลขโมเดล" สินค้า (เช่น เพิ่มตัวอักษรหรือตัวเลข) เพื่อให้ระบบเทียบราคาอัตโนมัติของแพลตฟอร์มจับไม่ได้ว่าคือสินค้ารุ่นเดียวกัน
.
ทำไมปีนี้รุนแรง: ปีนี้แพลตฟอร์มลดงบอุดหนุนลง จึงต้องกดดันราคาจากฝั่งแบรนด์แทน โดยเฉพาะ JD ซึ่งแข็งแกร่งในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า และใช้วิธีสั่งซื้อสินค้าจำนวนมหาศาล (เช่น 100,000 ชิ้นต่อรุ่น) เพื่อ "ล็อกราคา" ที่ต่ำที่สุดจากแบรนด์
.
แต่ระบบการปกป้องราคาระหว่างแพลตฟอร์มนี้ก็ไม่ได้ใช้กับสินค้าทุกชนิด แพลตฟอร์มจะตรวจสอบอย่างละเอียดว่าหมวดหมู่สินค้านี้มีสัดส่วนยอดขายในแพลตฟอร์มของตัวเองเท่าไหร่ ถ้าเป็น "รุ่นที่สำคัญและเป็นจุดขาย" ก็จะตอบโต้แน่นอน
.
JD ต้องสู้ตาย: โมเดลหลักของ JD คือ "JD Self-Operated" (ซื้อมาขายเอง) ซึ่งจุดแข็งคือ "ส่งเร็ว บริการดี ราคาถูก" หากสินค้าที่ JD ซื้อมาตุนสต็อกเอง ดันไปแพงกว่าที่อื่น ผู้บริโภคจะหมดศรัทธาใน "พลังด้านราคา" ของ JD ทันที
.
◾เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็ต้องหาทางรอด
.
คนในวงการสรุปว่า แบรนด์ต่างๆ กำลัง "อยู่รอดในรอยแตก" ซึ่งหมายถึงกาดิ้นรนเอาชีวิตรอดในพื้นที่ที่ถูกบีบอัดอย่างหนัก เพราะไม่กล้ามีเรื่องกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่ "ใครก็ล่วงเกินไม่ได้"
.
สงครามราคา 11.11 ไม่ใช่การลดราคาแบบง่ายๆ อีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยกฎที่ซับซ้อน ทำให้ผู้บริโภคเหนื่อยกับการคำนวณคูปองและส่วนลดที่ซ้อนกัน สุดท้าย คนในวงการชี้ว่า "บริการที่ดีมีต้นทุน" เมื่อแพลตฟอร์มบีบให้แบรนด์ลดราคาจนไม่มีกำไร บริการหลังการขายก็จะแย่ลง "เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ทั้งบริการพรีเมียมและราคาที่ถูกที่สุดในเวลาเดียวกัน"
.
📧 ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
.
#อีคอมเมิร์ซ #แพลตฟอร์ม
ศึก 11.11 ร้อนระอุ! JD สั่งปรับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า 20 ล้าน ฐาน ‘ขายถูกกว่า’ บนแพลตฟอร์มอื่น⁉️
.
เทศกาลชอปปิง "11.11" (วันคนโสด) ในจีนปีนี้เดือดเป็นพิเศษ เมื่อยักษ์ใหญ่โซเชียลและอีคอมเมิร์ซอย่าง Douyin (TikTok จีน) และ JD.com ปะทะกันอย่างเปิดเผย โดยมีชนวนเหตุจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ (คาดว่าเป็น Midea) ถูก JD สั่งปรับเงิน 5 ล้านหยวน (ประมาณ 23 ล้านบาท) โทษฐาน "ละเมิดกฎด้านราคา" เนื่องจากราคาสินค้าบน Douyin เมื่อรวมคูปองส่วนลดต่างๆ แล้ว ต่ำกว่าราคาที่แบรนด์ขายบน JD
.
แม้ว่าในภายหลัง JD จะยกเลิกค่าปรับดังกล่าว แต่เหตุการณ์นี้ก็ได้จุดประเด็นการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น
.
◾การตอบโต้จาก JD
.
แหล่งข่าว JD: โต้ว่าข่าวลือเรื่อง "การบีบบังคับให้เลือกแพลตฟอร์ม" ไม่เป็นความจริง JD เพียงแค่มีนโยบายว่าราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มของตน "ต้องไม่สูงกว่า" แพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อเป็นการปกป้องผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าจำนวนมากบน JD
.
แหล่งข่าว Douyin: สวนกลับว่า นี่คือหลักฐานที่ยืนยันว่า JD กำลัง "แทรกแซงสิทธิ์ในการดำเนินงานอย่างอิสระ" ของร้านค้า และใช้ค่าปรับมหาศาลเพื่อข่มขู่ไม่ให้แบรนด์ต่างๆ เข้าร่วมแคมเปญการตลาดของแพลตฟอร์มอื่น
.
ด้าน Midea (แบรนด์ที่ถูกอ้างถึง): ตอบกลับสื่อเพียงว่า ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ปรากฏบนโลกออนไลน์นั้น "ไม่เป็นความจริง"
.
◾แพลตฟอร์มมีสิทธิ์คุม "ราคาต่ำสุด" หรือไม่
.
ประเด็นนี้ชี้ไปที่ "การบังคับด้านราคา" ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของจีนวิเคราะห์ว่า
ผิดกฎหมาย: การที่แพลตฟอร์มบังคับให้ร้านค้าต้องตั้งราคา "ถูกที่สุดในทุกช่องทาง" ถือเป็นการควบคุมกลไกตลาดมากเกินไป และอาจขัดต่อกฎหมายอีคอมเมิร์ซและกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน
.
คำแนะนำถึงแบรนด์: ควรใช้กลยุทธ์ "ราคากลาง" (Suggested Retail Price) ที่เท่ากันทุกช่องทาง และสื่อสารให้ชัดเจนว่าราคาที่ลดลงเกิดจาก "ส่วนลดของแบรนด์" หรือ "ส่วนลดของแพลตฟอร์ม"
.
◾"กฎใต้ดิน" ที่มองไม่เห็นแต่ร้านค้ารู้กัน
.
คนในวงการอีคอมเมิร์ซผู้ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแฉว่า "การคุมราคา" นี้เป็น "กฎใต้ดิน" ที่เกิดขึ้นทุกปี โดยเฉพาะช่วง 11.11
.
วิธีเลี่ยงของแบรนด์: ใช้วิธี "เปลี่ยนเลขโมเดล" สินค้า (เช่น เพิ่มตัวอักษรหรือตัวเลข) เพื่อให้ระบบเทียบราคาอัตโนมัติของแพลตฟอร์มจับไม่ได้ว่าคือสินค้ารุ่นเดียวกัน
.
ทำไมปีนี้รุนแรง: ปีนี้แพลตฟอร์มลดงบอุดหนุนลง จึงต้องกดดันราคาจากฝั่งแบรนด์แทน โดยเฉพาะ JD ซึ่งแข็งแกร่งในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า และใช้วิธีสั่งซื้อสินค้าจำนวนมหาศาล (เช่น 100,000 ชิ้นต่อรุ่น) เพื่อ "ล็อกราคา" ที่ต่ำที่สุดจากแบรนด์
.
แต่ระบบการปกป้องราคาระหว่างแพลตฟอร์มนี้ก็ไม่ได้ใช้กับสินค้าทุกชนิด แพลตฟอร์มจะตรวจสอบอย่างละเอียดว่าหมวดหมู่สินค้านี้มีสัดส่วนยอดขายในแพลตฟอร์มของตัวเองเท่าไหร่ ถ้าเป็น "รุ่นที่สำคัญและเป็นจุดขาย" ก็จะตอบโต้แน่นอน
.
JD ต้องสู้ตาย: โมเดลหลักของ JD คือ "JD Self-Operated" (ซื้อมาขายเอง) ซึ่งจุดแข็งคือ "ส่งเร็ว บริการดี ราคาถูก" หากสินค้าที่ JD ซื้อมาตุนสต็อกเอง ดันไปแพงกว่าที่อื่น ผู้บริโภคจะหมดศรัทธาใน "พลังด้านราคา" ของ JD ทันที
.
◾เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็ต้องหาทางรอด
.
คนในวงการสรุปว่า แบรนด์ต่างๆ กำลัง "อยู่รอดในรอยแตก" ซึ่งหมายถึงกาดิ้นรนเอาชีวิตรอดในพื้นที่ที่ถูกบีบอัดอย่างหนัก เพราะไม่กล้ามีเรื่องกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่ "ใครก็ล่วงเกินไม่ได้"
.
สงครามราคา 11.11 ไม่ใช่การลดราคาแบบง่ายๆ อีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยกฎที่ซับซ้อน ทำให้ผู้บริโภคเหนื่อยกับการคำนวณคูปองและส่วนลดที่ซ้อนกัน สุดท้าย คนในวงการชี้ว่า "บริการที่ดีมีต้นทุน" เมื่อแพลตฟอร์มบีบให้แบรนด์ลดราคาจนไม่มีกำไร บริการหลังการขายก็จะแย่ลง "เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ทั้งบริการพรีเมียมและราคาที่ถูกที่สุดในเวลาเดียวกัน"
.
📧 ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
.
#อีคอมเมิร์ซ #แพลตฟอร์ม