JJNY : สั่งสอบเพิ่มคดี ‘นักการเมือง ช.’│“อัจฉริยะ” ยอมรับเดินคู่ “บิ๊กโจ๊ก”│วันนอร์ ยังไม่ได้สัญญาณ│โดรนป่วนสนามบินยุโรป

เปิดคำสั่งอสส. สั่งสอบเพิ่มคดี ‘นักการเมือง ช.’ พบพิรุธหลายประเด็นตำรวจไม่นำส่ง
https://www.dailynews.co.th/news/5278043/
.
.
เปิดคำสั่งอัยการสูงสุด ปี 67 สั่งสอบเพิ่มคดี "นักการเมือง ช." เพียบ 8 ประเด็น หลังอัยการสงขลาสั่งไม่ฟ้อง เเต่ผู้บัญชาการภาค 9 เเย้ง พบพิรุธหลายประเด็นพนักงานสอบสวนไม่ส่งอัยการ
.
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบคดีของ “นักการเมือง ช.” สส.พรรคชื่อดัง ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด ที่ สภ.หาดใหญ่ ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน เเละ พรบ.คอมฯ พบว่าคดีมีการเคลื่อนไหวล่าสุด คือเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 67 นางอุมา ทองรอด อธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุดตำแหน่งในขณะนั้น ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือเเจ้งกลับไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เรื่อง ชี้ขาดความเห็นแย้ง
.
ตามหนังสือส่งสำนวนคดีอาญาของสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลา “นักการเมือง ช.” กับพวกรวม 2 ราย ผู้ต้องหาฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเล่นหรือเข้าเล่นในการเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น (ผ่านทางเว็บไซต์การพนันออนไลน์) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง โดยเห็นควรสอบสวนเพิ่มเติม เสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดนั้น
.
อัยการสูงสุดพิจารมาแล้ว เห็นว่า การสอบสวนยังไม่สิ้นกระเเสความ จึงให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
.
1.ให้สอบสวน พันตำรวจตรี ชัยกฤต จันหา ผู้กล่าวหา พันตำรวจตรี นวพล ลื่อดิลกวัฒนา ,พันตำรวจตรี ประชิต ทิพมณี และพันตำรวจตรี วัธนดิศ ธนกุลนันท์ เป็นพยานเพิ่มเติมในประเด็น ดังนี้
.
1.1 ให้อธิบายวิธีการจัดให้มีการเล่นการพนัน หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศ ชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเล่นหรือเข้าเล่นในการเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันในคดีนี้โดยละเอียด
.
1.2 ให้อธิบายว่าผู้ต้องหาทั้งสองกับพวกนำข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนในคดีนี้ อย่างไร โดยละเอียด
.
1.3 ผลการดำเนินคดีกับ นายสิทธิกร ยุ่งยั้ง ,นายภัทรศักดิ์ แสงสว่าง ,นางสาวทิพย์สุดา เสริมศักดิ์วรกุล ,นายอนิรุธ บังคม และนายพัฒน์ฐา แพรกทอง ตามบันทึกการตรวจค้นเอกสารในสำนวน ลำดับที่ 4/23-26 และผลการดำเนินคดีกับดกับผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ 791/2565 และ 792/2565 ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่คอนโด ดิ แอททรีบิวท์ อาคาร 3 ห้อง 504 และอาคาร 4 ห้อง701 ชอย 5 ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่เกิดเหตุ ตามบันทึกจับกุม เป็นอย่างไร หากมีพยานเอกสารให้ส่งรวมสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา
.
2.ให้สอบสวน นายสิทธิกร ยุ่งยั้ง ,นายภัทรศักดิ์ แสงสว่าง ,นางสาวทิพย์สุดา เสริมศักดิ์วรกุล ,นายอนิรุธ บังคม และนายพัฒน์ฐา แพรกทอง เป็นพยานให้ได้ความโดยละเอียดตามรูปคดี
.
3.ให้สอบสวน พันตำรวจตรี วัธนดิศ ธนกุลนันท์ สส.กชช.ทว/จนท.ศปอส.ตร. ชุดที่4 ซึ่งทำการตรวจสอบข้อมูลการสนทนาในโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่ 1 ตามรายงานการตรวจสอบข้อมูล การสนทนาในโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่ 1 เป็นพยานให้ได้ความ โดยละเอียดตามรูปคดี
.
4.คดีนี้ปรากฎข้อเท็จจริงจากคำให้การของ พันตำรวจนวพล ลื่อดิลกวัฒนา ว่าได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ทำการซักถามพยานเเละบุคคลที่ถูกดำเนินคดีให้การว่า ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์เเละนายจ้าง ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้จัดการ แต่ไม่ปรากฎพยานหลักฐาน ในสำนวนว่า ผู้ต้องหาในคคีอาญา 791/2565 และ 792/2565 ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่คอนโด ดิ แอททรีบิวท์นั้น ได้ให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไว้หรือไม่ หรือได้มีการบันทึกถ้อยคำไว้หรือไม่ อย่างไร จึงให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบว่า มีเอกสารบันทึกถ้อยคำดังกล่าว หรือมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานหรือไม่ อย่างไร หากมีให้นำส่งรวมสำนวน เพื่อประกอบการพิจารณา
.
5.ให้พนักงานสอบสวนสอบสวนให้ได้ความว่า บ้านเลขที่ 64/28 ซอย27 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา และคอนโด ดิแอททรีบิวท์ ที่เกิดเหตุคดีนี้ เป็นของบุคคลใด เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาทั้งสองและบุคคลใดในคดีนี้อย่างไร และให้สอบสวนบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านและคอนโดดังกล่าว และสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้เช่าบ้านและคอนโดดังกล่าว เป็นพยานให้ได้ความตามรูปคดี โดยเฉพาะให้ได้ความว่าเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่1-2
.
และบุคคลในคดีนี้อย่างไร พร้อมส่งเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หรือการครอบครองบ้านและดอนโดดังกล่าว สัญญาเช่าบ้านและคอนโดดังกล่าวรวมสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา
.
6.ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบบัญชีเงินฝากทุกบัญชีธนาคาร เพื่อให้ได้ความเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินระหว่างผู้ต้องหาที่ 1,2 และระหว่างผู้ต้องหาที่1,2 กับนายสิทธิกร ยุ่งยั้ง, นายภัทรศักดิ์ แสงสว่าง นางสาวทิพย์สุดา เสริมศักดิ์วรกุล ,นายอนิรุธ บังคม และนายพัฒน์ฐา แพรกทอง และผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ 791/2565 และ 792/2565 ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่คอนโค ดิ แอททรีบิวท์ ว่ามีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันอย่างไร หรือไม่ แล้วนำการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินดังกล่าว เข้าโปรแกรมไอทูเพื่อประกอบการเชื่อมโยงถึงธุรกรรมทางด้านการเงิน
.
7.ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบผลการดำเนินดดีของนายสิทธิกร ยุ่งยั้ง, นายภัทรศักดิ์ แสงสว่าง ,นางสาวทิพย์สุดา เสริมศักดิ์วรกุล นายอนิรุธ บังคม และนายพัฒน์ฐา แพรกทอง และผู้ต้องหา ในคดีอาญาที่ 791/2565 และ 792/2565 ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่ตอนโดติ แอททรีบิวท์ และหากในคดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาแล้วให้คัดถ่ายสำเนาคำพิพากษา โดยให้เจ้าหน้าที่ศาลรับรองสำเนาถูกต้องรวมสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา
.
8.ให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบประวัติและผลดดีของผู้ต้องหาที่ 1 และส่งผลการตรวจสอบรวมสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา
ดังนั้นจึงส่งสำนวนคดีอาญาดังกล่าวคืนเพื่อดำเนินการ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว ให้ท่านซึ่งเป็นผู้มีอำนาจทำความเห็นแย้งตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนก่อนส่งสำนวนพร้อมผลการสอบสวนเพิ่มเดิม เพื่อพิจารณาชี้ขาดต่อไป
.
โดยมีรายงานจากชุดทำคดีได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่าประเด็นที่อัยการสูงสุดสั่งให้สอบเพิ่มเติม สื่อให้เห็นพนักงานสอบสวนอาจไม่ได้มีการเอกสารที่ควรมี เช่นคำซัดทอดของผู้ต้องหาอื่นๆที่ฝ่ายสืบสวนทำไว้ เเต่ไม่ส่งเข้าไปในสำนวน อัยการสูงสุดจึงให้สอบเพิ่มในประเด็นนี้ด้วย หากอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง เรื่องจะจบโดยเร็ว.
.

.
“อัจฉริยะ” ยอมรับเดินคู่ “บิ๊กโจ๊ก” แฉตำรวจ-นักการเมือง เอี่ยวสแกมเมอร์ เว็บพนัน
.
“อัจฉริยะ” ยอมรับร่วมมือ “บิ๊กโจ๊ก” ทำงาน แฉตำรวจ-นักการเมือง เป้าหมายปราบแก๊งสแกมเมอร์ เว็บพนัน อ้างสนิท ตร. ทุกระดับ รู้ไส้รู้พุงหมด เตือนนายกฯ ตรวจสอบพฤติกรรมตำรวจที่ใกล้ชิด
.
วันที่ 7 พ.ย. 68 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเคลื่อนไหวนั่งริมฟุตบาทหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับนำแผนผังที่ระบุเว็บพนันออนไลน์กว่า 10 เว็บไซต์มาแฉ ว่าหลังจากถูกตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ แถลงข่าวปราบปรามแต่ว่าปัจจุบันเว็บไซต์เหล่านี้ก็ยังเปิดบริการปกติ
.
รวมถึงกล่าวหา นายตำรวจระดับสูง และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) 2 คน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม โดยแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมไปดำรงตำแหน่งทำเลทอง ส่วนบุคคลที่เหมาะสมกลับถูกโยกย้ายไปทำตำแหน่งหน้าที่นักวิทยาศาสตร์ ทั้งที่เป็นคนปราบปรามเว็บพนัน แต่ปัจจุบันยังใช้บุคคลเหล่านี้ทำงานเว็บพนัน ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวและไม่ได้มีอำนาจ
.
นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งนอกวาระประจำปีโดยมีการพิจารณานายตำรวจที่ในอดีตถูกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินคดี (ตม.) และมีคดีใน ตม. ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของผู้มีอำนาจ ส่วนนี้ตนเองมองว่าไม่ยุติธรรมกับข้าราชการตำรวจรายอื่นด้วย
.
นายอัจฉริยะ ยังอ้างว่า หลักฐานที่เกี่ยวกับสแกมเมอร์ ที่เคยนำมามอบให้ตั้งแต่ปี 2567 นั้นไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้การยื่นเอกสารและเงื่อนไขต่างๆ จะต้องได้รับการแก้ไขทั้งหมดภายในวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย. หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ที่ 10 พ.ย. ตนเองยืนยันจะมานั่งประท้วงบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งแน่นอน
.
กรณีที่มีการปฏิเสธว่า ตำรวจไซเบอร์สองนายไม่ได้กลับคำให้การในคดีของนักการเมืองรายหนึ่ง มองว่าเป็นการโยนความผิดให้พนักงานสอบสวนที่ตายไปแล้วในเรื่องการทำคำให้การที่ไม่ถูกต้อง แต่หากไปดูเอกสารรายละเอียดจะพบว่า คำให้การมีลายเซ็นตำรวจชัดเจน ซึ่งปัจจุบันตำรวจภูธรภาค 9 ได้ชี้มูล และแจ้งความผิดตำรวจ 2 นาย ในสองข้อกล่าวหาว่า มีการช่วยเหลือนักการเมืองจริง
.
ส่วนที่มีหลายฝ่ายมองว่าการออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เป็นไทม์ไลน์การออกมาเปิดเผยข้อมูลเดียวกันกับ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. นายอัจฉริยะยอมรับว่าเป็นการเดินคู่ ร่วมมือกันทำงาน แต่ไม่ได้เห็นด้วยกับทุกเรื่องที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ทำ ตัวเองไม่รู้ว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้ข้อมูลมาจากไหน แต่มีเป้าหมายเดียวกันแน่ชัดคือ การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ เอาผิดนักการเมืองที่ทำงานสกปรก และเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐคอร์รัปชัน รวมถึงอยากให้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่กระทำความผิดและมีเส้นทางการเงินไปถึง
.
โดยนายอัจฉริยะ ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้กลับกลอก แต่ยอมรับว่าสนิทกับตำรวจระดับ ผบ.ตร. แทบทุกคน ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่คลุกคลีกัน จึงรู้ไส้รู้พุงทั้งหมด จึงรู้ว่าภายในองค์กรตำรวจไซเบอร์ทำไม่ดีอะไรไว้บ้าง
.
อย่างไรก็ตาม นายอัจฉริยะ ยืนยันว่าตัวเองไม่เคยเหมารวมองค์กรตำรวจว่าเป็นอาชญากรประเทศชาติ แต่ระบุเพียงว่ามีตำรวจบางคนประมาณ 20-30% ที่กระทำความผิด จึงอยากให้ดำเนินคดีกับตำรวจกลุ่มนี้ให้เท่าเทียม
.
นายอัจฉริยะ ยังฝากเตือนถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่าให้คัดกรองตำรวจที่อยู่ใกล้ชิด ขอให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมให้ชัดเจน เพราะอาจทำให้มัวหมองหรือเสื่อมเสียองค์กรตำรวจ เนื่องจากยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่