ชายเกาหลีแห่หาคู่แต่งงานเป็นสาวญี่ปุ่น ชายเกาหลีเผย สาวญี่ปุ่นใจดี อ่อนโยนกว่าสาวเกาหลี บริษัทหาคู่ให้คนเกาหลี-ญี่ปุ่นเผย มีใบสมัครจากชายเกาหลีกว่า10,000คน มีชายเกาหลีมีภาพจำที่ดีกับญี่ปุ่นอยู่เยอะ ส่วนมากโตมากับการ์ตูนและเพลงญี่ปุ่น ผู้หญิงญี่ปุ่นมักพูดคำว่า ‘ขอบคุณ’ หรือ ‘ขอโทษนะ’แม้ในเรื่องเล็ก ๆ ชายเกาหลีเห็นแล้วรู้สึกว่าอยากสร้างครอบครัวที่เคารพและรักกันแบบนั้นบ้าง
.
เดือนพฤศจิกายนมีวันสำคัญเกี่ยวกับการแต่งงานหลายวัน เช่น วันที่ 6 พฤศจิกายน คือ “วันนัดดูตัว (お見合い記念日)” วันที่ 22 พฤศจิกายน คือ“วันคู่สามีภรรยาที่ดี (いい夫婦の日)”
.
ความคิดเห็นของคนบนท้องถนนเกี่ยวกับการแต่งงาน เช่น
“อยากแต่งงาน! อยากมีลูก อยากสร้างครอบครัว”
“นึกภาพการใช้ชีวิตคนเดียวไม่ออกเลย”
“ไม่อยากแต่งงาน อยู่กับคนเดิมตลอดไปคงไม่ไหว อยากมีเวลาส่วนตัวด้วย แล้วก็จะคิดมากไปเรื่อยๆ”
“ขี้เกียจหาคู่”
“กลัวจะถูกผูกมัดถ้าแต่งงาน เลยอยากใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไม่อยากแต่งงาน”
.
ท่ามกลางความคิดหลากหลายเหล่านี้ รัฐบาลกรุงโตเกียวได้เริ่มให้บริการระบบจับคู่หาคู่แต่งงานด้วย AI ตั้งแต่ปี 2024
.
เจ้าหน้าที่ของกรุงโตเกียว ระบุว่า
มีผู้สมัครใช้ระบบนี้แล้วกว่า 27,000 คน และจนถึงตอนนี้มีคู่ที่ได้แต่งงานกันแล้ว 94 คู่ (เคยทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว สนใจอ่าน เดี๋ยวลงไว้ใต้คอมเมนท์ครับ)
.
เหตุผลที่เริ่มโครงการนี้เพราะ พบว่าประมาณ 70% ของคนที่สนใจเรื่องแต่งงานจริง ๆ กลับไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวกับการหาคู่เลย เจ้าหน้าที่จึงกล่าวว่า หวังว่าระบบนี้จะเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาออกไปสู่ก้าวแรกได้
.
ผู้ที่ใช้บริการต้องยื่นเอกสารใบรับรองสถานะโสดด้วย ทำให้ผู้ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นคนที่จริงจังกับการแต่งงาน และเพราะขั้นตอนสมัครค่อนข้างละเอียด จึงสร้างความรู้สึกน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้
.
ขณะเดียวกัน ยุคของการ “มองหาคู่ต่างชาติ” ก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะ ชายเกาหลีใต้ที่มาหาคู่ในญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
ความคิดเห็นของคนในเมืองเกี่ยวกับการแต่งงานกับต่างชาติ
“คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ความรักที่ข้ามพรมแดนโดยไม่จำกัดแค่ญี่ปุ่น การแลกเปลี่ยนแบบนี้เป็นเรื่องดี”
“แต่ก็คงมีอุปสรรคหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องภาษา ถ้าพูดภาษาอังกฤษได้ก็ดี แต่ถ้าวัฒนธรรมต่างกัน ครอบครัวของอีกฝ่ายอยู่ต่างประเทศการพบปะกันก็คงลำบากหน่อย”
.
ในกรุงโตเกียว มี บริษัทจัดหาคู่ชื่อ “Dayrie” ที่ช่วยจับคู่ระหว่างคนญี่ปุ่นกับคนเกาหลีใต้ โดยคุณฮง แดอี ตัวแทนบริษัทกล่าวว่า
“มีใบสมัครเข้ามามากกว่า 10,000 ฉบับแล้วครับ
ชายเกาหลีจะต้องกรอกข้อมูลละเอียด เช่น อายุ อาชีพ รายได้ต่อปี ทรัพย์สินส่วนตัว และเหตุผลที่อยากแต่งงานกับผู้หญิงญี่ปุ่น
ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สมัครไม่ได้ ต้องผ่านการตรวจสอบก่อน”
.
หลังผ่านการคัดเลือก ชายเกาหลีเหล่านี้จะมีการประชุมออนไลน์เพื่อพูดคุยกับที่ปรึกษา โดยคุณฮงกล่าวว่า
“เรามีการประชุมออนไลน์ทุกเดือนเพื่อให้คำปรึกษา เช่น ใครที่ดูจะเข้ากันได้ดีบ้าง หรือถ้าใครยังจับคู่ไม่ได้ เราก็จะช่วยวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใด บางคนยังไม่ยื่นสมัครเลย เราก็จะถามเหตุผล พอเขาบอกว่าช่วงนี้ยุ่ง เราก็จะบอกว่ายังไงก็ลองสมัครดูนะครับ”
.
ทีมข่าว it “イット!” (อิตโตะ)ได้สัมภาษณ์ คิม จินกยู (38 ปี) ชายเกาหลีที่ทำธุรกิจลานแคมป์ปิ้ง 2 แห่งในเกาหลีใต้ ช่วงค่ำวันที่ 6 เขาไปที่ร้านเสริมสวยเพื่อจัดทรงผม เตรียมตัวไปนัดดูตัวกับผู้หญิงชาวญี่ปุ่น
.
คิมกล่าวว่า ผมเห็นรูปแล้ว เป็นคนหน้าตาน่ารักเลยครับ รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะเป็นครั้งแรก ตั้งใจว่าจะไปคุยกันชิล ๆ ที่คาเฟ่ครับ
.
เมื่อถามถึง “ผู้หญิงในอุดมคติ” ที่เขาอยากแต่งงานด้วยในช่วงวัย30 เขาตอบว่า
“คนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมากที่สุด นิสัยเข้ากับผมได้ดี และใส่ใจในงานหรือสิ่งที่ตัวเองทำ ผมให้ความสำคัญกับตรงนี้มากครับ”
.
จนถึงตอนนี้เขาใช้เงินไปกว่า 700,000 เยน (ประมาณ 150,000 บาท) รวมทั้งค่าสมัครและค่าเดินทาง แล้วทำไมถึงยอมจ่ายเงินขนาดนี้เพื่อแต่งงานกับหญิงญี่ปุ่น?
.
คิมตอบว่า ตอนนี้ผมอายุ38ปี ตอนหนุ่ม ๆ ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย แต่พออายุมากขึ้น ความอยากแต่งงานก็เพิ่มขึ้น สำหรับผม ผู้หญิงญี่ปุ่นดูใจดีกว่าผู้หญิงเกาหลี ผู้หญิงเกาหลีจะมีนิสัยเข้มแข็งกว่า
.
คุณฮง แดอี ตัวแทนบริษัทจัดหาคู่กล่าวเสริมว่า มีชายเกาหลีมีภาพจำที่ดีกับญี่ปุ่นอยู่เยอะ ชายเกาหลีในวัย 30 ปลายๆ ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับผม ส่วนมากโตมากับการ์ตูนและเพลงญี่ปุ่น (J-POP) ตั้งแต่เด็ก เลยรู้สึกคุ้นเคยและมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อญี่ปุ่นมาก
.
เมื่อถามว่าทำไมผู้หญิงญี่ปุ่นถึงเป็นที่นิยมในหมู่ชายเกาหลี เขาตอบว่าเป็นเพราะ “ความใจดี”
.
ฮงกล่าวว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นมักพูดคำว่า ‘ขอบคุณ’ หรือ ‘ขอโทษนะ’ แม้ในเรื่องเล็ก ๆ ชายเกาหลีหลายคนเห็นแล้วรู้สึกว่าอยากสร้างครอบครัวที่เคารพและรักกันแบบนั้นบ้าง นี่คือเหตุผลอันดับหนึ่งเลยครับ
.
นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างทางวัฒนธรรมเรื่องการแต่งงานในเกาหลีใต้ โดยคุณฮงกล่าวว่า ในยุคใหม่ คู่หนุ่มสาวเกาหลีหลายคนจะรวมรายได้ของทั้งสองฝ่ายแล้วพยายามไปด้วยกัน แต่ยังมีอีกส่วนที่ยึดค่านิยมแบบเดิมว่า ‘ฝ่ายชายต้องเป็นคนซื้อบ้านให้ได้ก่อน ซึ่งนั่นเป็นภาระหนักมากสำหรับผู้ชาย”
.
สุดท้าย รายงานข่าวตั้งคำถามว่า การแต่งงานข้ามชาติจะเพิ่มขึ้นจริงหรือ เมื่อมีทั้งอุปสรรคด้านภาษาและวัฒนธรรมที่ต้องก้าวข้ามไปด้วยกัน
.
มีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้บ้างคอมเมนท์พูดคุยกันได้ครับ อาจตอบไม่ทุกคอมเมนท์แต่จะพยายามอ่านทั้งหมดครับ ใครถูกใจข่าวนี้ กดไลค์ กดแชร์หรือกดดาวเพื่อเป็นกำลังให้แอดนำเสนอข่าวต่อไปได้ครับ
.
แอดภูเขา
#jdoradic #ญี่ปุ่น #แปลข่าวญี่ปุ่น #ข่าวญี่ปุ่น #ข่าว
ชายเกาหลีแห่หาคู่แต่งงานเป็นสาวญี่ปุ่น 💞
.
เดือนพฤศจิกายนมีวันสำคัญเกี่ยวกับการแต่งงานหลายวัน เช่น วันที่ 6 พฤศจิกายน คือ “วันนัดดูตัว (お見合い記念日)” วันที่ 22 พฤศจิกายน คือ“วันคู่สามีภรรยาที่ดี (いい夫婦の日)”
.
ความคิดเห็นของคนบนท้องถนนเกี่ยวกับการแต่งงาน เช่น
“อยากแต่งงาน! อยากมีลูก อยากสร้างครอบครัว”
“นึกภาพการใช้ชีวิตคนเดียวไม่ออกเลย”
“ไม่อยากแต่งงาน อยู่กับคนเดิมตลอดไปคงไม่ไหว อยากมีเวลาส่วนตัวด้วย แล้วก็จะคิดมากไปเรื่อยๆ”
“ขี้เกียจหาคู่”
“กลัวจะถูกผูกมัดถ้าแต่งงาน เลยอยากใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไม่อยากแต่งงาน”
.
ท่ามกลางความคิดหลากหลายเหล่านี้ รัฐบาลกรุงโตเกียวได้เริ่มให้บริการระบบจับคู่หาคู่แต่งงานด้วย AI ตั้งแต่ปี 2024
.
เจ้าหน้าที่ของกรุงโตเกียว ระบุว่า
มีผู้สมัครใช้ระบบนี้แล้วกว่า 27,000 คน และจนถึงตอนนี้มีคู่ที่ได้แต่งงานกันแล้ว 94 คู่ (เคยทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว สนใจอ่าน เดี๋ยวลงไว้ใต้คอมเมนท์ครับ)
.
เหตุผลที่เริ่มโครงการนี้เพราะ พบว่าประมาณ 70% ของคนที่สนใจเรื่องแต่งงานจริง ๆ กลับไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวกับการหาคู่เลย เจ้าหน้าที่จึงกล่าวว่า หวังว่าระบบนี้จะเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาออกไปสู่ก้าวแรกได้
.
ผู้ที่ใช้บริการต้องยื่นเอกสารใบรับรองสถานะโสดด้วย ทำให้ผู้ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นคนที่จริงจังกับการแต่งงาน และเพราะขั้นตอนสมัครค่อนข้างละเอียด จึงสร้างความรู้สึกน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้
.
ขณะเดียวกัน ยุคของการ “มองหาคู่ต่างชาติ” ก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะ ชายเกาหลีใต้ที่มาหาคู่ในญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
ความคิดเห็นของคนในเมืองเกี่ยวกับการแต่งงานกับต่างชาติ
“คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ความรักที่ข้ามพรมแดนโดยไม่จำกัดแค่ญี่ปุ่น การแลกเปลี่ยนแบบนี้เป็นเรื่องดี”
“แต่ก็คงมีอุปสรรคหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องภาษา ถ้าพูดภาษาอังกฤษได้ก็ดี แต่ถ้าวัฒนธรรมต่างกัน ครอบครัวของอีกฝ่ายอยู่ต่างประเทศการพบปะกันก็คงลำบากหน่อย”
.
ในกรุงโตเกียว มี บริษัทจัดหาคู่ชื่อ “Dayrie” ที่ช่วยจับคู่ระหว่างคนญี่ปุ่นกับคนเกาหลีใต้ โดยคุณฮง แดอี ตัวแทนบริษัทกล่าวว่า
“มีใบสมัครเข้ามามากกว่า 10,000 ฉบับแล้วครับ
ชายเกาหลีจะต้องกรอกข้อมูลละเอียด เช่น อายุ อาชีพ รายได้ต่อปี ทรัพย์สินส่วนตัว และเหตุผลที่อยากแต่งงานกับผู้หญิงญี่ปุ่น
ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สมัครไม่ได้ ต้องผ่านการตรวจสอบก่อน”
.
หลังผ่านการคัดเลือก ชายเกาหลีเหล่านี้จะมีการประชุมออนไลน์เพื่อพูดคุยกับที่ปรึกษา โดยคุณฮงกล่าวว่า
“เรามีการประชุมออนไลน์ทุกเดือนเพื่อให้คำปรึกษา เช่น ใครที่ดูจะเข้ากันได้ดีบ้าง หรือถ้าใครยังจับคู่ไม่ได้ เราก็จะช่วยวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใด บางคนยังไม่ยื่นสมัครเลย เราก็จะถามเหตุผล พอเขาบอกว่าช่วงนี้ยุ่ง เราก็จะบอกว่ายังไงก็ลองสมัครดูนะครับ”
.
ทีมข่าว it “イット!” (อิตโตะ)ได้สัมภาษณ์ คิม จินกยู (38 ปี) ชายเกาหลีที่ทำธุรกิจลานแคมป์ปิ้ง 2 แห่งในเกาหลีใต้ ช่วงค่ำวันที่ 6 เขาไปที่ร้านเสริมสวยเพื่อจัดทรงผม เตรียมตัวไปนัดดูตัวกับผู้หญิงชาวญี่ปุ่น
.
คิมกล่าวว่า ผมเห็นรูปแล้ว เป็นคนหน้าตาน่ารักเลยครับ รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะเป็นครั้งแรก ตั้งใจว่าจะไปคุยกันชิล ๆ ที่คาเฟ่ครับ
.
เมื่อถามถึง “ผู้หญิงในอุดมคติ” ที่เขาอยากแต่งงานด้วยในช่วงวัย30 เขาตอบว่า
“คนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมากที่สุด นิสัยเข้ากับผมได้ดี และใส่ใจในงานหรือสิ่งที่ตัวเองทำ ผมให้ความสำคัญกับตรงนี้มากครับ”
.
จนถึงตอนนี้เขาใช้เงินไปกว่า 700,000 เยน (ประมาณ 150,000 บาท) รวมทั้งค่าสมัครและค่าเดินทาง แล้วทำไมถึงยอมจ่ายเงินขนาดนี้เพื่อแต่งงานกับหญิงญี่ปุ่น?
.
คิมตอบว่า ตอนนี้ผมอายุ38ปี ตอนหนุ่ม ๆ ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย แต่พออายุมากขึ้น ความอยากแต่งงานก็เพิ่มขึ้น สำหรับผม ผู้หญิงญี่ปุ่นดูใจดีกว่าผู้หญิงเกาหลี ผู้หญิงเกาหลีจะมีนิสัยเข้มแข็งกว่า
.
คุณฮง แดอี ตัวแทนบริษัทจัดหาคู่กล่าวเสริมว่า มีชายเกาหลีมีภาพจำที่ดีกับญี่ปุ่นอยู่เยอะ ชายเกาหลีในวัย 30 ปลายๆ ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับผม ส่วนมากโตมากับการ์ตูนและเพลงญี่ปุ่น (J-POP) ตั้งแต่เด็ก เลยรู้สึกคุ้นเคยและมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อญี่ปุ่นมาก
.
เมื่อถามว่าทำไมผู้หญิงญี่ปุ่นถึงเป็นที่นิยมในหมู่ชายเกาหลี เขาตอบว่าเป็นเพราะ “ความใจดี”
.
ฮงกล่าวว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นมักพูดคำว่า ‘ขอบคุณ’ หรือ ‘ขอโทษนะ’ แม้ในเรื่องเล็ก ๆ ชายเกาหลีหลายคนเห็นแล้วรู้สึกว่าอยากสร้างครอบครัวที่เคารพและรักกันแบบนั้นบ้าง นี่คือเหตุผลอันดับหนึ่งเลยครับ
.
นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างทางวัฒนธรรมเรื่องการแต่งงานในเกาหลีใต้ โดยคุณฮงกล่าวว่า ในยุคใหม่ คู่หนุ่มสาวเกาหลีหลายคนจะรวมรายได้ของทั้งสองฝ่ายแล้วพยายามไปด้วยกัน แต่ยังมีอีกส่วนที่ยึดค่านิยมแบบเดิมว่า ‘ฝ่ายชายต้องเป็นคนซื้อบ้านให้ได้ก่อน ซึ่งนั่นเป็นภาระหนักมากสำหรับผู้ชาย”
.
สุดท้าย รายงานข่าวตั้งคำถามว่า การแต่งงานข้ามชาติจะเพิ่มขึ้นจริงหรือ เมื่อมีทั้งอุปสรรคด้านภาษาและวัฒนธรรมที่ต้องก้าวข้ามไปด้วยกัน
.
มีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้บ้างคอมเมนท์พูดคุยกันได้ครับ อาจตอบไม่ทุกคอมเมนท์แต่จะพยายามอ่านทั้งหมดครับ ใครถูกใจข่าวนี้ กดไลค์ กดแชร์หรือกดดาวเพื่อเป็นกำลังให้แอดนำเสนอข่าวต่อไปได้ครับ
.
แอดภูเขา
#jdoradic #ญี่ปุ่น #แปลข่าวญี่ปุ่น #ข่าวญี่ปุ่น #ข่าว