📅 วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2025
วันนี้เป็นวันที่ฉันได้รู้ความจริงว่า คนที่ฉันรักมาก — คนที่ฉันวางใจและคิดจะใช้ชีวิตร่วมกัน — แอบคุยกับผู้หญิงคนอื่น เขาบอกว่าเธอเป็นแค่เพื่อน แต่กลับลบทุกข้อความที่คุยกัน เพราะ “กลัวว่าฉันจะโกรธ”
ตอนที่รู้ความจริง มันเหมือนโลกทั้งใบพังลงตรงหน้า เราทะเลาะกันหนักมาก ฉันพูดทั้งน้ำตา ส่วนเขากลับพูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่ชอบคนรอบข้างเขา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเขา”
คำพูดนั้นมันฝังลึก มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนในสายตาเขา ฉันคงเป็นคนแย่มากจริง ๆ
แล้วพอตกดึกของอีกวัน เขาส่งข้อความมาหาฉัน บอกว่า “ที่ไม่ได้โทรหา ไม่ใช่ไม่อยากโทร แต่โทรมาก็ไม่รู้จะคุยอะไร ความผิดพลาดมันเยอะเกิน ให้เวลาเขาหน่อย ตอนนี้ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”
ฉันอ่านแล้วน้ำตาคลอ มันมีทั้งความหวังและความเจ็บปนกันไปหมด
คืนนั้นฉันนอนไม่หลับ ฉันอยากรู้ให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาจริงใจกับฉันไหม
แต่สิ่งที่ฉันได้เห็น มันทำให้หัวใจฉันแทบขาด เขายังคุยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ — คนที่เขาอ้างว่าเป็นแค่เพื่อน
และสิ่งที่คุยกัน…กลับเป็นเรื่องส่วนตัวถึงขั้นขอดูรอยสักกัน แม้กระทั่งรอยสักที่อยู่ใต้ร่มผ้า
มันเจ็บเหมือนโดนมีดร้อยเล่มแทงเข้ากลางใจ ฉันไม่อยากเชื่อว่านี่คือคนเดียวกับที่ฉันเคยคิดจะใช้ชีวิตด้วย
แล้วที่บอกว่า “ให้รอ” — ให้ฉันรออะไร รอให้เธอมีความสุขจนหนำใจ แล้วค่อยมาหาฉันเหรอ?
เพื่อนอีกคนที่เธอบอกว่าป่วยหนัก ต้องการกำลังใจ — แล้วฉันล่ะ? เธอเคยคิดถึงฉันบ้างไหม?
เธอสามารถวิดีโอคอลกับเพื่อนได้เป็นชั่วโมง แต่กลับทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียว โดยไม่สนใจเลยว่าฉันจะรู้สึกยังไง จะร้องไห้ จะทรมาน หรือจะหายไปจากโลกนี้ไหม
เธอบอกว่าฉันไม่เชื่อใจเธอ
แต่เธอเคยทำอะไรให้ฉันเชื่อใจได้บ้างงั้นเหรอ…
🌙 น้ำตามันยังไม่หมดไปเลย
ฉันยังคงร้องไห้อยู่ทุกเช้า ตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกัน
แต่พอถึงเวลาต้องไปทำงาน ฉันก็ต้องแต่งหน้า ปั้นยิ้ม และทำเหมือนทุกอย่างปกติ
ไม่มีใครรู้เลยว่าข้างในฉันพังไปหมดแล้ว — พังจนไม่รู้จะเริ่มซ่อมจากตรงไหนก่อนดี
การโดนแทงข้างหลังมันเจ็บจังเนอะ
วันนี้เป็นวันที่ฉันได้รู้ความจริงว่า คนที่ฉันรักมาก — คนที่ฉันวางใจและคิดจะใช้ชีวิตร่วมกัน — แอบคุยกับผู้หญิงคนอื่น เขาบอกว่าเธอเป็นแค่เพื่อน แต่กลับลบทุกข้อความที่คุยกัน เพราะ “กลัวว่าฉันจะโกรธ”
ตอนที่รู้ความจริง มันเหมือนโลกทั้งใบพังลงตรงหน้า เราทะเลาะกันหนักมาก ฉันพูดทั้งน้ำตา ส่วนเขากลับพูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่ชอบคนรอบข้างเขา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเขา”
คำพูดนั้นมันฝังลึก มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนในสายตาเขา ฉันคงเป็นคนแย่มากจริง ๆ
แล้วพอตกดึกของอีกวัน เขาส่งข้อความมาหาฉัน บอกว่า “ที่ไม่ได้โทรหา ไม่ใช่ไม่อยากโทร แต่โทรมาก็ไม่รู้จะคุยอะไร ความผิดพลาดมันเยอะเกิน ให้เวลาเขาหน่อย ตอนนี้ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”
ฉันอ่านแล้วน้ำตาคลอ มันมีทั้งความหวังและความเจ็บปนกันไปหมด
คืนนั้นฉันนอนไม่หลับ ฉันอยากรู้ให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาจริงใจกับฉันไหม
แต่สิ่งที่ฉันได้เห็น มันทำให้หัวใจฉันแทบขาด เขายังคุยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ — คนที่เขาอ้างว่าเป็นแค่เพื่อน
และสิ่งที่คุยกัน…กลับเป็นเรื่องส่วนตัวถึงขั้นขอดูรอยสักกัน แม้กระทั่งรอยสักที่อยู่ใต้ร่มผ้า
มันเจ็บเหมือนโดนมีดร้อยเล่มแทงเข้ากลางใจ ฉันไม่อยากเชื่อว่านี่คือคนเดียวกับที่ฉันเคยคิดจะใช้ชีวิตด้วย
แล้วที่บอกว่า “ให้รอ” — ให้ฉันรออะไร รอให้เธอมีความสุขจนหนำใจ แล้วค่อยมาหาฉันเหรอ?
เพื่อนอีกคนที่เธอบอกว่าป่วยหนัก ต้องการกำลังใจ — แล้วฉันล่ะ? เธอเคยคิดถึงฉันบ้างไหม?
เธอสามารถวิดีโอคอลกับเพื่อนได้เป็นชั่วโมง แต่กลับทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียว โดยไม่สนใจเลยว่าฉันจะรู้สึกยังไง จะร้องไห้ จะทรมาน หรือจะหายไปจากโลกนี้ไหม
เธอบอกว่าฉันไม่เชื่อใจเธอ
แต่เธอเคยทำอะไรให้ฉันเชื่อใจได้บ้างงั้นเหรอ…
🌙 น้ำตามันยังไม่หมดไปเลย
ฉันยังคงร้องไห้อยู่ทุกเช้า ตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกัน
แต่พอถึงเวลาต้องไปทำงาน ฉันก็ต้องแต่งหน้า ปั้นยิ้ม และทำเหมือนทุกอย่างปกติ
ไม่มีใครรู้เลยว่าข้างในฉันพังไปหมดแล้ว — พังจนไม่รู้จะเริ่มซ่อมจากตรงไหนก่อนดี