พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 มีผลบังคับใช้ 8 พ.ย. นี้

KEY POINTS
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป

โอนอำนาจกำหนดเวลาและสถานที่จำหน่ายให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยกเลิกประกาศ/คำสั่งเก่าที่เกี่ยวข้อง

เพิ่มข้อห้ามการโฆษณาที่ชักจูงให้ดื่ม และการใช้ชื่อหรือโลโก้แฝงในสินค้าหรือกิจกรรมอื่น

ขยายนิยาม "เครื่องดื่มแอลกอฮอล์" ให้ครอบคลุมขึ้น และเพิ่มอำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเข้าตรวจสอบ

ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมจากพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เพื่อปรับให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน

ขยายคำนิยาม “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์”
กฎหมายฉบับใหม่นี้ได้ปรับนิยามคำว่า “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น โดยหมายถึง ของเหลว วัตถุ หรือของผสมใด ๆ ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบไม่ว่าจะผลิตด้วยวิธีหมักหรือกลั่น รวมถึงวัตถุหรือของผสมที่เมื่อผสมแล้วสามารถดื่มได้เช่นสุรา ทั้งนี้ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพร วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 0.5 ดีกรี

ปรับอำนาจคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
กฎหมายฉบับที่ 2 ได้กำหนดให้ “คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เป็นผู้มีอำนาจออกประกาศกำหนดเวลา สถานที่ หรือวิธีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมายเดิม

เพิกถอนประกาศและคำสั่งเดิมบางส่วน
พร้อมกันนี้ได้ยกเลิก ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 พ.ศ. 2515 และ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2558 ข้อ 6 ที่เคยใช้ควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบางกรณี เพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปภายใต้กฎหมายฉบับเดียว

เพิ่มบทบัญญัติควบคุมการโฆษณาและสื่อสารการตลาด
มาตราใหม่ได้กำหนดข้อห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะชักจูงให้บริโภค หรือการใช้ชื่อ โลโก้ เครื่องหมายทางการค้าของผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์แฝงในสินค้า บริการ หรือกิจกรรมอื่น ๆ รวมทั้งห้ามการโฆษณาในช่องทางที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเป็นการส่งเสริมการดื่ม

ขยายอำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่
กฎหมายใหม่เพิ่มอำนาจให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบสถานที่ผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงสถานที่บริโภคเพื่อการค้าได้ และสามารถเรียกเอกสาร หลักฐาน หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการตรวจสอบ รวมถึงสั่งระงับการโฆษณาหรือจำหน่ายที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

ปรับบทลงโทษ
ผู้ฝ่าฝืนบทบัญญัติตามกฎหมายฉบับใหม่ เช่น การโฆษณาในลักษณะต้องห้าม หรือการใช้ตราสินค้าผิดประเภท อาจมีโทษปรับและจำคุกตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีเจตนาเพื่อให้การควบคุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคยุคใหม่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่