.ทุกคนขาเมื่อวานเราลืมเข้ามาเขียนเรื่องราวใน EP.3 เพราะมีงานร้องเพลง ต้องขออภัยุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวนะคะ ฮ่าา
วันนี้เราจะเล่าเรื่องราวต่อจากครั้งก่อนที่เล่าไปถึงตอนเข้ามหาวิทยาลัย โดยจะเริ่ม ณ บัดนี้ 555 🙏😁
หลังจากที่เราสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เราก็ได้หาหอพักที่ราคาไม่แพงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และเราได้หอที่มีห้องขนาดเล็กมาก ภายในตัวห้องมีเพียงพัดลม ห้องเป็นไม้ มีห้องน้ำขนาดเล๊ะกกก คำว่าเล็กในที่นี้คือ จะต้องเบียดตัวเข้า555
พ่อกับแม่เลี้ยงของเรารู้สึกไม่โอเคกับหอพักแห่งนี้เพราะอยากให้เราได้อยู่ในพื้นที่ที่ดี แต่เราต้องการที่จะรับผิดชอบตัวเองทั้งหมด ไม่อยากให้พ่อกับแม่เลี้ยงต้องมารับผิดชอบเรื่องที่พักให้ จึงยืนยันที่พักหอนี้ต่อ 😅👌
พ่อของเรายังไม่ลดความพยายาม เขาบอกว่าวันที่เราย้ายของเข้าหอพักได้เห็นคนส่งยาเสพติดกันบริเวณหน้าหอพัก จึงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย อีกอย่างคือหอพักนั้นไม่มีรั้วกั้นจากคนภายนอกเลย ใครจะเข้าออกหอก็สามารถทำได้ แม่เลี้ยงเราก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้
แต่..ด้วยความดื้อรั้น เราจึงบอกว่าเราจะลองอยู่ก่อน แล้วจะย้ายถ้าเรารู้สึกไม่โอเค
หลังจากจบเรื่องสอบเข้ามหาลัย พร้อมกับหาหอพัก ลำดับต่อไปคือ..หาที่ทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียน 😁
ถึงแม้ว่าช่วงนั้นเราจะมีงานพิเศษคือการร้องเพลงแล้วก็ตาม แต่งานร้องเพลงในช่วงนั้นไม่ได้มีทุกวัน เราจึงต้องการที่จะหางานพาร์ทไทม์ที่สามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียนในทุกวัน
เมื่อคิดแบบนั้นแล้วเราจึงเริ่มตามหาสถานที่สำหรับทำงานพาร์ทไทม์
ผ่านไปไม่นานเราก็ได้รับสายโทรศัพท์จากร้านชาบูแถวหอพักว่าให้เราไปเริ่มงานในวันถัดไป
เรารู้สึกดีใจมากและไปเริ่มงานตามที่ทางร้านแจ้งรายละเอียด
ระหว่างนั้นเราได้มีการติดต่อพูดคุยกับพี่เขาเป็นระยะ บางครั้งก็คุยผ่านคอมเม้นท์เฟซบุ๊ก บางครั้งก็จะทักมาพูดคุยเรื่องต่างๆ
และ..มีวันหนึ่งที่เรากำลังทำงานพาร์ทไทม์ตามปกติ แต่เมื่อเลิกงานเราได้ถ่ายภาพลง Facebook
หลังจากนั้นมีเสียงข้อความ ดังขึ้น "ตริ๊ง" เมื่อเราเปิดอ่านข้อความ มันทำให้หัวใจขอเราเต้นระรัว 🥹
ข้อความนั้นคือข้อความจากพี่เขาส่งมาบอกกับเราว่า " เลิกงานกี่โมง ไปกินข้าวกับพี่ไหม เดี๋ยวพี่ไปรับ " 😂😅
ทุกค๊น!!! ตอนนั้นเราอ่านข้อความและคิดว่าจะไปดีไหม เพราะรู้สึกอายมาก เราไม่เคยมีผู้ชายคนไหนชวนไปกินข้าวมาก่อนเลยในชีวิต เพราะเราไม่เคยมีแฟน ใครมีจีบเราก็ปฏิเสธทุกคน เรากำลังจะทำตัวไม่ถูก แต่...เราตอบตกลง ฮ่าา พร้อมบอกกับตัวเองว่าจงทำตัวให้เป็นธรรมชาติ 555
พอเลิกงานเราก็ไม่ได้กลับหอ เพราะไม่อยากให้พี่เขารู้หอพัก55 เลยให้เขามารับที่ทำงานนั่นแหล่ะ
เมื่อพี่เขามาถึงเราก็ไปทานข้าวที่ร้านข้าวต้มที่ไม่ไกลจากที่ทำงานของฉัน และฉันทำตัวเหมือนโรคจิต เพราะในระหว่างรออาหารมา ฉันแอบถ่ายรูปพี่เขา 55555 ซึ่ซึ่งฉันคิดว่าเขาอาจจะรู้ เพราะจากที่รู้จักกันกับเขามา เขาเป็นผู้ชายที่ฉลาดมาก 😖 แต่ช่างเถอะ เพราะฉันก็อยากถ่ายเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำเหมือนกัน ฮ่าา
เมนูอาหารที่เราสองคนสั่งวันนั้นคือ กะเพราไข่เยี่ยวม้า 2 จาน เพียงแค่ของเขาจะเผ็ดปกติ ส่วนของเราจะไม่เผ็ดเลย ในใจเราแอบคิดว่า ไม่อยากจะเชื่อเลยเรากับพี่เขาชอบทานอาหารเมนูเดียวกัน😅😝
หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว พี่เขาชวนเราไปนั่งเล่นริมแม่น้ำ ตอนแรกตั้งใจจะไม่ไป แต่สุดท้ายก็ตอบเขาว่า " ไปสิ่พี่ " 555 😅
เรื่องราวนี้ผ่านไปหลายปีจนฉันจำเรื่องราวที่พูดคุยกันในวันนั้นไม่ได้ จำได้เพียงแค่ มันเป็นอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมาก แต่เมื่อเริ่มดึก ฉันจึงบอกให้พี่เขาไปส่งที่เซเว่นแถวหอพัก และเดินย้อนกลับไปที่หอเอง เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้ว่าหอพักอยู่ตรงไหน55ฉ ฝนไปเรียนตามปกติเมื่อเปิดเทอม และไปทำงานพาร์ทไทม์ทุกเย็นหลังเลิกเรียน ต่อมา ได้รับข่าวดีจากเขาว่า " ที่วงได้งานร้องเพลงในตลาดย้อนยุคทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ " เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยประมาณ 🗓️
ฉันไปร้องเพลงตามนัดหมายเมื่อถึงวันกำหนด และระหว่างนั้นมีนักดนตรีเข้ามาจีบฉัน แต่ฉันก็ปฏิเสธอีกตามเคย 🥹
ผ่านไปสักระยะหนึ่ง มีน้องในวงบอกกับฉันว่า " พี่ชายของเขาชอบฉัน " และการแสดงคืนนั้นเขาจะมาดู ฉันฟังแล้วก็รู้สึกยินดีที่มีคนชื่นชอบในตัวฉัน แต่ไม่ได้รู้สึกว่าต้องการให้เป็นเรื่องชู้สาว 😅
เมื่อถึงเวลาขึ้นแสดง ฉันได้ทำการร้องเพลงตามหน้าที่ของตัวเอง และเมื่อการแสดงจบลง พี่ชายของน้องในวงได้เข้ามาพูดคุยกับฉัน และฉันก็พูดคุยกับพี่ชายเขาตามมารยาท ในฐานะเพื่อน เพราะฉันได้ทราบว่าเขากับฉันอายุไล่เรี่ยกัน เราทั้งสองคนยืนคุยกันอยู่ที่หลังเวทีการแสดง เราถามข้อมูลต่างๆของกันและกัน แล้วเขาบอกกับฉันว่าวันรุ่งขึ้นจะต้องไปสอบ ฉันจึงพูดเพื่อให้กำลังใจตามมารยาท และ..ในคืนนั้นเขาเอ่ยปากอาสาที่จะไปส่งฉันกลับหอพัก
แต่..ฉันยังไม่ทันอ้าปากตอบ
ก็มีผู้ชายหน้าตาดีโผล่เข้ามาบอกว่า " เอ้อ..เดี๋ยววันนี้แกกลับบ้านกับพี่นะ พอดีพี่จะต้องไปรับเพื่อนที่สถานีรถไฟตอนตี 3 จะขออาศัยนอนหอแกถึงตี 3 แล้วพี่จะไป " ตอนนั้นสิ่งที่ฉันรู้สึกประหลาดใจคือ เขาโผล่มาได้โป๊ะโป๊ะมาก555 และอีกอย่างที่คิดคือ มันอีกแค่ 3-4 ชั่วโมงเองให้พี่เขาอาศัยนอนคงไม่เป็นไร ( ทั้งๆที่ผ่านมาไม่อยากให้เขารู้จักหอ5555 อิหยังวะมาก )
พอเก็บข้าวของเสร็จฉันก็นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พี่เขากลับหอ พี่เขาแลดูช็อคกับความเล็กของห้องนิดหน่อย555
และเมื่อเปิดประตูเข้าห้องไปเขาเห็นว่ามีหมอนหนุนหัวสองใบ จึงเอ่ยปากถามฉันว่า " ทำไมถึงมีหมอนหนุนสองใบ? " ฉันก็จึงตอบพี่เขาไปตามความจริงว่า " "หนูเอาไว้หนุนหัวใบนึง ส่วนอีกใบนึงหนูเอากอดแทนหมอนข้างค่ะ" เขารับฟังและแสดงปฏิกิริยาว่าเข้าใจ ฉันไปอาบน้ำ ส่วนพี่เขาไม่อาบ เขานอนเลย55 ( ความลับคนหล่อมันคือแบบนี้นี่เอง ) นี่คือเสียงในหัว555
หลังจากอาบน้ำเสร็จฉันก็หยิบหมอนมานอนห่างจากพี่เขา แต่ด้วยความที่ห้องนั้นมีขนาดเล็กมาก เมื่อนอนสองคน ทำตัวให้ห่างกับเขายังไงก็แลดูใกล้กันกับเขาอยู่ดี 😂😅
ฉันนอนลงพร้อมเอ่ยปากถามว่าหนูขอปิดไฟได้ไหม พี่เขาก็ตอบรับว่า"ได้" ฉันจึงปิดไฟและนอนลง...zZ
หลับไปได้ไม่นานนัก ฉันรู้สึกว่ามีอะไรหนักทับบนตัวของฉัน ฉันจึงค่อยไปลืมตาดู 🤨
สรุปว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกหนักคือขาของพี่เขาที่นำมาก่ายฉันฉันไว้ 😤
ฉันพยายามที่จะยกออก พยายามเอาตัวออกจาขาในเวลานั้น แต่..ยิ่งฉันยกก็จะเหมือนโดนกดเอาไว้ ฉันเอ่ยปากเรียกพี่เขา แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ มีเพียงปฏิกิริยาการกดขาให้แน่นขึ้น ฉันรู้สึกเหนื่อย จึงปล่อยและนอนต่อ 😴พร้อมกับตั้งนาฬิกาปลุกก่อนจะหลับ
03.00 น. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น แต่มีเพียงฉันที่ตื่น พี่เขาไม่ตื่นและไม่เห็นว่าเขาจะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้เลยสักนิด ฉันจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่งพร้อมเอ่ยปากบอกพี่เขาว่า " พี่! ตื่นได้แล้วตี 3 แล้วค่ะ พี่ต้องไปรับเพื่อนที่สถานีรถไฟไม่ใช่หรอ?" เขาตอบมาว่า " พี่คุยกับเพื่อนแล้ว ไม่ต้องไปรับมันแล้ว " ฉันรู้สึกงงว่าเขาไปคุยกับเพื่อนตอนไหน555เพราะหลับด้วยกันตลอด ยังไม่ได้ยินเสียงอะไรสักแอะ555เขาเอ่ยปากขอนอนต่อ ฉันจึงตั้งใจว่าจะให้เขานอนถึงแต่ตีห้าและกลับบ้าน
05.00 น.เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นอีกครั้ง ฉันทำการเอ่ยปากปลุกพี่เขา พูดกับพี่เขาว่าตื่นได้แล้ว 5:00 น แล้วค่ะพี่ไม่กลับบ้านหรอ555
เขาก็ยังนอนเหมือนเดิม และในวันนั้นฉันมีธุระที่ต่างจังหวัด จึงรีบอาบน้ำแต่งตัว และเดินทางไปต่างจังหวัดพร้อมกับทิ้งข้อความบอกกับพี่เขาว่าหนูเดินทางไปต่างจังหวัดแต่เดี๋ยวเย็นๆจะกลับมา กุญแจล็อคห้องอยู่ตรงหัวนอน
ฮรื้อออทุกคนขา ตอนนี้เรารู้สึกง่วงมากตาจะปิดแล้ว555
ขออนุญาตจบเรื่องราวไว้เพียงเท่านั้นก่อนน้าา
เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะมีเขียนต่อใน EP.4 นะค้าา
ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะมีใครอ่านกระทู้นี้มากน้อยแค่ไหน
แต่ที่รู้คือ เรื่องนี้มันถึงเวลาที่จะต้องถูกเปิดเผย ฮ่าา😂👌
EP.3 สาวห้าว แอบรักเกย์รุ่นพี่มา 10 ปี พยายามตัดใจหลายวิธีก็ยังชอบพี่เหมือนเดิม
วันนี้เราจะเล่าเรื่องราวต่อจากครั้งก่อนที่เล่าไปถึงตอนเข้ามหาวิทยาลัย โดยจะเริ่ม ณ บัดนี้ 555 🙏😁
หลังจากที่เราสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เราก็ได้หาหอพักที่ราคาไม่แพงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และเราได้หอที่มีห้องขนาดเล็กมาก ภายในตัวห้องมีเพียงพัดลม ห้องเป็นไม้ มีห้องน้ำขนาดเล๊ะกกก คำว่าเล็กในที่นี้คือ จะต้องเบียดตัวเข้า555
พ่อกับแม่เลี้ยงของเรารู้สึกไม่โอเคกับหอพักแห่งนี้เพราะอยากให้เราได้อยู่ในพื้นที่ที่ดี แต่เราต้องการที่จะรับผิดชอบตัวเองทั้งหมด ไม่อยากให้พ่อกับแม่เลี้ยงต้องมารับผิดชอบเรื่องที่พักให้ จึงยืนยันที่พักหอนี้ต่อ 😅👌
พ่อของเรายังไม่ลดความพยายาม เขาบอกว่าวันที่เราย้ายของเข้าหอพักได้เห็นคนส่งยาเสพติดกันบริเวณหน้าหอพัก จึงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย อีกอย่างคือหอพักนั้นไม่มีรั้วกั้นจากคนภายนอกเลย ใครจะเข้าออกหอก็สามารถทำได้ แม่เลี้ยงเราก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้
แต่..ด้วยความดื้อรั้น เราจึงบอกว่าเราจะลองอยู่ก่อน แล้วจะย้ายถ้าเรารู้สึกไม่โอเค
หลังจากจบเรื่องสอบเข้ามหาลัย พร้อมกับหาหอพัก ลำดับต่อไปคือ..หาที่ทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียน 😁
ถึงแม้ว่าช่วงนั้นเราจะมีงานพิเศษคือการร้องเพลงแล้วก็ตาม แต่งานร้องเพลงในช่วงนั้นไม่ได้มีทุกวัน เราจึงต้องการที่จะหางานพาร์ทไทม์ที่สามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียนในทุกวัน
เมื่อคิดแบบนั้นแล้วเราจึงเริ่มตามหาสถานที่สำหรับทำงานพาร์ทไทม์
ผ่านไปไม่นานเราก็ได้รับสายโทรศัพท์จากร้านชาบูแถวหอพักว่าให้เราไปเริ่มงานในวันถัดไป
เรารู้สึกดีใจมากและไปเริ่มงานตามที่ทางร้านแจ้งรายละเอียด
ระหว่างนั้นเราได้มีการติดต่อพูดคุยกับพี่เขาเป็นระยะ บางครั้งก็คุยผ่านคอมเม้นท์เฟซบุ๊ก บางครั้งก็จะทักมาพูดคุยเรื่องต่างๆ
และ..มีวันหนึ่งที่เรากำลังทำงานพาร์ทไทม์ตามปกติ แต่เมื่อเลิกงานเราได้ถ่ายภาพลง Facebook
หลังจากนั้นมีเสียงข้อความ ดังขึ้น "ตริ๊ง" เมื่อเราเปิดอ่านข้อความ มันทำให้หัวใจขอเราเต้นระรัว 🥹
ข้อความนั้นคือข้อความจากพี่เขาส่งมาบอกกับเราว่า " เลิกงานกี่โมง ไปกินข้าวกับพี่ไหม เดี๋ยวพี่ไปรับ " 😂😅
ทุกค๊น!!! ตอนนั้นเราอ่านข้อความและคิดว่าจะไปดีไหม เพราะรู้สึกอายมาก เราไม่เคยมีผู้ชายคนไหนชวนไปกินข้าวมาก่อนเลยในชีวิต เพราะเราไม่เคยมีแฟน ใครมีจีบเราก็ปฏิเสธทุกคน เรากำลังจะทำตัวไม่ถูก แต่...เราตอบตกลง ฮ่าา พร้อมบอกกับตัวเองว่าจงทำตัวให้เป็นธรรมชาติ 555
พอเลิกงานเราก็ไม่ได้กลับหอ เพราะไม่อยากให้พี่เขารู้หอพัก55 เลยให้เขามารับที่ทำงานนั่นแหล่ะ
เมื่อพี่เขามาถึงเราก็ไปทานข้าวที่ร้านข้าวต้มที่ไม่ไกลจากที่ทำงานของฉัน และฉันทำตัวเหมือนโรคจิต เพราะในระหว่างรออาหารมา ฉันแอบถ่ายรูปพี่เขา 55555 ซึ่ซึ่งฉันคิดว่าเขาอาจจะรู้ เพราะจากที่รู้จักกันกับเขามา เขาเป็นผู้ชายที่ฉลาดมาก 😖 แต่ช่างเถอะ เพราะฉันก็อยากถ่ายเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำเหมือนกัน ฮ่าา
เมนูอาหารที่เราสองคนสั่งวันนั้นคือ กะเพราไข่เยี่ยวม้า 2 จาน เพียงแค่ของเขาจะเผ็ดปกติ ส่วนของเราจะไม่เผ็ดเลย ในใจเราแอบคิดว่า ไม่อยากจะเชื่อเลยเรากับพี่เขาชอบทานอาหารเมนูเดียวกัน😅😝
หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว พี่เขาชวนเราไปนั่งเล่นริมแม่น้ำ ตอนแรกตั้งใจจะไม่ไป แต่สุดท้ายก็ตอบเขาว่า " ไปสิ่พี่ " 555 😅
เรื่องราวนี้ผ่านไปหลายปีจนฉันจำเรื่องราวที่พูดคุยกันในวันนั้นไม่ได้ จำได้เพียงแค่ มันเป็นอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมาก แต่เมื่อเริ่มดึก ฉันจึงบอกให้พี่เขาไปส่งที่เซเว่นแถวหอพัก และเดินย้อนกลับไปที่หอเอง เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้ว่าหอพักอยู่ตรงไหน55ฉ ฝนไปเรียนตามปกติเมื่อเปิดเทอม และไปทำงานพาร์ทไทม์ทุกเย็นหลังเลิกเรียน ต่อมา ได้รับข่าวดีจากเขาว่า " ที่วงได้งานร้องเพลงในตลาดย้อนยุคทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ " เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยประมาณ 🗓️
ฉันไปร้องเพลงตามนัดหมายเมื่อถึงวันกำหนด และระหว่างนั้นมีนักดนตรีเข้ามาจีบฉัน แต่ฉันก็ปฏิเสธอีกตามเคย 🥹
ผ่านไปสักระยะหนึ่ง มีน้องในวงบอกกับฉันว่า " พี่ชายของเขาชอบฉัน " และการแสดงคืนนั้นเขาจะมาดู ฉันฟังแล้วก็รู้สึกยินดีที่มีคนชื่นชอบในตัวฉัน แต่ไม่ได้รู้สึกว่าต้องการให้เป็นเรื่องชู้สาว 😅
เมื่อถึงเวลาขึ้นแสดง ฉันได้ทำการร้องเพลงตามหน้าที่ของตัวเอง และเมื่อการแสดงจบลง พี่ชายของน้องในวงได้เข้ามาพูดคุยกับฉัน และฉันก็พูดคุยกับพี่ชายเขาตามมารยาท ในฐานะเพื่อน เพราะฉันได้ทราบว่าเขากับฉันอายุไล่เรี่ยกัน เราทั้งสองคนยืนคุยกันอยู่ที่หลังเวทีการแสดง เราถามข้อมูลต่างๆของกันและกัน แล้วเขาบอกกับฉันว่าวันรุ่งขึ้นจะต้องไปสอบ ฉันจึงพูดเพื่อให้กำลังใจตามมารยาท และ..ในคืนนั้นเขาเอ่ยปากอาสาที่จะไปส่งฉันกลับหอพัก
แต่..ฉันยังไม่ทันอ้าปากตอบ
ก็มีผู้ชายหน้าตาดีโผล่เข้ามาบอกว่า " เอ้อ..เดี๋ยววันนี้แกกลับบ้านกับพี่นะ พอดีพี่จะต้องไปรับเพื่อนที่สถานีรถไฟตอนตี 3 จะขออาศัยนอนหอแกถึงตี 3 แล้วพี่จะไป " ตอนนั้นสิ่งที่ฉันรู้สึกประหลาดใจคือ เขาโผล่มาได้โป๊ะโป๊ะมาก555 และอีกอย่างที่คิดคือ มันอีกแค่ 3-4 ชั่วโมงเองให้พี่เขาอาศัยนอนคงไม่เป็นไร ( ทั้งๆที่ผ่านมาไม่อยากให้เขารู้จักหอ5555 อิหยังวะมาก )
พอเก็บข้าวของเสร็จฉันก็นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พี่เขากลับหอ พี่เขาแลดูช็อคกับความเล็กของห้องนิดหน่อย555
และเมื่อเปิดประตูเข้าห้องไปเขาเห็นว่ามีหมอนหนุนหัวสองใบ จึงเอ่ยปากถามฉันว่า " ทำไมถึงมีหมอนหนุนสองใบ? " ฉันก็จึงตอบพี่เขาไปตามความจริงว่า " "หนูเอาไว้หนุนหัวใบนึง ส่วนอีกใบนึงหนูเอากอดแทนหมอนข้างค่ะ" เขารับฟังและแสดงปฏิกิริยาว่าเข้าใจ ฉันไปอาบน้ำ ส่วนพี่เขาไม่อาบ เขานอนเลย55 ( ความลับคนหล่อมันคือแบบนี้นี่เอง ) นี่คือเสียงในหัว555
หลังจากอาบน้ำเสร็จฉันก็หยิบหมอนมานอนห่างจากพี่เขา แต่ด้วยความที่ห้องนั้นมีขนาดเล็กมาก เมื่อนอนสองคน ทำตัวให้ห่างกับเขายังไงก็แลดูใกล้กันกับเขาอยู่ดี 😂😅
ฉันนอนลงพร้อมเอ่ยปากถามว่าหนูขอปิดไฟได้ไหม พี่เขาก็ตอบรับว่า"ได้" ฉันจึงปิดไฟและนอนลง...zZ
หลับไปได้ไม่นานนัก ฉันรู้สึกว่ามีอะไรหนักทับบนตัวของฉัน ฉันจึงค่อยไปลืมตาดู 🤨
สรุปว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกหนักคือขาของพี่เขาที่นำมาก่ายฉันฉันไว้ 😤
ฉันพยายามที่จะยกออก พยายามเอาตัวออกจาขาในเวลานั้น แต่..ยิ่งฉันยกก็จะเหมือนโดนกดเอาไว้ ฉันเอ่ยปากเรียกพี่เขา แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ มีเพียงปฏิกิริยาการกดขาให้แน่นขึ้น ฉันรู้สึกเหนื่อย จึงปล่อยและนอนต่อ 😴พร้อมกับตั้งนาฬิกาปลุกก่อนจะหลับ
03.00 น. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น แต่มีเพียงฉันที่ตื่น พี่เขาไม่ตื่นและไม่เห็นว่าเขาจะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้เลยสักนิด ฉันจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่งพร้อมเอ่ยปากบอกพี่เขาว่า " พี่! ตื่นได้แล้วตี 3 แล้วค่ะ พี่ต้องไปรับเพื่อนที่สถานีรถไฟไม่ใช่หรอ?" เขาตอบมาว่า " พี่คุยกับเพื่อนแล้ว ไม่ต้องไปรับมันแล้ว " ฉันรู้สึกงงว่าเขาไปคุยกับเพื่อนตอนไหน555เพราะหลับด้วยกันตลอด ยังไม่ได้ยินเสียงอะไรสักแอะ555เขาเอ่ยปากขอนอนต่อ ฉันจึงตั้งใจว่าจะให้เขานอนถึงแต่ตีห้าและกลับบ้าน
05.00 น.เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นอีกครั้ง ฉันทำการเอ่ยปากปลุกพี่เขา พูดกับพี่เขาว่าตื่นได้แล้ว 5:00 น แล้วค่ะพี่ไม่กลับบ้านหรอ555
เขาก็ยังนอนเหมือนเดิม และในวันนั้นฉันมีธุระที่ต่างจังหวัด จึงรีบอาบน้ำแต่งตัว และเดินทางไปต่างจังหวัดพร้อมกับทิ้งข้อความบอกกับพี่เขาว่าหนูเดินทางไปต่างจังหวัดแต่เดี๋ยวเย็นๆจะกลับมา กุญแจล็อคห้องอยู่ตรงหัวนอน
ฮรื้อออทุกคนขา ตอนนี้เรารู้สึกง่วงมากตาจะปิดแล้ว555
ขออนุญาตจบเรื่องราวไว้เพียงเท่านั้นก่อนน้าา
เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะมีเขียนต่อใน EP.4 นะค้าา
ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะมีใครอ่านกระทู้นี้มากน้อยแค่ไหน
แต่ที่รู้คือ เรื่องนี้มันถึงเวลาที่จะต้องถูกเปิดเผย ฮ่าา😂👌