[NoCut News] บทสัมภาษณ์พิเศษกับ LEETEUK : ครบรอบ 20 ปี Super Junior

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2025 กลุ่มศิลปิน Super Junior ซึ่งเดบิวต์เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2005 ได้ครบรอบ 20 ปีพอดี ตอนที่พวกเขาเปิดตัวในตอนนั้น Super Junior เป็นวงที่มีสมาชิกจำนวนมากและมีสมาชิกชาวต่างชาติ ซึ่งถือว่าแปลกใหม่ในยุคนั้น พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงไอดอลกลุ่มหนึ่ง แต่ยังเป็นทีมที่ขยายขอบเขตการทำงานของ "ไอดอล" ให้กว้างขึ้น ผ่านการทำงานในด้านต่างๆ ตามความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคน

Super Junior เริ่มต้นด้วยสมาชิกมากกว่า 10 คน และตั้งแต่วันเดบิวต์จนถึงวันนี้ อีทึกได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมมาโดยตลอด CBS NoCut News ได้พูดคุยกับเขาผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษในโอกาสครบรอบ 20 ปีของวง

1. ครบรอบ 20 ปีของ Super Junior รู้สึกอย่างไรบ้าง?
ตอนนี้ Super Junior ก็อายุ 20 ปีแล้ว ถ้าเทียบเป็นอายุคนก็คือโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วนะครับ 20 ปีผ่านไปไวมาก มีทั้งเรื่องดี เรื่องเศร้า เรื่องหัวเราะและน้ำตาที่เราผ่านมาด้วยกัน วงเราเลยแข็งแกร่งขึ้น และยังได้รับความรักมากมายจนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณสมาชิกที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณแฟนคลับ E.L.F. ที่รักเรามาโดยตลอด และขอบคุณทีมงานทุกคนของ SM Entertainment อยากให้ทุกคนรอดูเลยครับว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า Super Junior จะเดินไปทางไหนต่อ

2. Super Junior เป็นวงที่กล้าออกนอกกรอบมากในยุคนั้น คุณคิดว่าวงได้ฝากรอยเท้าแบบไหนไว้ในประวัติศาสตร์ K-pop?
สิ่งที่ตอนนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ เมื่อ 20 ปีก่อนมันคือความท้าทายที่ยากมากครับ เพราะเราเป็นวงใหญ่ เวลามีสมาชิกติดงานบางคนก็ต้องมีเวอร์ชันการแสดงหลายแบบไว้รองรับ หรือถ้าบางยูนิตไปทำกิจกรรมในจีน ก็จะมีอีกยูนิตทำงานในเกาหลีแทน ตอนนั้นหลายคนอาจจะงง แต่สุดท้ายเราก็พิสูจน์ได้ว่ามันเวิร์ก ทุกวันนี้หลายอย่างกลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว พวกเราถึงจะเดบิวต์ในฐานะนักร้อง แต่แต่ละคนมีความสามารถหลากหลาย ทั้งพิธีกร นักแสดง นักแต่งเพลง หรือโปรดิวเซอร์ เราก็เลยสามารถทำงานในหลายด้านได้พร้อมกัน ซึ่งแนวทาง “แยกกันทำ แต่ก็ยังไปด้วยกัน” แบบนี้ ผมว่าช่วยสร้างวัฒนธรรมใหม่ให้กับวงการบันเทิงเลยครับ

3. ในฐานะลีดเดอร์ คุณมองเห็นพัฒนาการของสมาชิกแต่ละคนอย่างไรบ้าง จากวันแรกจนถึงตอนนี้?
ตอนเดบิวต์เราทุกคนยังเด็กมาก ผมเองก็ยังอายุน้อย เวลาจะทำอะไรผมก็มักจะเอาคำของผู้จัดการมาบอกต่อให้ทุกคนช่วยกัน แต่ตอนนี้สมาชิกทุกคนมีประสบการณ์ มีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น และรู้ว่าตัวเองควรทำหน้าที่อะไร บรรยากาศตอนนี้ดีมาก เพราะทุกคนต่างช่วยกันนำพาวงไปข้างหน้า ผมชอบแบบนี้มากเลยครับ

4. แล้วคุณคิดว่า Super Junior เป็นวงแบบไหน?
หลายคนรู้จักเราผ่านเพลง “Sorry, Sorry” และพูดถึงแนว ‘SJ Funky’ หรือ ‘SMP (SM Music Performance)’ แต่ผมว่าที่สุดแล้ว Super Junior ก็แค่ทำ “เพลงของ Super Junior” ต่อไป เพลงของเรามีเอกลักษณ์จนคนอื่นคัฟเวอร์ยากเลยล่ะครับ (หัวเราะ)

5. ถ้าให้แนะนำเพลงที่อยากให้คนฟังมากที่สุดล่ะ?
จริงๆ ทุกเพลงของเราก็ดีหมดครับ แต่ถ้าให้เลือก ผมอยากแนะนำเพลง “The Lucky Ones” จากอัลบั้มที่ 8 และ “My All Is In You” จากอัลบั้มที่ 4 รวมถึงเพลงที่สมาชิกแต่งเอง เช่น “Super Duper” ที่ผมมีส่วนร่วม หรือ “Only U” ที่ทำกับทงเฮครับ

6. ‘Super Show’ คอนเสิร์ตของ Super Junior ดำเนินมาถึงซีซัน 10 แล้ว อยากให้เล่าถึงเสน่ห์ของคอนเสิร์ตนี้หน่อยครับ
‘Super Show’ ตอนนี้กลายเป็นแบรนด์การแสดงที่แข็งแกร่งมากแล้วครับ ปกติคนจะดูคอนเสิร์ตเพราะชอบเพลงของศิลปินนั้น แต่คอนเสิร์ตของเรา ต่อให้ไม่รู้จักเพลงสักเพลงเดียวก็ยังสนุกได้ตลอดทั้งโชว์เลยครับ มีคนบอกกันว่า “อาจจะมีคนที่ไม่เคยดู Super Show แต่ไม่มีใครดูแค่ครั้งเดียว” เพราะมันสนุกมากจนอยากดูอีกแน่นอนครับ

7. อยากทำเวทีในฝันแบบไหนในการแสดง Super Show ต่อไป?
ตอนนี้ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องทำเวทีแบบไหน แต่อยากให้เรายังได้แสดงต่อไปเรื่อยๆ แบบที่เคยทำมาตลอดครับ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด

8. มีเวทีไหนที่คิดว่าทุกคนควรดูให้ได้สักครั้งไหม?
แน่นอนครับ ต้องเป็น “Sorry, Sorry” เพลงนี้ได้ Nick Bass ซึ่งเคยเป็นแดนเซอร์ของไมเคิล แจ็กสันมาออกแบบท่าเต้นให้ ท่ามันซับซ้อนแต่ดูเท่มาก เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ใช่ ทุกคนจำได้แน่นอนครับ

9. เคล็ดลับที่ทำให้วงอยู่ด้วยกันมาได้นานขนาดนี้คืออะไร?
จริงๆ พวกเรายังทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ ครับ (หัวเราะ) แต่สิ่งสำคัญคือเราพยายามเข้าใจกัน และเวลามีปัญหาก็จะหาทางแก้อย่างมีสุขภาพจิตดี อีกอย่างคือ เราตกลงกันไว้ว่าจะไม่พูดคำว่า “เลิกกัน” หรือ “จบกันเถอะ” ไม่ว่าจะทะเลาะกันแค่ไหนก็ตาม ผมคิดว่านั่นแหละครับคือเหตุผลที่เรายังอยู่ด้วยกันมาถึงวันนี้

10. ในฐานะ “ไอดอลที่ยังคงเดินหน้าต่อไป” Super Junior อยากทำอะไรต่อในอนาคต?
พวกเราได้รับความรักมามากตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นในอีก 20 ปีข้างหน้า ผมอยากตอบแทนความรักนั้นให้ได้มากที่สุด อยากเดินทางต่อไปกับแฟนๆ และทีมงาน เหมือนวิ่งมาราธอนช้าๆ ไปด้วยกัน เพื่อจะได้รู้สึกถึงความสุขและความรักที่มากขึ้นครับ ขอบคุณครับ


ที่มา: Naver
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่