JJNY : 6in1 เท้งซัดอนุทิน│กมธ.มั่นคงจ่อส่งสอบ│ทำไมดิ้นกันจัง│วิโรจน์ชี้ปมผู้ช่วย│ธนเดชจับตา│ฮ่องกง-ไต้หวันอายัดทรัพย์

เท้ง ซัด อนุทิน เซ็นเช็คเปล่า โยนขรก.ออกหน้าปราบสแกมเมอร์ ซ้ำ คนในรบ.ยังไม่ให้ความร่วมมือกมธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5442243
.

.
‘เท้ง’ ถาม ‘อนุทิน’ เซ็นเช็คเปล่า โยนขรก.ออกหน้าปราบสแกมเมอร์ จงใจปล่อยเกียร์ว่างหรือไม่ แนะ ตั้งหน่วยพิเศษ-จัดประชุมนานาชาติ พร้อมใช้ทุกกลไกนิติบัญญัติติดตามผล
.
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในงาน The Standard Economic Forum โดยไม่สามารถตอบได้ว่ารัฐบาลมีแผนที่เป็นรูปธรรมใดๆ ในการปราบสแกมเมอร์ แต่ใช้วิธี “เซ็นเช็คเปล่า” ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้อำนาจปราบปรามสแกมเมอร์อย่างเต็มที่
โดย นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเช่นนี้ ถือว่าบกพร่องต่อการทำหน้าที่ผู้นำประเทศอย่างมาก เพราะเป็นการปัดความรับผิดขอบ โยนเผือกร้อนให้ข้าราชการ และจะทำให้การปราบปรามสแกมเมอร์ไม่คืบหน้าอย่างแน่นอน วันนี้ประชาชนทั้งประเทศถือว่าปัญหาทุนเทาเข้ายึดครองประเทศ และครอบงำเศรษฐกิจไทย หลอกลวงสร้างความเสียหายนับแสนล้านต่อคนไทย เป็นปัญหาสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีไม่เคยมีท่าทีใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าจริงจังในการปราบปรามสแกมเมอร์ นอกจากตั้งอนุกรรมการ แม้ว่าจะมีรัฐมนตรีถึง 2 คนใน ครม. ที่ถูกเชื่อมโยงว่าอาจมีสายสัมพันธ์กับเครือข่ายสแกมเมอร์ เราในฐานะฝ่ายค้าน พยายามใช้ช่องทางกรรมาธิการ ติดตามตรวจสอบตลอด 1 เดือน แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากบุคคลในรัฐบาล ไม่มีใครมาให้ข้อมูลแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือนายวรภัค  ธันยาวงษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตำรวจไซเบอร์ ก็ให้ความร่วมมืออย่างจำกัด ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร 
.
การที่คุณอนุทินมาพูดวันนี้ว่า เซ็นเช็คเปล่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำไปตามอำนาจ จึงเท่ากับตอกย้ำว่า รัฐบาลจงใจเกียร์ว่าง ไม่มีการสั่งการอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้หน่วยงานราชการไม่กล้าขยับโดยปริยาย เพราะปรากฏเป็นข่าวทั่วไปว่าเรื่องนี้พัวพันกับบุคคลระดับสูงในรัฐบาล ผมจึงขอถามไปยังคุณอนุทินโดยตรงว่าท่านจงใจเกียร์ว่างเพื่อให้เกิดสุญญากาศ เตะถ่วงการสืบสวนเครือข่ายทุนเทาสแกมเมอร์ในไทยหรือไม่” นายณัฐพงษ์กล่าว
.
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงในการสอบสวนเรื่องนี้ รูปธรรมที่ทำได้ทันทีคือ
.
ตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ รวมปฏิบัติการให้มีวอร์รูมแห่งเดียว นายกฯ สั่งการโดยตรง ติดตามอายัดทรัพย์บุคคลที่ปรากฏชื่อในร่างกฎหมาย HR 5490 ว่าด้วยการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติสแกมเมอร์ ของสหรัฐฯ เช่น เบน สมิธ, ยิม เลียก, เฉิง จื้อ และสอบเส้นเงินเพื่อขยายผลถึงผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน
รวมถึงจัดประชุม round-table แลกเปลี่ยนข้อมูลกับคณะทูตนานาชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร สิงคโปร์และเกาหลีใต้ เพื่อวางมาตรการปราบสแกมเมอร์ร่วมกัน รวมถึงประสานกับองค์การตำรวจสากล หรือ Interpol ซึ่งมีหน่วยงานเฉพาะที่ปฏิบัติการปราบปรามสแกมเมอร์
.
เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศคลายความสงสัยว่ารัฐบาลอาจกำลังปกปิดข้อเท็จจริงหรือเตะถ่วงการสอบสวนเครือข่ายสแกมเมอร์ เนื่องจากต้องการปกป้องคนในรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีควรปรับเอารัฐมนตรีที่ถูกเชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์ออกจากคณะรัฐมนตรีชั่วคราว หรืออย่างน้อยที่สุด ให้รัฐมนตรีเหล่านี้แถลงชี้แจงต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ และไปให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการฯ ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประโยชน์ในการติดตามตรวจสอบอาชญากรรมฟอกเงินและสแกมเมอร์
.
หากรัฐบาลคุณอนุทินยังไม่มีรูปธรรมใดๆ ในการปราบปรามสแกมเมอร์ ผมในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน และเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน จะใช้ทุกกลไกเท่าที่มีอยู่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อติดตามขยายผลการสอบสวนเรื่องนี้ต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการถูกตราหน้าเป็นแหล่งฟอกเงิน สมรู้ร่วมคิดกับอาชญากรรมข้ามชาติระดับโลก และเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของพี่น้องคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อสแกมเมอร์” นายณัฐพงษ์กล่าว
.

.
กมธ.มั่นคง จ่อส่ง 43 ชื่อ ให้ทางการสอบ-แบล๊กลิสต์ห้ามเข้าไทย ไม่ท้อเรียก นายกฯ-ธรรมนัส แจง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5442521
.
‘กมธ.ความมั่นคงฯ’ เตรียมส่ง 43 รายชื่อให้ทางการสอบ-แบล๊กลิสต์ห้ามเข้าประเทศ ไม่ท้อเรียก ‘นายกฯ-ธรรมนัส’ แจงกรรมาธิการฯ
.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม กมธ.ฯ ว่า กรณีความเชื่อมโยง BIC กรุ๊ป BIC แบงก์ และนายยิม เลียก โดยภาพรวมเราเริ่มเห็นความคืบหน้าจากการที่เราใช้เวลาประชุมมาหลายครั้ง สำหรับกรณีของนายเบน สมิธ ในเรื่องขอการขอสัญชาติ เราได้ข้อมูลมาว่านายเบน สมิธ มีหลายสัญชาติ และขั้นตอนของการขอสัญชาติได้สิ้นสุดลงแล้ว ได้มีการส่งคำร้องกลับไปยังผู้ขอเนื่องจากมีความพยายามตกแต่งบัญชีการยื่นภาษีทำให้ไม่สามารถขอสัญชาติได้ ซึ่งเราไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการต่อไปหรือไม่ เราพบหลักฐานบางประการที่สามารถดำเนินคดีเพิ่มเติมได้อีก
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายก๊ก อาน ซึ่งจริงๆ ไม่ได้เป็นคนที่มีสัญชาติไทย แต่มีที่อยู่ถาวรคือประเทศไทย โดยใน กมธ.มีการพูดคุยกันว่าหลังจากนี้จะมีการถอนถิ่นที่อยู่ถาวร รวมถึงนายก๊กอานก็ถูกออกหมายแดงในอินเตอร์โพลถึง 3 หมาย สิ่งที่เราต้องมีการพูดคุยต่อจากนี้คือนายกรัฐมนตรีจะมีการประสานกับกัมพูชาเพื่อให้ส่งตัวนายก๊ก อาน มาดำเนินคดีที่ประเทศไทยอย่างไรต่อไป นายลี ยงพัด ที่ปัจจุบันได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่ามีการถอนสัญชาติ แต่อยู่ในระหว่างการยึดทรัพย์สินต่อไป
.
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่นายยิม เลียก ทาง ปปง. มีแค่ข้อมูลเก่าว่ามีการยึดอายัดทรัพย์นายยิม เลียก ไปแล้ว แต่เบื้องต้นจะมีการดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ เท่าที่ตนฟังทั้งหมด ปปง. พูดมาว่าไม่สามารถริเริ่มดำเนินการอะไรได้ด้วยตนเอง ต้องมีการดำเนินการให้มีคดีมูลฐานก่อน วันนี้ชัดเจนแล้วว่า ปปง.เริ่มนับหนึ่งและอยู่ในขั้นตอนการประสานงาน
.
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หลังจากนี้ กมธ.จะมีการทำหนังสือรายชื่อบุคคลต่างๆ รวมกัน 43 คน ที่เราแบ่งเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งเรามีข้อมูลและจะส่งไปให้หน่วยงานต่างๆ รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อตรวจสอบ และจัดทำเป็นแบล๊กลิสต์ว่าเป็นบุคคลที่อาจไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ รวมถึงอาจต้องมีการตรวจสอบความเกี่ยวพันกับแก๊งสแกมเมอร์มากน้อยแค่ไหน
.
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ในส่วนของปริ๊นซ์ กรุ๊ป ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการตรวจสอบไม่มีความคืบหน้าอะไร นอกจากนี้ ผู้ต้องสงสัยเป็นชาวไต้หวัน แต่ความคืบหน้าในเชิงรายละเอียดยังไม่มี และต้องยอมรับว่าหน่วยงานต่างๆ ยังไม่ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เท่าที่ควรจะเป็น แต่เราคาดหวังว่าเราควรที่จะเห็นความก้าวหน้ากว่านี้ เพราะปัญหาต่างๆ มีความร้ายแรง
.
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ BIC กรุ๊ป และ BIC แบงก์ ที่เราได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล เช่น นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีต ส.ว.และนายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าให้ข้อมูลนั้น เบื้องต้นเราได้รับความร่วมมือที่ดีเพียงคนเดียวคือนายสถิต ที่เข้าให้ข้อมูล ส่วนนายวรภัค ไม่ได้เข้าชี้แจง แต่ได้ทำหนังสือแจ้งมาว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทาง BIC เช่นเดียวกับนายอารีพงษ์ ภู่ชอุ่ม ที่ทำหนังสือชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน และข้อมูลที่เราได้มานั้นจริงๆ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยตรงนี้ได้ เพราะยังต้องนำไปใช้ในการตรวจสอบหลังจากนี้ต่อไป แต่เบื้องต้นนายสถิตได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาเป็นจำนวนมาก
.
เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าจะมีการเชิญใครเข้ามาชี้แจงบ้าง นายรังสิมันต์กล่าวว่า จะมีการสรุปและทำหนังสือแจ้งไปอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ส่วนในอนาคตจะมีการเรียกนายยิม เลียก ภรรยาของนายยิม เลียก และนางแคทลียา บีเวอร์ ภรรยาของนายเบน สมิธ มาชี้แจงหรือไม่นั้น เราก็ไม่ได้มีการปิดกั้น
.

.
วิโรจน์ ถามทำไมดิ้นกันจัง แค่แคมเปญมีเราไม่มีเทา ซัดไม่เทาก็อยู่เฉยๆ ยันกล้าธรรมมีปฏิกิริยาเอง ไม่ได้พุ่งเป้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_5442363
.
“วิโรจน์“ ถามทำไมดิ้นกันจัง แค่แคมเปญมีเราไม่มีเทา ซัดไม่เทาก็อยู่เฉยๆ ยันกล้าธรรมมีปฏิกิริยาเอง ไม่ได้พุ่งเป้า ย้อนถามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเก็บทุนสีเทาไว้ตั้งรัฐบาลหรือ? ท้าประกาศให้ชัดเลย “มีเพื่อไทยก็มีเทา” ยันไม่ได้กล่าวหาใคร
.
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตือนถึงแคมเปญรณรงค์หาเสียงของพรรคประชาชน “มีเราไม่มีเทา” ให้ระวังในตอนจัดตั้งรัฐบาล ว่า แล้วพรรคเพื่อไทย เขาจะเอาเทาหรือ ถ้าเพื่อไทยไม่เห็นด้วย ก็ทำแคมเปญได้ ว่า มีเพื่อไทยก็มีเทา ตนคิดว่า เทาของเรา คือในเรื่องของสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ ยาเสพติด สแกมเมอร์การหลอกลวงออนไลน์ ตนเรียกว่า ธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ที่เราคิดว่าเงินสกปรกเหล่านี้ ทุนสีเทาเหล่านี้ ไม่ควรจะเคลื่อนเข้ามา ยึดกลุ่มประเทศของเรา ผ่านกลไกทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเอานักการเมือง เข้ามาเป็นเครือข่าย จนกลายเป็นนักการเมืองสีเทา เงินสกปรกไปซื้อเสียง ไปซื้อตำแหน่งให้กับข้าราชการระดับสูง เอาข้าราชการระดับสูงมาเป็นลูกสมุน เป็นมือเป็นไม้ในการรับใช้ และเอานักการเมืองสีเทา ไปผลิตนโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับทุนสีเทา ที่เอาเงินมายึดประเทศ ผ่านการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือเข้ามาลงทุน ในธุรกิจต่างๆ หรือเอาเงินที่สกปรกต่างๆเหล่านี้ มาซื้อธุรกิจเพื่อฟอกเงิน แล้วตัดราคา ทุ่มตลาดเพื่อทำลาย ธุรกิจของคนไทย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่