
วันนี้จะมาลงทฤษฏีส่วนตัวที่นี่คิดขึ้นเองเกี่ยวกับชื่อแอคเคาน์ของดอกเตอร์เฟาสต์ หนึ่งในสมาชิกสุดแด๊ดดี้ของอัศวินฮานอย บุคคลที่เตือนยูซากุที่เป็นศัตรูกับรีโวลเวอร์ว่าสักวันยูซากุจะต้องเสียใจกับทางที่ตัวเองเลือก(ข้างเอไอ)
จากชื่อแอคเคาน์ในลิ้งค์เวรนส์ว่า Dr.Faust ซึ่งนี่คาดว่าเขาน่าจะได้รับแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อนี้มาจากวรรณกรรมเรื่อง 'ดอกเตอร์เฟาสต์' ของยุโรป โดยเรื่องแบบย่อๆ ก็คือดร.เฟาสต์ที่เป็นนักปราชญ์ซึ่งกระหายในการเรียนรู้ทุกศาสตร์ แต่ถึงจุดหนึ่งที่เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรเหลือจะให้เรียนรู้อีกแล้ว ขีดจำกัดของมนุษย์มันมีได้แค่นี้ แต่ความรู้ที่เขาได้มามันก็ยังไม่พอดร.เฟาสต์จึงเลือกที่จะขายวิญญาณของตนให้กับซาตาน เพื่อแลกกับความรู้ อำนาจและความสุขบนโลกนี้ ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและตอนจบในแต่ละตำนานอาจจะต่างกันไปตามคนเขียน แต่พ้อยหลักคือประมาณนี้แหละ
ซึ่งชีวิตหลังทำสัญญาของดร.เฟาสต์คือ เขาได้ใช้ชีวิตและพลังไปทั่ว ทั้งสร้างปฏิหารย์และคืนชีพคนตาย ถึงจะเหมือนมีความสุขกับพลัง แต่ในขณะเดียวกันดร.เฟาสต์กลับรู้สึกว่างเปล่าและเสียใจกับพลังนี้มี เพราะมันไม่ได้ทำให้ดร.เฟาสต์มีความสุขหรือเข้าใจโลกทั้งใจอย่างแท้จริง
จุดนี้ทำให้เรามองว่ามันคล้ายกับดร.เฟาสต์ใน ยูกิโอ
การทดลองกับเด็กทั้ง 6 คนที่ถูกลักพาตัวมาก็เหมือนกับดร.เฟาสต์ที่ขายวิญญาณให้กับซาตาน ส่วนพาร์ทชีวิตช่วงที่ได้รับพลังจากซาตานมาแล้ว แต่ดันรู้สึกถึงแต่ความว่างเปล่า พาร์ทนี้ในยูกิโอก็เหมือนกับเหล่าฮานอยที่แน่นอนว่ารู้สึกเสียใจกับการทดลองนี้มากเหมือนกัน และต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่เคยทำร้ายเด็กๆ จนถึงปัจจุบัน
หากมองในแง่ของปรัชญา เรื่องดร.เฟาสต์นั้นเปรียบเสมือนความทะเยอทะยานของมนุษย์ที่อยากจะเทียบเท่าพระเจ้า
ซึ่งมันรีเลทกับเวรนส์ตรงที่ ดร.โคกามิในเรื่องพยายามสร้างเอไอที่มีชีวิตขึ้นมาเพื่ออยู่บนโลแทนมนุษย์ที่ยังคงต้องผูกติดดับกายเนื้ออยู่ มันก็เหมือนกันตรงที่พยายามจะก้าวข้ามจุด
สูงสุดของโลกเหมือนกัน เพราะดร.โคกามิมองว่าหากคนยังต้องผูกติดกับกายเนื้ออยู่ สักวันในโลกอนาคตคนก็จะต้องสูญสลายไปหมดก่อน แต่หากมีเอไอคอยสืบทอดต่อ เอไอของเขานี่แหละที่จะก้าวข้ามจุดนั้นไปแทนได้
-พอดีตอนแรกลงแต่ในทวิต เลยคิดว่าเอามาลงในนี้ด้วยสักหน่อยละกัน เผื่อจะมีคนมาแลปเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพิ่มหน่อย
วิเคราะห์ดอกเตอร์เฟาสต์จากกลุ่มอัศวินฮานอย ยูกิโอ เวรนส์
วันนี้จะมาลงทฤษฏีส่วนตัวที่นี่คิดขึ้นเองเกี่ยวกับชื่อแอคเคาน์ของดอกเตอร์เฟาสต์ หนึ่งในสมาชิกสุดแด๊ดดี้ของอัศวินฮานอย บุคคลที่เตือนยูซากุที่เป็นศัตรูกับรีโวลเวอร์ว่าสักวันยูซากุจะต้องเสียใจกับทางที่ตัวเองเลือก(ข้างเอไอ)
จากชื่อแอคเคาน์ในลิ้งค์เวรนส์ว่า Dr.Faust ซึ่งนี่คาดว่าเขาน่าจะได้รับแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อนี้มาจากวรรณกรรมเรื่อง 'ดอกเตอร์เฟาสต์' ของยุโรป โดยเรื่องแบบย่อๆ ก็คือดร.เฟาสต์ที่เป็นนักปราชญ์ซึ่งกระหายในการเรียนรู้ทุกศาสตร์ แต่ถึงจุดหนึ่งที่เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรเหลือจะให้เรียนรู้อีกแล้ว ขีดจำกัดของมนุษย์มันมีได้แค่นี้ แต่ความรู้ที่เขาได้มามันก็ยังไม่พอดร.เฟาสต์จึงเลือกที่จะขายวิญญาณของตนให้กับซาตาน เพื่อแลกกับความรู้ อำนาจและความสุขบนโลกนี้ ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและตอนจบในแต่ละตำนานอาจจะต่างกันไปตามคนเขียน แต่พ้อยหลักคือประมาณนี้แหละ
ซึ่งชีวิตหลังทำสัญญาของดร.เฟาสต์คือ เขาได้ใช้ชีวิตและพลังไปทั่ว ทั้งสร้างปฏิหารย์และคืนชีพคนตาย ถึงจะเหมือนมีความสุขกับพลัง แต่ในขณะเดียวกันดร.เฟาสต์กลับรู้สึกว่างเปล่าและเสียใจกับพลังนี้มี เพราะมันไม่ได้ทำให้ดร.เฟาสต์มีความสุขหรือเข้าใจโลกทั้งใจอย่างแท้จริง
จุดนี้ทำให้เรามองว่ามันคล้ายกับดร.เฟาสต์ใน ยูกิโอ
การทดลองกับเด็กทั้ง 6 คนที่ถูกลักพาตัวมาก็เหมือนกับดร.เฟาสต์ที่ขายวิญญาณให้กับซาตาน ส่วนพาร์ทชีวิตช่วงที่ได้รับพลังจากซาตานมาแล้ว แต่ดันรู้สึกถึงแต่ความว่างเปล่า พาร์ทนี้ในยูกิโอก็เหมือนกับเหล่าฮานอยที่แน่นอนว่ารู้สึกเสียใจกับการทดลองนี้มากเหมือนกัน และต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่เคยทำร้ายเด็กๆ จนถึงปัจจุบัน
หากมองในแง่ของปรัชญา เรื่องดร.เฟาสต์นั้นเปรียบเสมือนความทะเยอทะยานของมนุษย์ที่อยากจะเทียบเท่าพระเจ้า
ซึ่งมันรีเลทกับเวรนส์ตรงที่ ดร.โคกามิในเรื่องพยายามสร้างเอไอที่มีชีวิตขึ้นมาเพื่ออยู่บนโลแทนมนุษย์ที่ยังคงต้องผูกติดดับกายเนื้ออยู่ มันก็เหมือนกันตรงที่พยายามจะก้าวข้ามจุด
สูงสุดของโลกเหมือนกัน เพราะดร.โคกามิมองว่าหากคนยังต้องผูกติดกับกายเนื้ออยู่ สักวันในโลกอนาคตคนก็จะต้องสูญสลายไปหมดก่อน แต่หากมีเอไอคอยสืบทอดต่อ เอไอของเขานี่แหละที่จะก้าวข้ามจุดนั้นไปแทนได้
-พอดีตอนแรกลงแต่ในทวิต เลยคิดว่าเอามาลงในนี้ด้วยสักหน่อยละกัน เผื่อจะมีคนมาแลปเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพิ่มหน่อย