ต้องเกริ่นก่อนว่ามีงานแต่งของเพื่อนที่ทำงานแฟนจัดที่ ตจว ห่างจาก กทม เกือบ 500 โล โดยผมอาสาจะพาแฟนไป มีคุยถึงแพลนพักกินแวะเที่ยวระหว่างทางล่วงกันราว 6 เดือน จนกระทั่งเหลืออีก 1 อาทิตย์ก่อนถึงวันงาน มีพี่ที่ทำงานแฟนมาบอกแฟนจะขอไป-กลับด้วย แฟนก็มาถามผม ซึ่งผมไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำแล้วก็รู้สึกอึดอัดจึงพยายามพูดเลี่ยงไปว่าเรามีแพลนต้องแวะหลายที่นะ แฟนก็ไปบอกพี่คนนั้น เขาตอบกลับมาว่าแวะได้เลยพี่นอนอย่างเดียว ผมก็อึ้งแต่ท่าทีแฟนเหมือนอยากให้เขาไปด้วย เหตุการตอนนั้นมันรู้สึกกดดันให้ผมต้องตอบก็ได้ไป ผ่านมา 2 วัน แฟนบอกพี่ให้ไปรับที่บ้านและกำหนดเวลามารับ ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากยิ่งขึ้นแล้วบอกให้แฟนไปปฏิเสธ แต่แฟนบอกกลับมาว่าทำไม่ได้บอกเขาไปแล้ว เขาจองโรงแรมแล้วและแฟนไม่กล้าไปปฏิเสธเพราะกลัวจะโดนมองไม่ดี แล้วพูดทำนองโทษผมไม่บอกแต่แรก ซึ่งอันนี้เข้าใจว่าผมผิด แฟนบอกต่อว่าถ้าอึดอัดก็มีทางเดียว แล้วแฟนก็ไปบอกพี่ที่ทำงานว่าผมติดงานไปไม่ได้ จบด้วยการไม่ต้องไปกันทั้งหมด แฟนพูดเหมือนผมผิดดูไร้น้ำใจ บอกว่าเป็นการคีปทั้ง 2 ฝ่ายของคนกลาง ผมได้แต่คิดว่าลำดับความสำคัญผิดรึป่าวคีปใครในเมื่อไม่ได้ไปกันหมดแล้วผมก็ไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ แถมเพิ่งมาบอกว่าเป็นพี่ ผช ผมยิ่งรู้สึกไม่โอเค ผมมีคำถามในหัวมากมาย ทำไมปฏิเสธไม่ได้ อยากเป็นคนดีขนาดนั้นเลย รู้สึกถึงความไม่เกรงใจจของเขา ซึ่งที่เขาจะไปกับเราเพราะคนที่เขาจะไปด้วยตอนแรกยกเลิกไม่ไป ทำไมเขาจะแก้ปัญหาอีกไม่ได้ ถ้าไม่มีความสามารถไม่ต้องไปไม่ได้หรอ แล้วระยะทางไปกลับเกือบพันโลผมต้องรู้สึกยังไงกับคนที่ไม่รู้จักตลอดทาง ขอสอบถามหากทุกท่านเจอเคสแบบนี้จัดการเรื่องนี้ยังไงครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ปัญหาคนอื่นกลายมาเป็นปัญหาของตัวเอง เมื่อคนที่ทำงานแฟนจะขอติดรถไปงานแต่ง ตจว. ด้วย