สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญหน้ากับยอดหนี้สาธารณะที่สูงลิ่วทะลุ 38 ล้านล้านดอลลาร์! นี่คือระเบิดเวลาทางการเงินที่อาจสั่นคลอนเสถียรภาพของเงินดอลลาร์ (USD) ในฐานะสกุลเงินหลักของโลกได้
นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า สหรัฐฯ อาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง "กอด" เทคโนโลยี Cryptocurrency โดยใช้ Stablecoin (เหรียญที่มีมูลค่าคงที่และอ้างอิงกับดอลลาร์) เป็นเครื่องมือหลักในการจัดการวิกฤตหนี้ครั้งนี้
Stablecoin ทำงานอย่างไรในการ "ใช้หนี้"?
แนวคิดที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางมีดังนี้
1. ยกระดับ Stablecoin
รัฐบาลสหรัฐฯ จะออกกฎหมายและมาตรการที่ สนับสนุน Stablecoin ให้เป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ในฐานะสกุลเงินดิจิทัลมาตรฐานสำหรับการค้าข้ามพรมแดน
2. เพิ่มความต้องการถือครองดอลลาร์
Stablecoin ส่วนใหญ่จะต้องมี เงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือพันธบัตรสหรัฐฯ ค้ำประกันแบบ 1:1 การที่คนทั่วโลกหันมาใช้ Stablecoin มากขึ้น ก็หมายความว่า ความต้องการถือครองสินทรัพย์ดอลลาร์ (พันธบัตร) เพื่อใช้เป็นเงินสำรองก็จะพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
3. ภาระหนี้ถูกดูดซับ
3.1) รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถอกพันธบัตรเพิ่มขึ้น เพื่อให้บริษัทผู้ออก Stablecoin มาซื้อไปค้ำประกัน
3.2) เท่ากับว่า ภาระหนี้ (พันธบัตร) จำนวนหนึ่งจะถูก "ขาย" และ "กระจาย" ออกไปให้กับผู้ถือ Stablecoin ทั่วโลกที่ต้องการเหรียญที่มีความมั่นคง
3.3) นี่คือการ "เปลี่ยนรูปหนี้" ให้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันที่ตลาดโลกต้องการ ทำให้หนี้ก้อนโตถูก "ย่อย" และ "ดูดซับ" เข้าสู่ระบบนิเวศของเงินดอลลาร์ดิจิทัล โดยที่สถานะของดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่ง
สรุปแผนนี้ไม่ได้หมายถึงการใช้ Stablecoin จ่ายหนี้โดยตรงทันที แต่เป็นการใช้กลไกของ Stablecoin เพื่อ สร้างความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (ซึ่งเป็นหนี้) จากตลาดโลกอย่างมหาศาล เพื่อรักษามูลค่าดอลลาร์ และจัดการกับภาระหนี้ได้อย่างแยบยล
แผนลับ "Stablecoin" กู้ชาติ!! สหรัฐฯ จะใช้หนี้ 38 ล้านล้านดอลลาร์ด้วย Stablecoin
สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญหน้ากับยอดหนี้สาธารณะที่สูงลิ่วทะลุ 38 ล้านล้านดอลลาร์! นี่คือระเบิดเวลาทางการเงินที่อาจสั่นคลอนเสถียรภาพของเงินดอลลาร์ (USD) ในฐานะสกุลเงินหลักของโลกได้
นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า สหรัฐฯ อาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง "กอด" เทคโนโลยี Cryptocurrency โดยใช้ Stablecoin (เหรียญที่มีมูลค่าคงที่และอ้างอิงกับดอลลาร์) เป็นเครื่องมือหลักในการจัดการวิกฤตหนี้ครั้งนี้
Stablecoin ทำงานอย่างไรในการ "ใช้หนี้"?
แนวคิดที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางมีดังนี้
1. ยกระดับ Stablecoin
รัฐบาลสหรัฐฯ จะออกกฎหมายและมาตรการที่ สนับสนุน Stablecoin ให้เป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ในฐานะสกุลเงินดิจิทัลมาตรฐานสำหรับการค้าข้ามพรมแดน
2. เพิ่มความต้องการถือครองดอลลาร์
Stablecoin ส่วนใหญ่จะต้องมี เงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือพันธบัตรสหรัฐฯ ค้ำประกันแบบ 1:1 การที่คนทั่วโลกหันมาใช้ Stablecoin มากขึ้น ก็หมายความว่า ความต้องการถือครองสินทรัพย์ดอลลาร์ (พันธบัตร) เพื่อใช้เป็นเงินสำรองก็จะพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
3. ภาระหนี้ถูกดูดซับ
3.1) รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถอกพันธบัตรเพิ่มขึ้น เพื่อให้บริษัทผู้ออก Stablecoin มาซื้อไปค้ำประกัน
3.2) เท่ากับว่า ภาระหนี้ (พันธบัตร) จำนวนหนึ่งจะถูก "ขาย" และ "กระจาย" ออกไปให้กับผู้ถือ Stablecoin ทั่วโลกที่ต้องการเหรียญที่มีความมั่นคง
3.3) นี่คือการ "เปลี่ยนรูปหนี้" ให้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันที่ตลาดโลกต้องการ ทำให้หนี้ก้อนโตถูก "ย่อย" และ "ดูดซับ" เข้าสู่ระบบนิเวศของเงินดอลลาร์ดิจิทัล โดยที่สถานะของดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่ง
สรุปแผนนี้ไม่ได้หมายถึงการใช้ Stablecoin จ่ายหนี้โดยตรงทันที แต่เป็นการใช้กลไกของ Stablecoin เพื่อ สร้างความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (ซึ่งเป็นหนี้) จากตลาดโลกอย่างมหาศาล เพื่อรักษามูลค่าดอลลาร์ และจัดการกับภาระหนี้ได้อย่างแยบยล