ลำบากผู้บริโภคอีกแล้วซิ
ตลาดประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า EV ประสบภาวะขาดทุนสะสมอย่างหนัก ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 50% ส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อรับมือการขาดทุนและป้องกันไม่ให้เกิด “สึนามิ” ในอุตสาหกรรมนี้
ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตขาดทุนอย่างรุนแรง โดยอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) ในภาคอุตสาหกรรมพุ่งสูงถึง 120% ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวปรับเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นอีก 10% เพื่อรักษาสมดุลธุรกิจ ขณะที่ต้นทุนการซ่อมแซมรถยนต์ EV สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากราคาอะไหล่ที่แพงมาก โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70-80% ของมูลค่ารถยนต์
ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ปัญหาค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูงเกินไปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ธุรกิจประกันภัย EV ขาดทุน ส่วนหนึ่งมาจากการออกแบบของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมักมีชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยนทั้งชิ้นแทนที่จะซ่อมแซม ส่งผลให้ราคาซ่อมแพงกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 50% นอกจากนี้ ความแข่งขันในราคาประกันภัยยังส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถกำหนดเบี้ยประกันที่เหมาะสมได้
หลายบริษัทเริ่มรับมือด้วยการปรับปรุงกลยุทธ์ แต่ยังมีบางรายที่ไม่ยอมถอย และยังคงแข่งขันราคากันอย่างดุเดือด ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว ดร.สมพรได้เรียกประชุมสมาชิกสมาคมฯ เพื่อเตือนภัยถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และเสนอแนวทางแก้ไขเช่น การแยกกรมธรรม์ระหว่างตัวรถและแบตเตอรี่เพื่อลดความเสี่ยง
สำหรับภาพรวมของธุรกิจประกันภัยในปี 2568 แม้ว่าผลการเติบโตจะชะลอตัวลง แต่ทิพยประกันภัยยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและปรับกลยุทธ์เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยยังคงรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่
ประกันภัย EV สะเทือน! ขาดทุนหนัก ความเสียหาย 120% จ่อปรับเบี้ยเพิ่ม 10%