วันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท OpenAI ผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ AI ได้ลงนามในข้อตกลงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเพื่อเช่าระบบคลาวด์ (Cloud) จาก Amazon Web Services (AWS) เป็นมูลค่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.2 ล้านล้านบาท
ข้อตกลงนี้ทำให้อเมซอน (Amazon) ได้รับผลตอบรับในทันที โดยหุ้นของบริษัทปิดตัวสูงขึ้น 4% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของบริษัท OpenAI ที่จะลดการพึ่งพาบริษัท Microsoft ซึ่งเคยเป็นผู้ให้บริการคลาวด์แต่เพียงผู้เดียวจนกระทั่งต้นปีนี้ การเป็นหุ้นส่วนครั้งนี้จะทำให้ OpenAI มีความยืดหยุ่นในการขยายขนาดโครงสร้างพื้นฐานตลอดปี 2026 และปีต่อ ๆ ไป
ภายใต้ข้อตกลงที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ บริษัท OpenAI จะเริ่มดำเนินการเวิร์กโหลดบนโครงสร้างพื้นฐานของ AWS ทันที โดยจะใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ของบริษัท Nvidia จำนวนหลายแสนชุด ในสหรัฐอเมริกา และมีแผนจะขยายขีดความสามารถในอีกหลายปีข้างหน้า
ทางด้านของเดฟ บราวน์ (Dave Brown) รองประธานฝ่ายบริการคอมพิวเตอร์และแมชชีนเลิร์นนิงของ AWS กล่าวว่า ความสามารถเหล่านี้เป็นส่วนที่แยกออกมาโดยสมบูรณ์ซึ่ง AWS ได้จัดเตรียมไว้แล้ว โดยทางบริษัท OpenAI ได้เริ่มใช้งานบางส่วนไปแล้ว ข้อตกลงในระยะแรกจะใช้ศูนย์ข้อมูล AWS ที่มีอยู่ และในที่สุด Amazon จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมสำหรับ OpenAI โดยเฉพาะเพิ่มเติมภายหลัง
โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะรองรับทั้งการประมวลผลแบบ Inference เช่น การขับเคลื่อนการตอบสนองแบบเรียลไทม์ของ ChatGPT และการ Training หรือการฝึกโมเดลขั้นสูง ข้อตกลงปัจจุบันนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะใช้ชิป Nvidia รุ่น Blackwell และ OpenAI สามารถขยายการใช้งานกับ AWS ได้ตามความจำเป็นในช่วง 7 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า "การปรับขนาดบริการ AI ต้องการการคำนวณที่มหาศาลและเชื่อถือได้" เขากล่าวเสริมว่า "การเป็นหุ้นส่วนกับ AWS ช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศการคำนวณที่กว้างขึ้น ซึ่งจะขับเคลื่อนยุคถัดไปและนำ AI ขั้นสูงมาสู่ทุกคน"
OpenAI ผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ AI ได้ลงนามในข้อตกลงครั้งใหญ่ที่สุดกับAmazon Web Services (AWS) เป็นมูลค่า 3.8 หมื่นล้าน
ข้อตกลงนี้ทำให้อเมซอน (Amazon) ได้รับผลตอบรับในทันที โดยหุ้นของบริษัทปิดตัวสูงขึ้น 4% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของบริษัท OpenAI ที่จะลดการพึ่งพาบริษัท Microsoft ซึ่งเคยเป็นผู้ให้บริการคลาวด์แต่เพียงผู้เดียวจนกระทั่งต้นปีนี้ การเป็นหุ้นส่วนครั้งนี้จะทำให้ OpenAI มีความยืดหยุ่นในการขยายขนาดโครงสร้างพื้นฐานตลอดปี 2026 และปีต่อ ๆ ไป
ภายใต้ข้อตกลงที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ บริษัท OpenAI จะเริ่มดำเนินการเวิร์กโหลดบนโครงสร้างพื้นฐานของ AWS ทันที โดยจะใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ของบริษัท Nvidia จำนวนหลายแสนชุด ในสหรัฐอเมริกา และมีแผนจะขยายขีดความสามารถในอีกหลายปีข้างหน้า
ทางด้านของเดฟ บราวน์ (Dave Brown) รองประธานฝ่ายบริการคอมพิวเตอร์และแมชชีนเลิร์นนิงของ AWS กล่าวว่า ความสามารถเหล่านี้เป็นส่วนที่แยกออกมาโดยสมบูรณ์ซึ่ง AWS ได้จัดเตรียมไว้แล้ว โดยทางบริษัท OpenAI ได้เริ่มใช้งานบางส่วนไปแล้ว ข้อตกลงในระยะแรกจะใช้ศูนย์ข้อมูล AWS ที่มีอยู่ และในที่สุด Amazon จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมสำหรับ OpenAI โดยเฉพาะเพิ่มเติมภายหลัง
โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะรองรับทั้งการประมวลผลแบบ Inference เช่น การขับเคลื่อนการตอบสนองแบบเรียลไทม์ของ ChatGPT และการ Training หรือการฝึกโมเดลขั้นสูง ข้อตกลงปัจจุบันนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะใช้ชิป Nvidia รุ่น Blackwell และ OpenAI สามารถขยายการใช้งานกับ AWS ได้ตามความจำเป็นในช่วง 7 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า "การปรับขนาดบริการ AI ต้องการการคำนวณที่มหาศาลและเชื่อถือได้" เขากล่าวเสริมว่า "การเป็นหุ้นส่วนกับ AWS ช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศการคำนวณที่กว้างขึ้น ซึ่งจะขับเคลื่อนยุคถัดไปและนำ AI ขั้นสูงมาสู่ทุกคน"