เวลาคิดถึงนางเอกทั้ง 2 คนก็จะวกกลับมาดูซ้ำนานๆที เห็นแฟนๆ Netflix และแฟนๆเกาหลีในโซเชียลมีบ่นกันว่าทำไมเปลี่ยนนางเอก? แล้วก็ไม่น่าเปลี่ยนบุคลิกนางเอกเลย อะไรแบบนี้ ก็เลยจะมาสปอยล์ทวนประเด็นสำคัญๆ
ประเด็นแรก: ตัวนางเอก
บางคนเข้าใจว่า นางเอกถูกเปลี่ยนไม่อยู่ในแผนการสร้าง อันนี้ต้องบอกว่าไม่ใช่แบบนั้น เพราะผู้สร้างประกาศตั้งแต่แรกว่ามี 30 ep แบ่งเป็น 2 SS
โดยนางเอกเรื่องนี้คือ “นักซู” ก็คือ “โก ยุนจอง” ถูกวางมาตั้งแต่แรก แล้วก็เอา “จอง โซมิน” มาเป็นนางเอก SS 1 เพื่อสร้างสีสัน เหมือนอยากให้มีหลายอารมณ์ หลายสไตล์ แต่เขาไม่สปอยล์ในช่วงปล่อย SS 1 ว่าเก็บซ่อนโก ยุนจองไว้เป็นนางเอกปิดท้าย
SS 1 โก ยุนจอง เป็นนักซู (โจ ยอน) ไม่มีบท เอาความน่ารักของ จอง โซมิน มาเป็นนางเอก SS นี้ คือมูด็อก (จิน บูยอน) ที่ให้นักซูแปรวิญญาณเข้ามาในร่างตน จนเกือบจะเผลอคิดว่า บูยอนก็กะแอบควบจาง อุคเหมือนกัน ก็จิตตัวเองยังอยู่ในร่างน่ะนะ มีเคลิ้มมั่งแหละ ^^ แต่ SS 2 เฉลยว่าจิน บูยอน ก็คือจิน ซอลรัน มีคนรักอยู่แล้ว และเป็นคนที่ควบคุมแก้ไขเหตุการณ์ทุกอย่างทั้งเรื่อง (แต่มันคนละชาติกันนี่หว่า นางต้องแอบเพ้อกับจาง อุคมั่งแหละ ^^)
• การถ่ายทำ SS 2 เริ่มต้นเดือน ก.ค. 2022 เสร็จสิ้นวันที่ 6 ต.ค. 2022
• SS 1 ยังออกอากาศอยู่จนถึงปลายเดือน ส.ค. 2022
ข้อสังเกต
• การที่ Part 2 เริ่มถ่ายทำในช่วงกลางของการออกอากาศ SS 1 และเสร็จสิ้นการถ่ายทำก่อนที่ SS 2 จะออกอากาศเพียง 2 เดือน แสดงให้เห็นว่า การแบ่งเป็น 2 ภาคนี้เป็นแผนการสร้างหลักแต่แรก
• ช่วงเวลาที่หยุดพักฉายระหว่าง SS 1 (จบ 28 ส.ค. 2022) และ SS 2 (เริ่ม 10 ธ.ค. 2022) คือประมาณ 3 เดือน ถือว่าสั้นมากสำหรับการผลิตซีรีส์ฟอร์มยักษ์ แสดงว่าพวกเขาใช้เวลานี้ในการปรับปรุงงานโพสต์-โปรดักชั่น, ตัดต่อ, และทำเทคนิคพิเศษ (VFX) ของ SS 2 ให้สมบูรณ์
- เสน่ห์ SS 1 ออกแนวความรักระหว่าง
เจ้านาย-สาวรับใชั (ฟีลแบบ 1) แล้วก็
ลูกศิษย์-อาจารย์ (ฟีลแบบ 2) พอมา SS 2 เป็นแบบ
คุณชาย-คุณหนู (ฟีลแบบ 3) เรียกว่าคนสร้างบทโลภครับ จับยัดทั้งหมดลงไปในเรื่องเดียว ก็น่ารักดีถ้าเราเปิดรับทั้งหมด แต่ SS 2 มันคือสรุปบทจบแค่ 10 ตอนไม่มีอะไรลึกซึ้ง ปรัชญาและความรักซึ้งๆจะอยู่ใน SS 1 มากกว่า โดยเฉพาะบทกลอนรักของอาจารย์ซอ กยองถึงคนรัก ส่วนปรัชญาคำพูดคมๆก็เช่น “ความเจ็บปวดที่ทำให้เจ้าตายไม่ได้ จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น” แต่ใน SS 2 จะไม่มีบรรยากาศนี้
- แฟนๆไม่พอใจในสไตล์ใหม่ของจิน บูยอน (นักซูในร่าง) ที่เปลี่ยนบุคลิกจากฉลาด เข้ม ตลกติงต๊อง กลายเป็นแนวลูกคุณหนู แบ๊ว แต่จริงๆแล้ว บุคลิกจิน บูยอนแบบนี้ไม่ได้ไกลตัวตนเดิม
ใน SS 1 จิตของจิน บูยอนในร่าง นิ่งสุขุมเป็นนักบวช ส่วนนักซูในร่างมูด็อก ต้องแกล้งทำตัวโง่ ตลก ห้าวเสียงดัง พูดสำเนียงบ้านนอกไม่ใช่สำเนียงเมืองหลวง (แต่ต่อหน้าจาง อุค จะพูดนิ่งสำเนียงเมืองหลวง) ความแบ๊วก็เป็นนิสัยนึงของนักซูเหมือนกัน ข้อนี้ผู้สร้างไม่ได้พลาด เพียงแต่นักแสดงคนละคน จะลอกให้เหมือนกันก็ไม่ได้ <ตอนเจอกับจาง อุคครั้งแรก อุคชมว่าตาสวย ก็มีเขินเหมือนกัน ถึงนักซูจะเป็นนักฆ่าแต่ก็เป็นผู้หญิง แล้วก็มีหลงตัวเองหลายครั้ง ก็เหมือนกับ SS 2>
และใน SS 2 นักซูความจำเสื่อม ไม่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นนักฆ่า ก็จะเหลือแต่ความฉลาด ตลกติงต๊อง และแบ๊ว แต่ไม่แกล้งทำตัวเป็นบ้านนอกแล้วสิ ภาพจำตรงนี้ที่แฟนๆชอบก็จะหายไป
- พล็อตของเรื่องคือ อาณาจักรแดโฮ (โลกสมมุติ) อาจารย์ซอ กยอง ผู้เกิดมากับดาวกษัตริย์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่จอมเวทย์รุ่นหลังทั้งปวงเคารพ เขาเลือกที่จะไม่ใฝ่หาอำนาจและเป็นคนกอบกู้โลกขจัดโกลาหล 200 ปีก่อน มีคนรักเป็นนักบวชหญิงตาบอด (จิน ซอลรัน) เช่นเดียวกัน จาง อุค ผู้เกิดมากับดาวกษัตริย์ ก็จะต้องจบซ้ำรอยประวัติศาสตร์คือ จะไม่ใฝ่หาอำนาจขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่จะเป็นผู้กอบกู้โลกสยบโกลาหลแทน
- มีการปรับเปลี่ยนแก้ไข SS 2 จนน่าจะทำให้บทเสียและเกิด Plot hole มั้ย? อย่างที่แฟนๆวิจารณ์ ข้อนี้อาจเป็นไปได้ เพราะ SS 2 เริ่มสร้างตั้งแต่ยังไม่ปล่อย SS 1 จริง แต่ระหว่างออกอากาศก็ยังสร้าง SS 2 ไม่เสร็จ ระหว่างนี้มีกระแสแฟนๆตอบรับมาก มีการเรียกร้องไปหลากหลายอยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ นั่นหมายความว่าทั้ง 2 SS ไม่ได้สร้างต่อเนื่องจบแล้วค่อยปล่อย แต่มีการทิ้งช่วงเลยอาจทำให้เกิด Plot hole เนื้อหาย้อนแย้ง ลืมเนื้อลืมบทเก่า
สิ่งที่คนดูหลายคนผิดหวังคือบท จาก อุค เจ็บปวดที่ถูกนักซูฆ่า ทั้งรักทั้งแค้น บทนี้เป็นข้อผิดพลาดที่ไม่น่ามี เพราะถึงแม้ต่อให้ผู้คนเข้าใจผิดนักซู แต่ซงริมต้องรู้ หรือไม่อย่างน้อบเฉพาะตัว
จาง อุคเอง ควรจะเป็นคนเดียวที่รู้ เพราะอะไร? ...เหมือนเป็นบทที่ขยายให้ SS 2 มีรสชาติ
แต่ดันไปย้อนแย้งกับ SS 1
ประเด็นสอง: Plot hole
ปกติทุกหนังละครซีรีส์มันก็ย่อมมีจุดอ่อนหรือข้อผิดพลาดอยู่แล้ว แต่คนไม่ค่อยถือสาถ้าเป็นซีรีส์เกรดแบบไม่ค่อยดี ความคาดหวังจะน้อย แต่พอเป็นงานคุณภาพ ความคาดหวังและการจับจ้องมันก็จะเยอะตาม แม้แต่ระดับโลกอย่าง Game of Thrones ยังมีข้อผิดพลาด หรือ Breaking Bad นี่ก็จุดอ่อนเต็มไปหมด ฉะนั้นระดับเอเชียยิ่งไม่ต้องพูดถึง ซีรีส์อย่าง Alchemy of Souls ที่ CGI ดีระดับต้นๆของเอเชีย (ปกติของเอเชียยุค 2020s นี่ก็ไม่แตกต่างกับหนังจักรๆวงศ์ๆยุค 80s) บทต่างๆก็พยามเก็บละเอียดไม่ให้มีช่องโหว่ อย่างการสลับร่างก็พยามปิดช่องว่า ใครแปรวิญญาณเพราะอะไร แปรแล้วไปไหน หรือคุณสมบัติของการแปรแต่ละตัว เช่น ทำไมนักซูแปรแล้วไม่ต้องกินพลังมนุษย์? ก็เพราะอยู่ในร่างนักบวชพลังสูงที่จิตยังคุมอยู่ในร่าง (ไม่ได้สลับ) ทำไมอาจารย์อีไม่เหมือนผู้แปรคนอื่น? ก็เพราะอาจารย์อีแปรจากวิชาถอดวิญญาณชั่วคราว ไม่ใช่จากผงขับวิญญาณ ทำไมแม่หมอชเวแปรกับมเหสี แล้วไม่ฆ่ามเหสีในร่างแม่หมอทิ้ง? ก็เพราะมเหสีเป็นคนตระกูลซอ ซึ่งมีโคมไฟชีวิต ถ้าตายโคมไฟดับจะรู้ทันที (และเรื่องโคมไฟก็โยงมาใช้ต่อใน SS 2)
ทั้งผู้เขียนบทและผู้ผลิตก็คนเหมือนเรา พยามรอบคอบแต่ก็ยังคิดพลาดได้ พอความคาดหวังว่าควรจะออกมาดี มันก็ทำให้จับเจอจุดที่เป็นช่องโหว่ย้อนแย้ง
จุดที่ 1:
- SS 2
จิน บูยอน ร่างใหม่มาในหน้าตาของนักซู แต่ซงริมผู้ปราบนักซู เคยปะทะไล่ล่าสู้กันมานานแต่กลับไม่มีใครคุ้นหน้าเลย!? มีแค่จิน มู ของชอนบุกวอน ที่รู้สึกว่าทำไมบูยอนหน้าตาคล้ายนักซู <คนดูลองกล่อมตัวเองว่า หรือเพราะเปลี่ยนชุดเปลี่ยนบุคลิกเลยจำกันไม่ได้? แต่ไม่ใช่เลย น่าจะเป็นเพราะผู้สร้างนึกถึงแต่จิน มู ที่เลี้ยงดูนักซูมา แต่ลืมนึกไปว่าคนอื่นก็รู้จักหน้าตาเป็นอย่างดี เพราะอย่าลืมว่าในเรื่องนี้มีฉากที่แต่ละคนจำหน้าคนอื่นได้เพียงแค่เดินผ่าน>
จุดที่ 2:
- SS 1 โซอี (จิน บูยอน ตัวปลอม) กลัวว่ามูด็อกจะจำหน้าตัวเองได้ !! จะจำได้ยังไงในเมื่อมูด็อกที่ตัวเองรู้จักนั้น ตาบอด!?? ย้ำว่าไม่ใช่กลัวว่าจำเสียงหรือมองพลังได้ แต่กลัวว่านางจะจำหน้าได้ <โซอีไม่รู้ว่ามูด็อกเป็นนักบวชที่มองพลังเห็น มูด็อกปิดบังตัวตนมาตลอด และการมองพลังเห็นก็ไม่ว่าจะทำให้รู้ว่าใครเป็นใคร รู้แค่ว่าเป็นพลังแบบไหน> ฉะนั้นสิ่งที่ควรจะเป็นคือ โซอี ที่ได้เห็นการแปรวิญญาณที่ชอนบุกวัน ก็ต้องคิดออกว่าในร่างมูด็อกไม่ใช่มูด็อกคนเดิม (แต่ในเรื่องโซอีรู้เมื่อเข้าจิน โยวอนแค่ว่า มูด็อกคือบูยอนตัวจริง แต่พึ่งรู้พร้อมทุกคนว่าเป็นผู้แปรวิญญาณ)
จุดที่ 3:
- ใน SS 1 ep.19 ซงริมและเหล่าจอมเวทย์โดยทั่วไปรู้กันหมดว่าจิน มู อยู่เบื้องหลังการหลอกใช้โจ ชุง (พ่อนักซู) ที่คุมตัวเองไม่ได้ เพราะโจ ชุง รู้ความลับดาวกษัตริย์ของจาง อุค เลยต้องฆ่าปิดปาก ถึงแม้จะไม่รู้วิธีการควบคุมและหลอกใช้
แต่ซงริมสรุปออกมาแล้วว่า พวกเขาฆ่าโจ ชุงด้วยความเข้าใจผิด แต่มาพอ SS 2 เนื้อหานี้กลับถูกลืม จนไม่มีใครนึกถึงแม้กระทั่งจาง อุค ว่านักซูที่ถูกจิน มูหลอกใช้ ก็ต้องถูกควบคุมด้วยวิธีเดียวกัน เนื้อหานี้ถูกลืมและทุกคนทำเหมือนพึ่งเข้าใจเมื่อใกล้จบ SS 2 แล้ว
บทที่ดีกว่า (แต่งใหม่สมมุติ) จาง อุค แกล้งแสดงท่าทีต่อราชสำนักและชอนบุกวอนว่า เคียดแค้นนักซู ทำงานรับใช้เพื่อตามล่าผู้แปรวิญญาณ แต่จริงๆแล้วตามหานักซูเพราะเชื่อว่ายังไม่ตาย (เพราะฉากจบ SS 1 ไม่มีใครฆ่านักซู) โดยไม่รู้ว่านักซูที่ตามหาก็อยู่ในร่างบูยอนน่ะแหละ แบบนี้จะโรแมนติกว่า <แต่ในเรื่องไม่ใช่แบบนี้นะ ผู้สร้างอยากให้กระชากอารมณ์หน่อยแบบว่า รักฝังแค้น อยากรู้คำตอบว่าตอนที่นักซูแทงดาบนั้นคิดอะไรอยู่ แต่กลายเป็นว่าเละ! โดนแฟนๆด่า>
จุดที่ 4:
- จิน บูยอนวัยเด็ก ฉลาด มีพลังสูงส่ง ไม่มีทางเลยที่จะกลับบ้านไม่ได้ แค่กลับไปเมืองหลวงก็เดินกลับบ้านถูกแล้ว หรือแค่บอกคนว่าเป็นลูกตระกูลจิน มาจากจิน โยวอน คนก็เคารพทั้งเมือง แต่ตอนรอดชีวิตจากที่จมน้ำ คุณยายของมูด็อกถามชื่อแล้วไม่ตอบ ในเรื่องไม่ได้เฉลยแต่เป็นการทิ้งให้คิดว่า ความจำเสื่อม หรือไม่กลับเพราะมีเหตุผล แต่ถ้าบอกว่ากลัวตัวเองหรือครอบครัวจะอันตรายไม่มีทางเลย เพราะสำนักจิน โยวอนมีอิทธิพลมาก เรียกว่าใหญ่กว่าราชสำนักอีก บ้านเมืองไม่ได้โกลาหล ไม่มีใครทำอันตรายเธอได้เลย ในอดีตจิน มูยิ่งไม่มีอิทธิพลอำนาจอะไรเลย <ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากทิ้งว่างจุดนี้ไว้เพราะคิดมุกไม่ออก ยิ่งแล้วมาใส่บทให้โซอีพูดกับแม่เธอว่า ผ้าปิดหน้านี้เธอบอกว่าเป็นเบาะแสเดียวที่จะกลับบ้านได้ นั่นก็ยิ่งสื่อว่าเธอไม่ได้ความจำเสื่อม แต่กลับบ้านไม่ถูก!!> หรือตอนโตที่มาเมืองหลวงแล้ว ก็จะกลับบ้านเลยก็ได้ ตัวเองรู้ชะตาฟ้าดินขนาดเป็นคนเลือกนักซูมาอยู่ร่างตัวเอง แต่ก่อนหน้านี้ทำไมไม่กลับบ้าน?!
บทที่ดีกว่า (แต่งใหม่สมมุติ) คือจิน มู ที่พลาดผลักจิน บูยอนตกน้ำ ตามหาเจอและพาไปเลี้ยงขังซ่อนตัวไว้ เพื่อปกปิดความผิดตัวเองที่ต้องการครองหินน้ำแข็ง และบูยอนหนีออกมาได้เมื่อโตขึ้น แต่ถูกจับขายเป็นทาสระหว่างทาง ได้เป็นเพื่อนกับโซอีช่วงสั้นๆระหว่างเป็นทาสก่อนจะถูกขายมาที่หอนางโลม (เพราะการเดินทางสมัยก่อนใช้เวลาหลายเดือน)
Alchemy of Souls นางเอกถูกวางแต่แรกไม่ได้เปลี่ยน [Spoil] แต่มาดู Plot hole กัน
ประเด็นแรก: ตัวนางเอก
บางคนเข้าใจว่า นางเอกถูกเปลี่ยนไม่อยู่ในแผนการสร้าง อันนี้ต้องบอกว่าไม่ใช่แบบนั้น เพราะผู้สร้างประกาศตั้งแต่แรกว่ามี 30 ep แบ่งเป็น 2 SS
โดยนางเอกเรื่องนี้คือ “นักซู” ก็คือ “โก ยุนจอง” ถูกวางมาตั้งแต่แรก แล้วก็เอา “จอง โซมิน” มาเป็นนางเอก SS 1 เพื่อสร้างสีสัน เหมือนอยากให้มีหลายอารมณ์ หลายสไตล์ แต่เขาไม่สปอยล์ในช่วงปล่อย SS 1 ว่าเก็บซ่อนโก ยุนจองไว้เป็นนางเอกปิดท้าย
SS 1 โก ยุนจอง เป็นนักซู (โจ ยอน) ไม่มีบท เอาความน่ารักของ จอง โซมิน มาเป็นนางเอก SS นี้ คือมูด็อก (จิน บูยอน) ที่ให้นักซูแปรวิญญาณเข้ามาในร่างตน จนเกือบจะเผลอคิดว่า บูยอนก็กะแอบควบจาง อุคเหมือนกัน ก็จิตตัวเองยังอยู่ในร่างน่ะนะ มีเคลิ้มมั่งแหละ ^^ แต่ SS 2 เฉลยว่าจิน บูยอน ก็คือจิน ซอลรัน มีคนรักอยู่แล้ว และเป็นคนที่ควบคุมแก้ไขเหตุการณ์ทุกอย่างทั้งเรื่อง (แต่มันคนละชาติกันนี่หว่า นางต้องแอบเพ้อกับจาง อุคมั่งแหละ ^^)
• การถ่ายทำ SS 2 เริ่มต้นเดือน ก.ค. 2022 เสร็จสิ้นวันที่ 6 ต.ค. 2022
• SS 1 ยังออกอากาศอยู่จนถึงปลายเดือน ส.ค. 2022
ข้อสังเกต
• การที่ Part 2 เริ่มถ่ายทำในช่วงกลางของการออกอากาศ SS 1 และเสร็จสิ้นการถ่ายทำก่อนที่ SS 2 จะออกอากาศเพียง 2 เดือน แสดงให้เห็นว่า การแบ่งเป็น 2 ภาคนี้เป็นแผนการสร้างหลักแต่แรก
• ช่วงเวลาที่หยุดพักฉายระหว่าง SS 1 (จบ 28 ส.ค. 2022) และ SS 2 (เริ่ม 10 ธ.ค. 2022) คือประมาณ 3 เดือน ถือว่าสั้นมากสำหรับการผลิตซีรีส์ฟอร์มยักษ์ แสดงว่าพวกเขาใช้เวลานี้ในการปรับปรุงงานโพสต์-โปรดักชั่น, ตัดต่อ, และทำเทคนิคพิเศษ (VFX) ของ SS 2 ให้สมบูรณ์
- เสน่ห์ SS 1 ออกแนวความรักระหว่าง เจ้านาย-สาวรับใชั (ฟีลแบบ 1) แล้วก็ ลูกศิษย์-อาจารย์ (ฟีลแบบ 2) พอมา SS 2 เป็นแบบ คุณชาย-คุณหนู (ฟีลแบบ 3) เรียกว่าคนสร้างบทโลภครับ จับยัดทั้งหมดลงไปในเรื่องเดียว ก็น่ารักดีถ้าเราเปิดรับทั้งหมด แต่ SS 2 มันคือสรุปบทจบแค่ 10 ตอนไม่มีอะไรลึกซึ้ง ปรัชญาและความรักซึ้งๆจะอยู่ใน SS 1 มากกว่า โดยเฉพาะบทกลอนรักของอาจารย์ซอ กยองถึงคนรัก ส่วนปรัชญาคำพูดคมๆก็เช่น “ความเจ็บปวดที่ทำให้เจ้าตายไม่ได้ จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น” แต่ใน SS 2 จะไม่มีบรรยากาศนี้
- แฟนๆไม่พอใจในสไตล์ใหม่ของจิน บูยอน (นักซูในร่าง) ที่เปลี่ยนบุคลิกจากฉลาด เข้ม ตลกติงต๊อง กลายเป็นแนวลูกคุณหนู แบ๊ว แต่จริงๆแล้ว บุคลิกจิน บูยอนแบบนี้ไม่ได้ไกลตัวตนเดิม ใน SS 1 จิตของจิน บูยอนในร่าง นิ่งสุขุมเป็นนักบวช ส่วนนักซูในร่างมูด็อก ต้องแกล้งทำตัวโง่ ตลก ห้าวเสียงดัง พูดสำเนียงบ้านนอกไม่ใช่สำเนียงเมืองหลวง (แต่ต่อหน้าจาง อุค จะพูดนิ่งสำเนียงเมืองหลวง) ความแบ๊วก็เป็นนิสัยนึงของนักซูเหมือนกัน ข้อนี้ผู้สร้างไม่ได้พลาด เพียงแต่นักแสดงคนละคน จะลอกให้เหมือนกันก็ไม่ได้ <ตอนเจอกับจาง อุคครั้งแรก อุคชมว่าตาสวย ก็มีเขินเหมือนกัน ถึงนักซูจะเป็นนักฆ่าแต่ก็เป็นผู้หญิง แล้วก็มีหลงตัวเองหลายครั้ง ก็เหมือนกับ SS 2> และใน SS 2 นักซูความจำเสื่อม ไม่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นนักฆ่า ก็จะเหลือแต่ความฉลาด ตลกติงต๊อง และแบ๊ว แต่ไม่แกล้งทำตัวเป็นบ้านนอกแล้วสิ ภาพจำตรงนี้ที่แฟนๆชอบก็จะหายไป
- พล็อตของเรื่องคือ อาณาจักรแดโฮ (โลกสมมุติ) อาจารย์ซอ กยอง ผู้เกิดมากับดาวกษัตริย์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่จอมเวทย์รุ่นหลังทั้งปวงเคารพ เขาเลือกที่จะไม่ใฝ่หาอำนาจและเป็นคนกอบกู้โลกขจัดโกลาหล 200 ปีก่อน มีคนรักเป็นนักบวชหญิงตาบอด (จิน ซอลรัน) เช่นเดียวกัน จาง อุค ผู้เกิดมากับดาวกษัตริย์ ก็จะต้องจบซ้ำรอยประวัติศาสตร์คือ จะไม่ใฝ่หาอำนาจขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่จะเป็นผู้กอบกู้โลกสยบโกลาหลแทน
- มีการปรับเปลี่ยนแก้ไข SS 2 จนน่าจะทำให้บทเสียและเกิด Plot hole มั้ย? อย่างที่แฟนๆวิจารณ์ ข้อนี้อาจเป็นไปได้ เพราะ SS 2 เริ่มสร้างตั้งแต่ยังไม่ปล่อย SS 1 จริง แต่ระหว่างออกอากาศก็ยังสร้าง SS 2 ไม่เสร็จ ระหว่างนี้มีกระแสแฟนๆตอบรับมาก มีการเรียกร้องไปหลากหลายอยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ นั่นหมายความว่าทั้ง 2 SS ไม่ได้สร้างต่อเนื่องจบแล้วค่อยปล่อย แต่มีการทิ้งช่วงเลยอาจทำให้เกิด Plot hole เนื้อหาย้อนแย้ง ลืมเนื้อลืมบทเก่า
สิ่งที่คนดูหลายคนผิดหวังคือบท จาก อุค เจ็บปวดที่ถูกนักซูฆ่า ทั้งรักทั้งแค้น บทนี้เป็นข้อผิดพลาดที่ไม่น่ามี เพราะถึงแม้ต่อให้ผู้คนเข้าใจผิดนักซู แต่ซงริมต้องรู้ หรือไม่อย่างน้อบเฉพาะตัวจาง อุคเอง ควรจะเป็นคนเดียวที่รู้ เพราะอะไร? ...เหมือนเป็นบทที่ขยายให้ SS 2 มีรสชาติ แต่ดันไปย้อนแย้งกับ SS 1
ประเด็นสอง: Plot hole
ปกติทุกหนังละครซีรีส์มันก็ย่อมมีจุดอ่อนหรือข้อผิดพลาดอยู่แล้ว แต่คนไม่ค่อยถือสาถ้าเป็นซีรีส์เกรดแบบไม่ค่อยดี ความคาดหวังจะน้อย แต่พอเป็นงานคุณภาพ ความคาดหวังและการจับจ้องมันก็จะเยอะตาม แม้แต่ระดับโลกอย่าง Game of Thrones ยังมีข้อผิดพลาด หรือ Breaking Bad นี่ก็จุดอ่อนเต็มไปหมด ฉะนั้นระดับเอเชียยิ่งไม่ต้องพูดถึง ซีรีส์อย่าง Alchemy of Souls ที่ CGI ดีระดับต้นๆของเอเชีย (ปกติของเอเชียยุค 2020s นี่ก็ไม่แตกต่างกับหนังจักรๆวงศ์ๆยุค 80s) บทต่างๆก็พยามเก็บละเอียดไม่ให้มีช่องโหว่ อย่างการสลับร่างก็พยามปิดช่องว่า ใครแปรวิญญาณเพราะอะไร แปรแล้วไปไหน หรือคุณสมบัติของการแปรแต่ละตัว เช่น ทำไมนักซูแปรแล้วไม่ต้องกินพลังมนุษย์? ก็เพราะอยู่ในร่างนักบวชพลังสูงที่จิตยังคุมอยู่ในร่าง (ไม่ได้สลับ) ทำไมอาจารย์อีไม่เหมือนผู้แปรคนอื่น? ก็เพราะอาจารย์อีแปรจากวิชาถอดวิญญาณชั่วคราว ไม่ใช่จากผงขับวิญญาณ ทำไมแม่หมอชเวแปรกับมเหสี แล้วไม่ฆ่ามเหสีในร่างแม่หมอทิ้ง? ก็เพราะมเหสีเป็นคนตระกูลซอ ซึ่งมีโคมไฟชีวิต ถ้าตายโคมไฟดับจะรู้ทันที (และเรื่องโคมไฟก็โยงมาใช้ต่อใน SS 2)
ทั้งผู้เขียนบทและผู้ผลิตก็คนเหมือนเรา พยามรอบคอบแต่ก็ยังคิดพลาดได้ พอความคาดหวังว่าควรจะออกมาดี มันก็ทำให้จับเจอจุดที่เป็นช่องโหว่ย้อนแย้ง
จุดที่ 1:
- SS 2 จิน บูยอน ร่างใหม่มาในหน้าตาของนักซู แต่ซงริมผู้ปราบนักซู เคยปะทะไล่ล่าสู้กันมานานแต่กลับไม่มีใครคุ้นหน้าเลย!? มีแค่จิน มู ของชอนบุกวอน ที่รู้สึกว่าทำไมบูยอนหน้าตาคล้ายนักซู <คนดูลองกล่อมตัวเองว่า หรือเพราะเปลี่ยนชุดเปลี่ยนบุคลิกเลยจำกันไม่ได้? แต่ไม่ใช่เลย น่าจะเป็นเพราะผู้สร้างนึกถึงแต่จิน มู ที่เลี้ยงดูนักซูมา แต่ลืมนึกไปว่าคนอื่นก็รู้จักหน้าตาเป็นอย่างดี เพราะอย่าลืมว่าในเรื่องนี้มีฉากที่แต่ละคนจำหน้าคนอื่นได้เพียงแค่เดินผ่าน>
จุดที่ 2:
- SS 1 โซอี (จิน บูยอน ตัวปลอม) กลัวว่ามูด็อกจะจำหน้าตัวเองได้ !! จะจำได้ยังไงในเมื่อมูด็อกที่ตัวเองรู้จักนั้น ตาบอด!?? ย้ำว่าไม่ใช่กลัวว่าจำเสียงหรือมองพลังได้ แต่กลัวว่านางจะจำหน้าได้ <โซอีไม่รู้ว่ามูด็อกเป็นนักบวชที่มองพลังเห็น มูด็อกปิดบังตัวตนมาตลอด และการมองพลังเห็นก็ไม่ว่าจะทำให้รู้ว่าใครเป็นใคร รู้แค่ว่าเป็นพลังแบบไหน> ฉะนั้นสิ่งที่ควรจะเป็นคือ โซอี ที่ได้เห็นการแปรวิญญาณที่ชอนบุกวัน ก็ต้องคิดออกว่าในร่างมูด็อกไม่ใช่มูด็อกคนเดิม (แต่ในเรื่องโซอีรู้เมื่อเข้าจิน โยวอนแค่ว่า มูด็อกคือบูยอนตัวจริง แต่พึ่งรู้พร้อมทุกคนว่าเป็นผู้แปรวิญญาณ)
จุดที่ 3:
- ใน SS 1 ep.19 ซงริมและเหล่าจอมเวทย์โดยทั่วไปรู้กันหมดว่าจิน มู อยู่เบื้องหลังการหลอกใช้โจ ชุง (พ่อนักซู) ที่คุมตัวเองไม่ได้ เพราะโจ ชุง รู้ความลับดาวกษัตริย์ของจาง อุค เลยต้องฆ่าปิดปาก ถึงแม้จะไม่รู้วิธีการควบคุมและหลอกใช้ แต่ซงริมสรุปออกมาแล้วว่า พวกเขาฆ่าโจ ชุงด้วยความเข้าใจผิด แต่มาพอ SS 2 เนื้อหานี้กลับถูกลืม จนไม่มีใครนึกถึงแม้กระทั่งจาง อุค ว่านักซูที่ถูกจิน มูหลอกใช้ ก็ต้องถูกควบคุมด้วยวิธีเดียวกัน เนื้อหานี้ถูกลืมและทุกคนทำเหมือนพึ่งเข้าใจเมื่อใกล้จบ SS 2 แล้ว
บทที่ดีกว่า (แต่งใหม่สมมุติ) จาง อุค แกล้งแสดงท่าทีต่อราชสำนักและชอนบุกวอนว่า เคียดแค้นนักซู ทำงานรับใช้เพื่อตามล่าผู้แปรวิญญาณ แต่จริงๆแล้วตามหานักซูเพราะเชื่อว่ายังไม่ตาย (เพราะฉากจบ SS 1 ไม่มีใครฆ่านักซู) โดยไม่รู้ว่านักซูที่ตามหาก็อยู่ในร่างบูยอนน่ะแหละ แบบนี้จะโรแมนติกว่า <แต่ในเรื่องไม่ใช่แบบนี้นะ ผู้สร้างอยากให้กระชากอารมณ์หน่อยแบบว่า รักฝังแค้น อยากรู้คำตอบว่าตอนที่นักซูแทงดาบนั้นคิดอะไรอยู่ แต่กลายเป็นว่าเละ! โดนแฟนๆด่า>
จุดที่ 4:
- จิน บูยอนวัยเด็ก ฉลาด มีพลังสูงส่ง ไม่มีทางเลยที่จะกลับบ้านไม่ได้ แค่กลับไปเมืองหลวงก็เดินกลับบ้านถูกแล้ว หรือแค่บอกคนว่าเป็นลูกตระกูลจิน มาจากจิน โยวอน คนก็เคารพทั้งเมือง แต่ตอนรอดชีวิตจากที่จมน้ำ คุณยายของมูด็อกถามชื่อแล้วไม่ตอบ ในเรื่องไม่ได้เฉลยแต่เป็นการทิ้งให้คิดว่า ความจำเสื่อม หรือไม่กลับเพราะมีเหตุผล แต่ถ้าบอกว่ากลัวตัวเองหรือครอบครัวจะอันตรายไม่มีทางเลย เพราะสำนักจิน โยวอนมีอิทธิพลมาก เรียกว่าใหญ่กว่าราชสำนักอีก บ้านเมืองไม่ได้โกลาหล ไม่มีใครทำอันตรายเธอได้เลย ในอดีตจิน มูยิ่งไม่มีอิทธิพลอำนาจอะไรเลย <ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากทิ้งว่างจุดนี้ไว้เพราะคิดมุกไม่ออก ยิ่งแล้วมาใส่บทให้โซอีพูดกับแม่เธอว่า ผ้าปิดหน้านี้เธอบอกว่าเป็นเบาะแสเดียวที่จะกลับบ้านได้ นั่นก็ยิ่งสื่อว่าเธอไม่ได้ความจำเสื่อม แต่กลับบ้านไม่ถูก!!> หรือตอนโตที่มาเมืองหลวงแล้ว ก็จะกลับบ้านเลยก็ได้ ตัวเองรู้ชะตาฟ้าดินขนาดเป็นคนเลือกนักซูมาอยู่ร่างตัวเอง แต่ก่อนหน้านี้ทำไมไม่กลับบ้าน?!
บทที่ดีกว่า (แต่งใหม่สมมุติ) คือจิน มู ที่พลาดผลักจิน บูยอนตกน้ำ ตามหาเจอและพาไปเลี้ยงขังซ่อนตัวไว้ เพื่อปกปิดความผิดตัวเองที่ต้องการครองหินน้ำแข็ง และบูยอนหนีออกมาได้เมื่อโตขึ้น แต่ถูกจับขายเป็นทาสระหว่างทาง ได้เป็นเพื่อนกับโซอีช่วงสั้นๆระหว่างเป็นทาสก่อนจะถูกขายมาที่หอนางโลม (เพราะการเดินทางสมัยก่อนใช้เวลาหลายเดือน)