[CR] รีวิว ROG Xbox Ally X เครื่องเกมแฮนด์เฮลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด จริงหรือไม่?

นี่คือกระทู้รีวิวกระทู้แรกของผมนะครับ เอาจริงๆ ไม่เชิงรีวิวหรอก เรียกว่าได้ลองเล่นลองใช้แล้วมาเล่ามาบอกความรู้สึกมากกว่า ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากใคร ซื้อเองใช้เองเลยมาเล่า เผื่อเป็นตัวช่วยตัดสินใจสำหรับคนที่คิดว่าจะซื้อดีหรือไม่ พูดกันตรงๆ ไม่อคติ ไม่อวย ไม่ด่า

บอกก่อนว่า ผมไม่เคยมี PC Handheld ตัวไหนมาก่อน นี่คือตัวแรกเลยที่ซื้อ ดังนั้น ประสบการณ์การใช้เครื่องเกมประเภทนี้จึงเริ่มที่เครื่องนี้เป็นเครื่องแรก



เอาล่ะ อย่างแรก เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักมันมาบ้างแล้วจากสื่อต่างๆ มันคือ คอมพิวเตอร์ PC Windows 11 ที่อยู่ในร่างของเครื่องเล่นเกม หรือจะบอกว่า มันคือโน้ตบุ๊คที่ถอดวิญญาณมาสิงเครื่องเกมก็ได้ แม้จะชื่อว่า Xbox แต่แท้ที่จริงแล้ว แทบไม่มีอะไรเกี่ยวกับ Xbox เลยนอกจากชื่อ เห็นฝรั่งหลายช่องหลายคนบ่นผิดหวังว่า นึกว่ามันจะเป็น Xbox แบบพกพา เพราะทางตะวันตกเขาจะคุ้นชินกับเครื่องเล่นเกม Xbox มากกว่า แต่คนไทยเรามักจะคุ้นกับ PS หรือ Nintendo ดังนั้น คงไม่มีใครผิดหวังในเรื่องนี้


แรงแค่ไหน ไหวไหมกับเกม AAA

แรงแค่ไหนไม่รู้ แต่บอกได้แค่ว่า "ประทับใจ" ในฐานะที่ผมมีคอม PC Desktop ที่ใช้การ์ดจอ RTX 4070Ti อยู่แล้ว เล่นเกมได้ทุกเกมแบบปรับสุดโดยแทบไม่ใช้ DLSS ในความละเอียด 1080p 60Hz. ต้องลดความคาดหวังมาเล่นเครื่องพกพาที่การ์ดจอเป็น iGPU แน่นอนว่าการปรับสุด ความไหลลื่น กราฟิกสวยงาม เอฟเฟ็กต์ตระการตา มีทุกอย่างพร้อมกันนั้นลืมไปได้เลย แต่เพราะจอเล็ก เวลาเล่นมันไม่ได้เห็นอะไรขนาดนั้นหรอก ปรับแค่กลางๆ บางเกมอาจต้องต่ำ หรือบางเกมอาจปรับได้ถึงสูงเลย ก็ยังเล่นได้เฟรม 50-60 fps หากเราไฟน์จูนเรื่องการพลังงาน ความละเอียดหน้าจอ และ Settings ของกราฟิกในเกมให้เหมาะสม

ผมลองเล่น
- Diablo 4 ปรับกราฟิกกลาง-สูง เปิด FSR 2.0 Balance หน้าจอ 900p เล่นในโหมด Silent 13W ก็ยังได้ลื่นๆ แต่บางช่วงอาจมีเฟรมร่วงบ้างเล็กน้อย ถ้าเอาชัวร์ๆ 17W น่าจะกำลังดี ซึ่งผมประทับใจมาก เพราะภาพก็ยังสวยอยู่ แล้วนอนเล่นก่อนนอน มันฟินมาก


นี่นอนเล่น Diablo4 ก่อนนอน บางทีก็เล่นจนหลับ แต่กลับมาได้ แบบว่าเอาให้จบเควสนี้ก่อนค่อยนอน ^^


- EA Sport FC25 ปรับ Settings ส่วนใหญ่เป็น Auto บางอันเป็น Medium หน้าจอ 900p เล่นได้ลื่นๆ คือไม่เสียอารมณ์ แล้วภาพก็ยังสวย เกมแบบนี้ความไหลลื่นต่อเนื่องสำคัญกว่ากราฟิก


จะนั่งเล่นนอนเล่นก็ได้ เล่นต่อทีวีจอใหญ่ก็ได้ เทียบกับสมัยเล่น Fifa19 บน Switch แล้ว อันนี้ดีกว่ามากๆ


- Forza Horizon 5 นี่คือเกมที่ปรับแต่งมาได้ลงตัวที่สุดเพื่อเครื่องพกพาโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถปรับได้ถึง High แล้วยังได้เฟรมเฉลี่ยที่ 60 fps ภาพสวย เกมลื่น แต่เกมนี้ผมได้ลองเฉพาะต่อเล่นกับทีวี ซึ่งมันใช้ไฟ 35W ความละเอียดหน้าจอจึงเป็น 1080p ดังนั้น หากพกพาที่ดันไฟได้เพียง 25W แล้วใช้หน้าจอที่ 900p หรือ 720p ก็อาจได้เฟรมที่ใกล้เคียงกัน


เล่นแบบแฮนเฮลด์ ปรับ Settings High ยกเว้น Raytrace ที่เป็น Medium พลังไฟ 25W เล่นได้เฟรม 60 เกือบตลอดเวลา และไม่รู้สึกว่าหน่วงเลย

อนึ่ง... เกม FH5 ตอนเล่นในโหมด Windows ได้เฟรมไม่ค่อยดี หลักๆ อยู่ที่ 40-50 แต่ก็ยังดูกระตุก ไม่ลื่นไหล ทว่าพอเข้าโหมด Full Xbox Experience กลับได้เฟรมที่ไหลลื่นอย่างที่กล่าวไป



เกมอื่นๆ ที่เล่น

ส่วนใหญ่ผมมักปรับที่ 900p , V-sync , Limit 60 fps (บางเกม)  ทุกเกมที่เล่น คือลื่นไหลไม่เสียอารมณ์ (ตีซะว่า 50-60+) และไม่เปิด Frame Generation เพราะไม่ชอบเป็นการส่วนตัว หากใครชอบเฟรมเยอะๆ จะเปิด FG ให้เฟรมขึ้นเป็นร้อยก็ตามอัธยาศัย

Spider Man Remaster (ภาคแรก)
ปรับ low-medium เปิด FSR  เน้นเทกเจอร์ เงา เพราะไม่อยากเห็นภาพเบลอและตัวละครลอย คุณจะพกไปโหนใยที่ไหนก็ได้แบบชิวๆ


หรือจะต่อทีวีจอใหญ่ พุ่งทะยานเต็มตาก็ทำได้ แต่ต้องยอมรับว่าภาพจะไม่ค่อยสวย เพราะเราปรับกราฟิกค่อนข้างต่ำ และจอใหญ่มันเห็นชัด



Gravity Circuit
เกมที่โคตรเหมาะกับการเล่นพกพา เพราะเป็นเกมแนวเดินตะลุยด่าน วิ่งด้านข้าง อารมณ์เดียวกับ Rockamn X เลย แล้วกราฟิกระดับนี้ ปรับพลังงานเหลือ 7W ก็ยังเล่นได้ลื่นๆๆๆๆ คือเพลินมากจริงๆ



Witch Spring R
เกมนี้แม้จะกราฟิกเรียบง่ายดูคลีนๆ แต่เป็น Full 3D ทั้งนี้ยังสามารถปรับสุดได้ ตั้งพลังงานไว้ที่ 17W ก็เล่นได้สบายครับ



Halo4
แม้จะเป็นเกมเก่าสมัย Xbox360 แต่มีการ Enhance Graphic ทำให้ภาพสวยขึ้นกว่าตอนนั้น และแม้จะเล่นแบบพกพาก็ยังลื่นหัวแตกครับ ปรับสุดทุกอย่างแบบไม่ต้องเกรงใจเลย พลังงาน 17W จัดไป นี่ลง Mod Reflow เพิ่มความสวยอีกนิดด้วยนะ (ยังไม่ได้ซื้อภาค Infinite อันนั้นภาพสวยกว่ามาก แถมเป็น Open World ก็น่าลองอยู่)



Tekken 8
เกมต่อสู้ยอดฮิต เกมจะวัดพลังเครื่องเราแล้วปรับแต่งให้อัตโนมัติเลย ผลคือ Medium และมี Upscale เราสามารถแอบเปลี่ยนบางอย่างเป็น low หรือ High ได้ เพื่อรักษาเฟรมที่ 60 แม้บางจังหวะอาจร่วงนิดหน่อยแต่ก็ไม่รู้สึกอะไร ยังมันส์อยู่ครับ เกมนี้ปรับพลังไว้ที่ 25W นะ




ต่อทีวีเล่นจอใหญ่กระแทกตา ได้ไหมและเป็นไงบ้าง

นีคือสิ่งแรกๆ ที่ผมสนใจเลย เพราะการ "พกพา" ในแบบของผม คือการเอามันไปเล่นนอกบ้าน ซึ่งรวมถึงในห้องพักโรงแรมเวลาไปเที่ยวด้วย และแม้แต่อยู่ที่บ้าน การเอาเครื่องเกมมาต่อทีวีจอใหญ่ที่บ้าน นั่งเล่นบนโซฟาเสมือนเป็นเครื่องคอนโซล ก็ให้ความรู้สึกเต็มตาสะใจกว่าเล่นเกมในคอมที่หน้าจอ 24 นิ้วเป็นไหนๆ ถามว่ามันทำได้ไหม ตอบเลยว่า "ได้แน่นอน" แต่มันก็ไม่ได้ดีเท่ากับเครื่องคอนโซลจริงๆ ดังที่จะกล่าวต่อไป...

เพราะตัวเครื่อง ROG Xbox Ally X มันมีปุ่ม Xbox และ Libraly ซึ่งจะเรียกแอป Xbox และโชว์เกมของเราที่มี การที่เราถือเล่นน่ะ มันก็เหมาะสมเพราะปุ่มมันอยู่ที่เครื่อง แต่ถ้าเราต่อทีวีเล่น ตัวเครื่องมันจะอยู่ไกลมือ และถ้าเราใช้จอยอื่นในการเล่น ไม่ว่าจะเป็นจอย Xbox หรือ PS หรือจอยยี่ห้อต่างๆ มันไม่มีสองปุ่มที่ว่านี่ ทำให้เราทำอะไรแทบไม่ได้เลย ต้องลำบากขยับตัวไปกดปุ่มที่ตัวเครื่องทุกครั้ง...

แต่มันก็มีวิธีแก้แหละ และแนะนำด้วยคือ ควรมี "คีย์บอร์ดไวเลส" ไม่ว่าจะขนาดเต็มหรือขนาดย่อก็ตาม และควรใช้แบบที่มี mouse pad ในตัว เพราะรับประกันได้เลยว่าคุณได้ใช้มันแน่ๆ เรื่องจากเจ้า ROG Xbox Ally X นี้ พื้นฐานมันคือ PC Windows ไม้ใช่เครื่องเกมแท้แต่กำเนิด เวลาจะทำอะไรมันหนีไม่พ้นการใช้ Mouse และการพิมพ์ข้อความในการทำธุรกรรมต่างๆ นั่นยังรวมถึงการ เร่ง/หรี่ เสียงด้วย สรุป ถ้าจะเล่นแบบต่อทีวีที่คุณนั่งไกลพอประมาณ ควรมีคีย์บอร์ดไวเลสเอาไว้ควบคุมในส่วนที่จอยไม่สามารถทำได้



เข้าเกมเร็วไหม โหลดเกมเป็นไงบ้าง

อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ตัวเครื่องมันคงพยามเต็มที่แล้ว แต่มันติดข้อจำกัดของ "เกม" สมัยนี้ ที่จะต้อง...

กดรันเกม > เปิดลันช์เชอร์ของร้าน > รันเกม > โชว์โลโก้ของนั่นนี่นู่น >  เกมเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ > ตรวจสอบสิทธิ์ของ Account เจ้าของเกม และเช็คว่ามี DLC อะไรบ้าง > เข้าหน้าเกมหลัก

จะเห็นได้ว่า หลายขั้นตอนมากกว่าจะถึงหน้าเมนูหลักของเกม และบางเกมมันก็โหลดช้าจริงๆ ขนาดใช้ PC Desktop ยังช้าเลย นี่ยังไม่ได้พูดถึงบางเกมที่ พอกดรันเกมแล้ว พี่แกเข้าไปโหมด HQ เพื่อที่จะให้เลือกว่าจะเล่นโหมดไหน พอเลือกแล้วมันจะปิดแอป แล้วค่อยเปิดตัวเกมอีกที แล้วกว่าจะโหลดแต่ละแอปขึ้นมาได้ อย่างนาน เหมือนใช้กระบวนการข้างบน 2 ครั้งติดต่อกัน กดเล่นเกมแล้วกว่าจะได้เริ่มเล่นจริงๆ ก็เกิน 5 นาทีไปแล้ว

สรุป กดเข้าเกมนานหรือไม่นาน ขึ้นอยู่กับเกม ถ้าเกมอินดีเล็กๆ แป๊บเดียวก็ได้เล่นแล้ว แต่ถ้าเกมใหญ่ เรื่องมาก ก็รอโหลด รอเช็ค รอตรวจอะไรไป กว่าจะเข้าเมนูก็อาจจะนานหน่อย แต่ถ้าเข้าเมนูมาแล้ว โหลดเกมไม่นานครับ



เล่นนอกสถานที่ เจ๋งดีไหม อะไรยังไง

เพราะมันคือ PC Windows ที่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ดังนั้น ข้อจำกัดและความจุกจิก มันจึงเป็นเรื่องของ "ความเรื่องมากของเกมสมัยนี้"

อย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าเกมคอมปัจจุบัน มันต้องต่อเน็ตก่อนเสมอ เพื่อเช็คบัญชีกับเกมและเนื้อหาเสริมต่างๆ การเล่นนอกบ้านแล้วไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ต จะทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมแย่ลง อาจจะไม่ได้มาก แต่ก็ทำให้รู้สึกรำคาญหรือหงุดหงิดได้ เช่น Launcher ร้านค้าจะเป็นโหมด Offline ทำให้ความก้าวหน้าในเกมที่เราเล่นจะอยู่แค่เซฟในเครื่อง หากเล่นต่อจากเครื่องที่เล่นไปไกลกว่านี้มาก่อน ก็จะเล่นต่อไม่ได้ หรือจะบางเกมที่ ออกแบบมาให้ต่อเน็ตเพื่อบันทึกโบนัสหรือความก้าวหน้าบางอย่าง ถ้าไม่ได้ต่อเซิร์ฟเกม คุณจะทำอะไรกับโหมดนั้นไม่ได้เลย และจะไม่ได้โบนัสจากการเล่น เพราะเกมจะเก็บความก้าวหน้านี้บนเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น การฝืนเล่นออฟไลน์ไป อาจจะได้แค่เล่น แต่ไม่ได้ความก้าวหน้าหรือโบนัสใดๆ หรือออ... บางเกมพอไม่มีเน็ต ก็เล่นไม่ได้เลย แม้จะเป็นเกมเล่นคนเดียว แต่ก็ต้องต่อเน็ตเพื่อเข้าสู่เกม บางเกมต้องต่อตลอดเวลาการเล่นด้วย คือแค่อยากจะเล่นเกมเงียบๆ คนเดียวก็ทำไม่ได้ -_-"



ดังนั้น การเล่นเกมนอกสถานที่ จะดีหรือไม่อย่างไร ก็ขึ้นกับว่าเกมนั้นมันเรื่องมากแค่ไหน หลายๆ เกมสามารถเล่นแบบออฟไลน์ได้ และจะบันทึกเซฟขึ้นคลาวด์เมื่อต่อเน็ตอีกครั้ง ทำให้สามารถเล่นต่อเนื่องที่เครื่องอื่นได้ อาจจะมีเพียงบางเกมที่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเพื่อเล่น หรือเพื่อให้ได้โบนัสเท่านั้น ถ้าเกมที่คุณเล่น เป็นเกมที่ไม่เรื่องมาก ก็สามารถเล่นนอกสถานที่ได้อย่างสบายและสนุกมากๆ และถ้าเป็นเกมอินดี้ที่กราฟิกเบาๆ กินพลังงานน้อย จะยิ่งฟินเพราะคุณจะเล่นมันได้นานหลายชั่วโมงเลย



ความร้อน / เสียงพัดลม / เป็นไงบ้าง

ดีเลย คือ ถ้าเกมโหดหรือโหลดเยอะ เครื่องก็จะร้อน พัดลมก็จะทำงาน มันก็จะมีเสียง เรื่องปกตินะ แต่ก็ไม่ดังจนเกินไป ไม่ได้รบกวนการเล่นหรือการทำงาน  ส่วนความร้อน ถือว่าทำได้ดีมากๆๆ "เท่าที่ลองมา" ไอร้อนที่พ่นออกมาหลังเครื่องนั้นแค่ "อุ่นเบาๆ" ไม่ถึงกับร้อนจี๋แบบโน้ตบุ๊ก เรื่องนี้จึงถือว่าเค้าทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่ก็ไม่แน่ว่า หากใช้งานหนักต่อเนื่องนานๆ ในห้องที่ไม่ได้เปิดแอร์หรือนอกบ้าน อาจจะร้อนกว่านี้ได้






--- ต่อในคอมเม้นต์ ---
ชื่อสินค้า:   ASUS ROG Xbox Ally X
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่