🌐"เสือโคร่งสีทอง"สัตว์ที่ติดอันดับสัตว์หายากสุดในโลก
เหลือไม่ถึง 50 ตัวในโลก ไทยโชคดีที่ยังมีเหลือให้เห็นที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี🇹🇭
🐅
#เสือโคร่งสีทอง
(Golden tiger)
หรือ เสือสตรอว์เบอร์รี (Golden tabby tiger, Strawberry tiger)
เป็นเสือโคร่งชนิดหนึ่งที่เหมือนเสือโคร่งส่วนใหญ่ เพียงแต่เกิดความผิดปกติกับยีนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสีของขนบนร่างกาย เช่นเดียวกับเสือสีขาว หรือเสือสีดำนั่นเอง โดยลักษณะสีเช่นนี้เป็นเพียงการแบ่งสีของเสือโคร่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นการกำหนดสายพันธุ์ย่อยที่เกิดขึ้นใหม่แต่อย่างใด แต่มันมีโอกาสเกิดเสือโคร่งสีทองขึ้นเช่นนี้ได้ยาก ๆ เท่านั้นเอง
โดยรูปร่างของมันจะเหมือนกับเสือโคร่งปกติ แต่มีสีสันไม่ปกติ โดยปกติแล้วเสือโคร่งจะมีสีทองซีดหรือสีส้ม บริเวณใต้ท้อง และขามีสีขาว และลายเป็นเส้นสีดำบริเวณรอบตัว และหาง และมีลายบางส่วนบริเวณหัว แต่เสือสีทองนั้น จะมีลำตัวสีบลอนด์ หรือสีทองอ่อน และมีลายรอบ ๆ ตัวเป็นสีน้ำตาลแดงแทนลายสีดำ หรือมีลายสีอ่อนลงกว่าปกติ ซึ่งเกิดการลักษณะด้อยของส่วนที่ใช้ผลิตสีดำบนเส้นขนที่เรียกว่า “wideband” ซึ่งมันเกิดขึ้นตามธรรมชาติได้ยากมาก ๆ นั่นเอง
เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับเสือโคร่งสีขาว ที่มีลักษณะยีนด้อย คือไม่สามารถผลิตสีน้ำตาล หรือสีทองซีดที่เป็นสีหลักบนตัวของเสือโคร่งได้ จึงทำให้มันมีสีขาวทั่วทั้งตัว และมีลายสีดำ หรืออาจจะไม่มีลายเลย ซึ่งเสือโคร่งสีทองนั้น มีขนาดตัวยาวมากกว่า 270 เซนติเมตร และสูงมากกว่า 90 เซนติเมตร เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักราว 220 กิโลกรัม ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับเสือโคร่งทั่วไป หรือใหญ่กว่าเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ ความผิดปกติของเม็ดสีของขนบนตัวเสือเหล่านี้ ที่ทำให้ขนดูผิดปกติจากทั่วไป อีกทั้งยังทำให้ขนมีลักษณะแลดูนุ่มกว่าเสือโคร่งปกติอีกด้วย
แหล่งที่มา : The Earth
https://www.facebook.com/share/p/1FWx3xuMJf/
🌐"เสือโคร่งสีทอง"สัตว์ที่ติดอันดับสัตว์หายากสุดในโลก เหลือไม่ถึง 50 ตัวในโลก
🌐"เสือโคร่งสีทอง"สัตว์ที่ติดอันดับสัตว์หายากสุดในโลก
เหลือไม่ถึง 50 ตัวในโลก ไทยโชคดีที่ยังมีเหลือให้เห็นที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี🇹🇭
🐅
#เสือโคร่งสีทอง
(Golden tiger)
หรือ เสือสตรอว์เบอร์รี (Golden tabby tiger, Strawberry tiger)
เป็นเสือโคร่งชนิดหนึ่งที่เหมือนเสือโคร่งส่วนใหญ่ เพียงแต่เกิดความผิดปกติกับยีนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสีของขนบนร่างกาย เช่นเดียวกับเสือสีขาว หรือเสือสีดำนั่นเอง โดยลักษณะสีเช่นนี้เป็นเพียงการแบ่งสีของเสือโคร่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นการกำหนดสายพันธุ์ย่อยที่เกิดขึ้นใหม่แต่อย่างใด แต่มันมีโอกาสเกิดเสือโคร่งสีทองขึ้นเช่นนี้ได้ยาก ๆ เท่านั้นเอง
โดยรูปร่างของมันจะเหมือนกับเสือโคร่งปกติ แต่มีสีสันไม่ปกติ โดยปกติแล้วเสือโคร่งจะมีสีทองซีดหรือสีส้ม บริเวณใต้ท้อง และขามีสีขาว และลายเป็นเส้นสีดำบริเวณรอบตัว และหาง และมีลายบางส่วนบริเวณหัว แต่เสือสีทองนั้น จะมีลำตัวสีบลอนด์ หรือสีทองอ่อน และมีลายรอบ ๆ ตัวเป็นสีน้ำตาลแดงแทนลายสีดำ หรือมีลายสีอ่อนลงกว่าปกติ ซึ่งเกิดการลักษณะด้อยของส่วนที่ใช้ผลิตสีดำบนเส้นขนที่เรียกว่า “wideband” ซึ่งมันเกิดขึ้นตามธรรมชาติได้ยากมาก ๆ นั่นเอง
เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับเสือโคร่งสีขาว ที่มีลักษณะยีนด้อย คือไม่สามารถผลิตสีน้ำตาล หรือสีทองซีดที่เป็นสีหลักบนตัวของเสือโคร่งได้ จึงทำให้มันมีสีขาวทั่วทั้งตัว และมีลายสีดำ หรืออาจจะไม่มีลายเลย ซึ่งเสือโคร่งสีทองนั้น มีขนาดตัวยาวมากกว่า 270 เซนติเมตร และสูงมากกว่า 90 เซนติเมตร เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักราว 220 กิโลกรัม ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับเสือโคร่งทั่วไป หรือใหญ่กว่าเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ ความผิดปกติของเม็ดสีของขนบนตัวเสือเหล่านี้ ที่ทำให้ขนดูผิดปกติจากทั่วไป อีกทั้งยังทำให้ขนมีลักษณะแลดูนุ่มกว่าเสือโคร่งปกติอีกด้วย
แหล่งที่มา : The Earth
https://www.facebook.com/share/p/1FWx3xuMJf/