[CR] GEN441 รีวิว “เชียงใหม่” แม่ลาย แม่กำปอง อิ่มครบจบในทริปเดียว

สวัสดีครับ/ค่ะ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขียนรีวิวท่องเที่ยวในวิชาเจนท่องเที่ยว ซึ่งวิชานี้ให้ศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญของการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม หากผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ

ในช่วงเดือนกันยาที่ผ่านมา พวกเราได้แพลนกันไว้ว่าจะไปเชียงใหม่เป็นเวลา3วัน2คืน ขาไปเราเดินทางโดยรถไฟ โดยสถานีต้นทางคือสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เริ่มเดินทางกันเวลา20:05น. ถึงเชียงใหม่ตอน08:40น. เป็นระยะเวลาที่รู้สึกว่านานมาก 12ชั่วโมงกว่า ที่พวกเราเลือกไปรถไฟเพราะว่าโจทย์ที่ได้มาคือ low cost, high experience ซึ่งการเดินทางเดินรถไฟเป็นวิธีที่ถูกที่สุด และเพื่อนในกลุ่มก็อยากมีประสบการณ์นั่งรถไฟไปเที่ยวกับเพื่อนแบบลุยๆ ในช่วงแรกๆทุกคนก็ตื่นเต้นและดูสนุกกันดี มีเตรียมหมอนและของกินมาเพียบ แต่พอผ่านไปสัก2-3ชั่วโมงก็เริ่มรู้สึกเบื่อ ไม่มีอะไรจะทำแล้ว เสียงรถไฟก็ดัง ฝุ่นก็เยอะ ตอนจะนอนก็มีแมลงเต็มไปหมด ต่างกับที่คิดไว้เยอะมากๆ ที่นั่งแคบมาก มีเพื่อนคนนึงที่สูงทำให้นอนลำบากยืดขาไม่ได้ จริงๆแล้วรวมๆก็คือไม่ได้นอนกันเลยสักคน แล้วที่หนักสุดก็คือเพื่อนคนนึงได้ไปเจอระเบิดลูกใหญ่ในห้องน้ำ อาจจะดูไม่ได้มีอะไรแต่คือมันอยู่บนพื้นไม่ได้อยู่ในส้วม ไม่เข้าใจคนทำมาก55555 สุดท้ายก็เลยได้ไปเข้าห้องน้ำอีกฝั่งแทน ในที่สุดก็ถึงเชียงใหม่จนได้แต่ละคนคือหมดสภาพ ไม่ได้นอนกันเลย

พอถึงก็ต้องไปสถานที่ที่แพลนไว้ต่ออีก ลุยอีกยาวๆ บ่นเยอะหน่อยแต่ข้อดีก็ยังมีนะ ตอนใกล้จะถึงซึ่งเป็นตอนเช้าแล้ว ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและทุ่งหญ้าตามทาง เป็นอะไรที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยเท่าไหร่เพราะปกติกว่าจะตื่นก็บ่ายแล้ว5555555


มาต่อก็คือสถานที่แรกที่ไปคือ“โหล่งฮิมคาว”มันคือชุมชนนึงในเชียงใหม่ที่สื่อถึงวัฒนธรรมและใกล้สถานีรถไฟมากเลยเลือกเป็นที่แรก ซึ่งพวกเราได้ไปลองเดินดูในชุมชนนี้ ก็มีของขายเต็มไปหมด ได้ลองไปคั่วกาแฟ เดินชมสินค้าต่างๆที่คนในชุมชนทำขึ้นมาเอง ซึ่งก็ทำให้ได้เห็นว่าการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จริงๆมีการผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นกับกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวได้ยังไง



พอเริ่มเดินไปสักพักก็เริ่มหิวเลยไปกินอาหารเหนือที่ดังในTikTok เลยได้กินพวกข้าวซอย น้ำเงี้ยว อ่องปู จอผักกาด แกงฮังเล ความรู้สึกที่ได้กินคืออร่อยมากและถูกด้วย ก็ว่าทำไมถึงคนเยอะขนาดนี้

จากนั้นก็ไปสถานที่สุดท้ายของวันนี้คือประตูท่าแพ มีนกพิราบเต็มไปหมดคือแทบจะเป็นไข้หวัดนกแล้ว55555 จริงๆตอนเย็นหน่อยก็จะมีตลาดที่ขายของเยอะมาก แต่พวกเราไปตอน4โมง เขาก็กำลังจัดร้านกันอยู่พอเดินไปเรื่อยๆก็มีร้านที่จัดร้านเสร็จแล้วก็ซื้อของกินกันเยอะเลยเพราะหิวมาก

และที่นอนในคืนแรกคือบ้านเพื่อนที่เชียงใหม่ ที่สีวลีสันกำแพง ทำให้ประหยัดงบไปได้คืนนึง

-Day 2-
เริ่มต้นวันกันด้วยการไปกินข้าวที่ “โกเผือกโกดำ” เป็นร้านอาหารที่มีเมนูไม่กี่อย่างแต่เป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เพราะเป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อในเชียงใหม่ ไม่ได้มากินถือว่าพลาดมาก!


สถานที่แรกของวันนี้คือร่มบ่อสร้างหรือชื่อเต็มๆก็คือศูนย์หัตถกรรมร่มบ่อสร้าง เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องการทำร่มกระดาษสาแบบทำมือ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนเชียงใหม่ที่สืบทอดกันมาหลายปี พวกเราเลยได้ลองทำร่มและได้รู้วิธีการทำร่มแบบดั้งเดิมและเป็นเอกลักษณ์ ความรู้สึกคือที่นี่ทุกคนเป็นกันเองมาก พร้อมให้ความรู้ในทุกเรื่องที่ถาม ร่มแต่ละคันสวยมาก ซึ่งพวกเราเลยคิดว่าซื้อมาเป็นของฝากให้เพื่อนกลุ่มอื่นกันดีกว่า


จากนั้นได้ลองไปบ้านญาติเพื่อนอีกที่ที่เป็นบ้านที่เก่าแก่และหาดูได้ยากของเชียงใหม่ เพราะในสมัยนี้บ้านสร้างใหม่เยอะแยะจนไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ประจำเชียงใหม่เลย ซึ่งบ้านที่ได้ไปมีการออกแบบของยุคสมัยนั้นจริงๆและตัวบ้านมีอายุมากกว่า100ปี จริงๆคือแอบกลัวมากเพราะว่ามีรูปบรรพบุรุษของตระกูลเพื่อนอยู่เยอะมาก เพื่อนก็แกล้งๆกันว่าถ้าไม่ขออนุญาตระวังบรรพบุรุษตามกลับไปนะ👻


ต่อไปจะเป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่มาเชียงใหม่จะไปกัน ก็คือขึ้นดอยย⛰️ และพวกเราจะไปแม่กำปองกันน โดยที่พวกเราคิดกันแล้วว่าไปยังไงให้ถูกที่สุด เพื่อนคนที่จองที่พักก็เลยลองถามเจ้าของที่พักดูซึ่งเจ้าของที่พักใจดีมาก เพราะบอกว่าเป็นนักศึกษาต้องมาทำงานเลยหารถรับส่งให้ถึงที่ในราคา3000บาท ซึ่งหารกันแล้วถูกกว่าการนั่งรถตู้ไปตั้งเยอะ เดินทางไปประมาณ1ชั่วโมง จริงๆขึ้นเขาคิดว่าง่ายนะ(แอบคิดว่าจะขับรถมาเองดีไหม55555)แต่เวียนหัวมาก มีเพื่อนอ้วกไปคนนึง ทางค่อนข้างคดเคี้ยว แต่ข้อดีคือได้เห็นวิวธรรมชาติที่ไม่มีในกรุงเทพแน่นอน

สุดท้ายก็ถึงจนได้ ที่พักชื่อว่าโฮมสเตย์แม่เกตุ มีบ้านพักไม่กี่หลัง พวกเราจองกันไปแล้ว3หลัง ค่อนข้างธรรมชาติมากเพราะมองลงไปเห็นลำธารพอดี สวยและบรรยากาศดีมาก ส่วนห้องนอนเป็นห้องนอนแบบพัดลมซึ่งบนดอยก็จะมีอากาศหนาวอยู่แล้ว พัดลมแทบไม่ต้องเปิดเลย5555 ราคา550ต่อคนเท่านั้น



-16.00 น.-
ก็มีรถของที่พักมารับพาขึ้นไปแม่กำปองแต่พี่เขาก็พูดว่าไปน้ำตกไหม เป็นสถานที่หลักของแม่กำปองเลยพวกเราเลยตอบตกลงไป พอถึงน้ำตกก็เห็นศาลเลย ค่อนข้างน่ากลัวมาก แต่พอเดินไปสักพักเห็นน้ำตกสวยมากก เลยแวะถ่ายรูปกันไปเกือบครึ่งชั่วโมง


หลังจากกลับจากน้ำตกมาถึงแม่กำปองก็เป็นชุมชนที่ขายของเหมือนตลาดบนดอยเลย นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ วิวสวยอาหารก็อร่อย แอบบอก“ราคาถูกมากกกก“ พวกเราถ่ายรูปและหาของกินกันสักพักก็กลับที่พักไปเล่นน้ำที่ลำธารต่อ ซึ่งสิ่งสุดท้ายของคืนนี้คือการกินหมูกระทะ เป็นสิ่งที่รอคอยมาก บรรยากาศแบบนี้ก็ต้องคู่กับหมูกระทะอยู่แล้วเนาะ



-Day 3-
มาถึงวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว เย้ 🥳 เหนื่อยมากแต่ก็สนุกมากเหมือนกัน อย่างแรกเลยคือการลงเขาซึ่งไม่ต้องเดาว่าจะมีใครเมารถไหม เพราะว่ามีแน่นอนนน5555 แต่ก็มีเพื่อนบางคนมีเรียนออนไลน์ก็เลยเรียนบนรถไปเลยฟินๆ

ซึ่งได้ไปวัดมา 3 ที่คือวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร วัดพันเตา วัดสิงห์วรมหาวิหาร ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและความเป็นเอกลักษณ์ของวัดแต่ละแห่งที่แตกต่างกันไป ซึ่งทั้งสามวัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่และมีประวัติที่ยาวนาน นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะกว่าคนไทยมาก เพราะประวัติศาสตร์ของไทยเป็นประวัติศาสตร์ที่โด่งดังและมีความสนใจมาก


พวกเราไปวัดที่สุดท้ายได้ไม่นาน ฝนก็ตกทำให้พวกเราเปียกกันหมดรวมถึงกล้อง5555 แต่พอกลับมาถึงก็เกือบๆ19.00 ซึ่งวันนี้กลับแบบเครื่องบิน ✈️ เย้ เพราะว่าวันต่อไปมีเรียนเช้าและถ้าจองรถไฟแบบนอนราคาเท่ากับราคาเครื่องบินเลย พวกเราก็เลยเลือกสิ่งที่สบายที่สุดคือนั่งรถไฟ เอ้ย เครื่องบิน5555 ทำให้ประหยัดเวลาและเป็นการขึ้นเครื่องที่ตื่นเต้นมากเพราะไปกับเพื่อน ปกติทุกคนจะเคยขึ้นกับพ่อแม่หรือครอบครัว ซึ่งเครื่องบินเป็นไฟลต์กลางคืน ถึงสุวรรณภูมิก็ไม่ค่อยมีรถเยอะแล้ว ทำให้พวกเราเรียกรถกลับกันในราคาที่ไม่แพง และจบทริปกันอย่างแฮปปี้

สรุปแล้ว การได้ไปเรียนรู้ผ่านการลงพื้นที่จริง3วัน 2คืน เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก ทั้งในด้านการเรียนรู้ ความสนุก และมิตรภาพ พวกเราคิดว่าวิชาเจนนี้เป็นหนึ่งในวิชาที่ทำให้พวกเราเห็นภาพรวมของการท่องเที่ยวในมิติใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้อยากออกไปค้นหาสถานที่ใหม่ๆมากขึ้น ได้ลองทำอะไรหลายๆอย่างและได้เห็นความสามัคคีของเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันหรือความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แถมเพื่อนในกลุ่มนี้จากที่ไม่เคยได้คุยกันเลยกลายเป็นสนิทกัน กล้าทักกันมากขึ้น และสิ่งที่สำคัญของการไปเที่ยวคือได้เรียนรู้วัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ ได้เห็นวิถีชีวิต ความเป็นเอกลักษณ์และบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติมากของจังหวัดนี้ ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวหรือทำงานอีก คงเป็นเรื่องที่ดีมากแน่ๆเลย ถอนละลงใหม่ดีไหม จะได้ไปอีกรอบ5555 หยอกเล่นน้า ครั้งเดียวพอนะคะแอบเหนื่อย🥺
ชื่อสินค้า:   
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่