ไก่ถูกเชือด เป็นกรรมเก่าของไก่เอง แล้วจะเป็นกรรมใหม่ของผู้เชือดได้อย่างไร?

ไก่ถูกเชือด เป็นกรรมเก่าของไก่เอง แล้วจะเป็นกรรมใหม่ของผู้เชือดได้อย่างไร?
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ระบบกรรมมีความซับซ้อน และมีความซ่อนเร้นมาก
ถ้าพูดเช่นนี้  ก็จะบอกว่า พูดอะไรที่ มันไม่มีเหตุผล ไม่ใช่ มันมีเหตุผล แต่มันเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะคิด ไต่ไปถึงที่สุดของเหตุผลได้
แต่คิดได้ มันจะได้แค่คร่าวๆ รับเหตุผลได้คร่าวๆ ทุกอย่างในโลก มันมีขีดจำกัดของมัน เพราะอะไร
เพราะถ้ามันไม่มีขีดจำกัด คนย่อมหาวิธีเข้าไปล่วงรู้กรรมมได้ ล่วงรู้ที่มาของมันได้ เช่นนั้น แล้ว กรรมก็ไม่อาจให้ผลได้
ใครมีฌาน ญาณอะไร ก็ซิกแซกไปซ้ายไปขวา เพื่อจะหลบหลีกกรรมเหล่านั้น

ผู้จะรู้กรรมได้จริง คือผู้พ้นกรรม แต่แม้ท่านจะรู้ ท่านก็หนีกรรมนั้นไม่ได้ มันเป็นกฏธรรมชาติของเขา
พระโมคัลลาเคยทุบตี บิดามารดาในชาติอดีต บัดนี้ มีคนไล่ทุบตีท่าน ท่านรู้กรรม ท่านก็เหาะหนี เหาะสองครั้งสามครั้ง เพราะท่านมีสิ่งที่ยังต้องทำอยู่  แต่ในที่สุดท่านก็ยอม ยอมชดใช้กรรม แม้ผู้รู้กรรม ก็ยังยอมชดใช้ เพราะมันเป็นกฏของเขา ไม่ชดใช้ ก็ไปไม่ได้

ส่วนการอธิบาย ว่า กรรมนั้น จริงๆ มันมีความซ่อนเร้น
ยกตัวอย่าง กรรมจะส่งผลให้โดนฆ่า ก็จะพาสัตว์นั้น ไปเกิดในที่ที่เขามักจะฆ่าอยู่แล้ว เช่นฟาร์ม เช่น ในที่พื้นที่เสี่ยง กรรมจะนำพาไปเอง
ต่อให้สัตว์นั้น จะไม่โดนฆ่า มันก็จะมีเหตุอื่น ให้โดนฆ่าอยู่ดี แต่ส่วนมากแล้ว สัตว์ที่ไปเกิดในพื้นที่ ที่เขาฆ่ากันอยู่แล้ว ก็มักจะโดนฆ่าอยู่แล้ว

ซึ่ง คนที่ฆ่า มันก็เป้นเหตุปัจจัย ที่เขาจะฆ่าอยู่แล้ว ไม่ว่า ฆ่าเพราะไม่มีศาสนา ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี หรือฆ่าเพราะทำตามกิเลส ความโลภ ความโกรธ อะไรก็ตาม คือคนเหล่านี้ แม้จะไม่อยู่ตรงนี้ มันไปตรงอื่น มันก็หาทางฆ่าอยู่ดี เพราะมันเป็นเหตุปัจจัย เป็นอุปนิสัย สันดานเบียดเบียน ฆ่า

ทุกอย่างเขาจึงเรียกว่า เหตุปัจจัย คือกรรมจะนำให้ทุกอย่าง ผสมโรง เข้ากันพอดี เหตุต่างๆ ปัจจัยต่างๆ นำมารวมกัน เพื่อบีบให้กรรมนั้นให้ผล
แม้จะยากยังไง บังเอิญยังไง กรรมก็จะมีอำนาจบีบบังคับไป

ส่วนผู้ฆ่านั้น ก็รับกรรมใหม่ไป  ผู้ถูกฆ่า ก็ชดใช้กรรมเก่าไป
อันนั้นคือระบบกรรมจัดสรรมา แต่ว่า วันนึง สมมติว่า ผู้มีอาชีพฆ่า ได้ฟังธรรม ได้เปลี่ยนความเห็นใหม่ เสีย กฏแห่งกรรมเขาก็เปลี่ยนรูปแบบไป สัตว์นั้น อาจจะไม่โดนฆ่า อาจจะเลื่อนไปจู่ๆเจ็บป่วยแทน หรือเกิดอุบัติเหตุให้ตาย
หรืออาจจะกลายเป็น ไปส่งผลในชาติอื่น ให้ไปชดใช้ต่อ มันได้หมด มันขึ้นกับระบบกรรมจัดสรรไป
ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์เข้าไปรับรู้ไม่ได้ เป็นกฏที่ลึกลับ ถ้าไม่ลึกลับ มันก็หลบอำนาจกรรมกันหมด

จะอธิบายให้ละเอียดกว่า นี้ แต่ก็คิดว่าเอาแค่นี้ล่ะ มันรู้ได้คร่าวๆ กรรมจึงเป็นหนึ่งใน อจินไตย ที่มีความหมายว่า ไม่สามารถคิด จนถึงที่สุดได้ ไม่สามารถหาข้อยุติได้   ของที่หาข้อยุติไม่ได้ มันมีจำนวนมาก เหมือนกับรถคันนึง มีที่มาอย่างไร ล้วนมีโซ่แห่งเหตุปัจจัย นับล้านๆๆๆๆๆ นับไม่ถ้วน นับไม่สุด รู้ได้ไม่สุด แค่รถคันเดียว แค่หินก้อนเดียว แค่น้ำแก้วเดียว ให้เราไล่เหตุปัจจัยว่า ตั้งแต่ต้นจนมันมาถึงจุดนี้ มันมีเหตุอะไรมาบ้าง มันก็มีเหตุนับล้านๆๆๆๆอย่าง นับไม่สุด คำนวนไม่สุด พิสูจน์ให้ถึงที่สุดไม่ได้ หลักเหตุและผลนี้เอง เป็นกฎธรรมชาติที่มีความซับซ้อนมาก มีเพียงทศพลญาณพระศาสดาจะรู้ได้ นอกนั้น จะรู้ได้เพียง ทำเนา ประมาณ อนุมาณ  และหลักกฏแห่งกรรม ก็คือ subset ในกฏธรรมชาตินั้น ที่มีความซับซ้อน และซ้อนเร้น แต่มันก็จะมีสายเหตุปัจจัยเหมือนกัน ก่อให้เกิด ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ

หลายอย่างด้วยความยากในการอธิบาย พุทธจึงมักใช้คำอุปมา เพื่อให้พอเห็นภาพ ว่าสิ่งนั้นเป็นอย่างนี้ๆ มีที่มาที่ไปอย่างนี้ แต่จะอธิบายได้เป้นบางส่วน ไม่ได้อธิบายความหมายแท้จริงทั้งหมดได้

ส่วนผู้ฆ่านั้น เมื่อมีเจตนาฆ่าแล้ว ก็ย่อมเป็นกรรมใหม่ ดังคำตรัสว่า เจตนาคือกรรม
  การก่อกรรมเก่าใหม่ สลับกันไปเรื่อยอย่างนี้ จึงไปเข้าหลักกงกำกงเกวียน ชดใช้กรรมแล้ว ก็ไปก็กรรมต่อ มั่วไปเรื่อย ต่อกรรมไปเรื่อย ท่านจึงให้หยุดการก่อกรรม เห็นโทษภัยของมัน เพื่อหยุด ระบบกรรม แล้วหนีออกจากระบบกรรมอันนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่