[CR] ตะลุยศรีสะเกษ 3 วัน 2 คืน

วันที่ 1 เริ่มต้นขึ้นด้วยเช้ามืด ด้วยความที่สถานที่พัก(หอ)ของพวกเราอยู่ค่อนข้างไกลจากสนามบิน เราจึงนัดกันออกเช้ามากๆ ที่ตลาดบางประกอก เวลาประมาณ 6.40 เพื่อนๆเริ่มมากันครบทุกคน และเราก็ได้รอรถเมล์เพื่อที่จะไปลงสถานีราชปรารภ เชื่อมแอร์พอร์ตลิ้งค์เพื่อขึ้นไปยังสนามบินสุวรรณภูมิไฟล์บินที่จะไปลงท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานีของเราคือ 11.15 น.

เหตุผลที่เราต้องเลือกมาลงที่อุบลเพราะเป็นสนามบินที่ใกล้จังหวัดศรีสะเกษที่สุด นั่งรถต่อเพียง 1 ชั่วโมงก็สามารถถึงตัวเมืองศรีสะเกษได้ทันที

ด้วยความรีบและกลัวตกไฟลท์อย่างสุดใจ พวกเราก็ไปถึงสนามบินก่อนเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง!!! ซึ่งเราก็ต้องนั่งรอจนกว่าจะถึงไฟล์ทบิน พอแลนดิ้งลงอุบลราชธานี เราก็มุ่งหน้าไปศรีษะเกษต่อทันที แต่ด้วยความที่พวกเราทั้งหมดยังไม่ได้กินอะไรกันเลย ก่อนถึง อ.เมืองศรีสะเกษ เราจะต้องผ่าน อ.กันทรารมย์ ก่อน ซึ่งเพื่อนบอกว่า อำเภอนี้ขึ้นชื่อเรื่องไก่ย่างริมทางรถไฟเป็นที่ 1 ทำให้ตอนประมาณ 12.30 ถึงเวลากินข้าวเที่ยง

เราจึงแวะร้านส้มตำร้านนึงที่อยู่ฝั่งข้างหลังของสถานี เป็นร้านขายส้มตำไก่ย่าง ชื่อร้านว่า “แม่ลีไก่ย่างกันทรารมน์” คุณป้าใจดีมากๆ พวกเราสั่งข้าวเหนียวไปแค่ 2 จาน แต่คุณป้าให้มา 3 จานเลย จริง ๆ ให้ 4 ด้วยแต่เยอะเกินเลยต้องให้คืนและขอบคุณน้ำใจแรกของคุณป้าไป และยอมรับว่าส้มตำของคุณป้าอร่อยแซ่บมากๆ ส้มตำของคุณป้ามีรสชาติค่อนข้างเผ็ด แต่เป็นเผ็ดที่อร่อยมากๆ พวกเราคิดว่าถ้าเผ็ดน้อยกว่านี้ก็คงไม่อร่อยเท่านี้ และนอกจากส้มตำที่อร่อยแล้วยังมีไก่ย่างที่ค่อนข้างเป็นที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ไก่ย่างปรุงรสมาได้กลมกล่อม หอมถ่านและอร่อยมาก ๆ กินกับส้มตำแล้วลงตัวสุด ๆ โดยรวมแล้วร้านนี้ถูกใจใช่เลยสำหรับพวกเรา

พอทานคาวเสร็จเราก็ไปหาทานหวานกันต่อที่ร้าน Craft cup ร้านลับสไตล์สโลบาร์ การแต่งร้านดูดีและUniqueสุด ๆ และบรรยากาศเหมาะกับการนั่งทำงานเงียบ ๆ ก่อนที่เราจะไปศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ําเทศบาลเมืองศรีสะเกษ หรือที่เขาเรียกกันว่า อควอเรียม นั่นแหละ เราอาจจะเคยเห็นอุโมงค์ปลาทะเล ตู้ปลาทะเล ตู้แมงกะพรุนมามากแล้วที่นี่คือเป็นปลาน้ำจืด พวกปลาเทโพ ปลาบึก ปลาสวาย ตัวใหญ่มาก เสียดายที่เราไม่ได้มาวันพฤหัส เพราะเป็นวันที่เขาจะมีโชว์ให้อาหาร  

แต่ถ้าดูสัตว์น้ำในอควอเรียมแล้ว ก็ต้องไปดูสัตว์บกและอย่างอื่นต่อที่ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ นั่นเอง

ที่นี่มีสัตว์หลากหลายชนิดมาก ไม่ว่าจะเป็นลิง, กวาง, ไก่ฟ้าหลากหลายสายพันธุ์, นกกระจอกเทศ, จระเข้, งู, เม่น, หมีหมา, หมีควาย, นกยูง และอีกตัวเรียกได้ว่าเป็นสัตว์เซเลปของจังหวัดศรีสะเกษ นั่นก็คือฮิปโป ชื่อว่าน้องหอมแดงนั่นเอง เราได้เห็นน้องหอมแดงนอนในน้ำแบบขยับตัวเล็กน้อย น่ารักสุดๆ เราได้สัตว์แต่ละตัวได้ใช้ชีวิตประจำวันกันยังไง ได้ไปให้อาหารสัตว์บางชนิด ไปให้หญ้าน้องวัว กวาง น้องกินกันน่ารักสุดๆ บางตัวแย่งอาหารกันกินเราก็ต้องระมัดระวังเรื่องของอันตรายของตัวเราด้วย

ช่วงเย็นของวันแรก เราจบวันด้วยการไปเดินตลาดโต้รุ่ง ตลาดติดสถานีรถไฟศรีสะเกษ บรรยากาศตอนเย็นผู้คนจับจ่ายใช้สอย มันเป็นความธรรมดาที่แสนพิเศษจริง ๆ ที่นี่มีของกินมากมาย ด้วยความที่ที่นี้ติดรางรถไฟด้วย เราได้ไปถ่ายรูปตรงรางรถไฟ และเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ตกพอดี แสงสวยมากๆ พอถ่ายรูปเสร็จเราก็ไปเดินหาของกิน ซื้อของกิน ของทานเล่น แพลนแรกเราจะไปกินก๋วยจั๊บฅนเห็น ที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักกันดีของคนในจังหวัด แต่โชคร้ายที่ร้านดันปิดวันที่เราไปพอดี แต่สุดท้ายเราก็เปิดวันด้วย ก๋วยจั๊บเส้นเล็ก 2526 เพื่อนบอกว่า ถ้ามาศรีสะเกษ ไม่ได้กินก๋วยจั๊บเส้นเล็ก แปลว่ามาไม่ถึง! ซึ่งมีเพื่อนอยู่หนึ่งคน คืออู่ข้าว คนนี้น่าจะถึงศรีสะเกษจริง ๆ เพราะซัดไป 2 ชาม ซึ่งไม่แปลกใจเลยเพราะราคาถูกแถมรสชาติดีมาก ปล.ด้วยความที่ จขกท.ไม่กินก๋วยจั๊บเส้นเล็ก เลยสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำตกร้านเข้าท่ามา ความน่ารักของคนที่นี่คือ คุณจะสั่งจากร้านข้าง ๆ มากินก็ได้ ไม่ว่ากัน ซึ่งที่กทม. บางที่ถึงกับต้องติดป้ายห้ามไว้ ซึ่งร้านเข้าท่าบอกเลยว่าเข้าท่าและเข้าปากสมชื่อจริงๆ ปิดจบวันด้วยการกินเมนูเส้น ๆ ที่ฟินสุดๆ )

วันที่ 2 ใน commentน้าาาาา