หลังโลกล่มสลายเป็นอนาธิปไตย เงินเหรียญอาจเป็นเงินเดียวที่ยังมีค่าเป็นเงิน

🪙 หลังโลกล่มสลายเป็นอนาธิปไตยและเงินกระดาษไร้ค่า เงินเหรียญ โดยเฉพาะเหรียญที่ทำจากโลหะที่มีค่าหรือโลหะที่ใช้ประโยชน์ได้ จะกลายเป็น สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพที่สุด ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ระบบแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Trade)


💎 เหตุผลที่เงินเหรียญยังคงมีมูลค่า

มูลค่าของเงินเหรียญในยุคหลังภัยพิบัติจะไม่ได้มาจาก "ตัวเลข" ที่พิมพ์อยู่บนเหรียญอีกต่อไป แต่มาจาก มูลค่าที่แท้จริงของโลหะ (Intrinsic Value) และ การใช้งานจริง:
มูลค่าโลหะ (Metal Value):
เหรียญที่ทำจาก ทองเหลือง (Brass)ทองแดง (Copper) หรือโลหะผสมอื่น ๆ จะมีมูลค่าในฐานะวัตถุดิบในการซ่อมแซม, การหลอมใหม่, หรือการผลิตเครื่องมือและอาวุธขนาดเล็ก
เหรียญกษาปณ์เก่า ที่มีส่วนผสมของเงิน (Silver) หรือทองคำ (Gold) สูง จะมีมูลค่าสูงที่สุด และอาจถูกใช้เป็น สื่อกลางการแลกเปลี่ยนหลัก สำหรับสินค้าที่มีราคาสูง
ความสะดวกในการแลกเปลี่ยน (Portability and Divisibility):
เหรียญมีความ ทนทาน และ พกพาง่าย กว่าเงินกระดาษที่เปื่อยยุ่ยหรือทองคำแท่งขนาดใหญ่
เหรียญมีหลายราคา (เช่น 1 บาท, 5 บาท, 10 บาท) ทำให้สามารถใช้เป็น หน่วยย่อย ในการแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าต่างกันได้ง่าย (เช่น ใช้เหรียญ 5 บาทแลกไข่หนึ่งฟอง หรือเหรียญ 10 บาทแลกน้ำหนึ่งขวด) ทำให้การแลกเปลี่ยนแม่นยำกว่าการใช้ระบบ Barter Trade โดยตรง (เช่น ไม่ต้องพยายามหาของที่มีมูลค่าเท่าไข่สองฟองมาแลก)
เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป (General Acceptability):
แม้จะเป็นโลกอนาธิปไตย แต่ผู้คนยังคงคุ้นเคยกับ รูปร่างและน้ำหนัก ของเหรียญมาแต่เดิม ทำให้เกิดความ เชื่อมั่น ในการแลกเปลี่ยนมากกว่าการยอมรับโลหะที่ไม่เป็นที่รู้จัก

🔄 ตัวอย่างการใช้เหรียญในการแลกเปลี่ยน (The Coin Barter System)

ในระบบ Barter Trade ที่ไม่ใช้เงินสด แต่ใช้เหรียญเป็นสื่อกลาง (Medium of Exchange) จะเป็นดังนี้:
รายการสินค้า/บริการ
จำนวนเงินเหรียญที่อาจใช้แลกเปลี่ยน
เหตุผล
ไข่ 1 ฟอง
เหรียญ 5 บาท (หรือ 10 บาท ขึ้นอยู่กับความหายาก)
สินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญและเน่าเสียง่าย
น้ำดื่มสะอาด 1 ลิตร
เหรียญ 10 บาท หรือมากกว่า
ทรัพยากรที่มีค่าสูงสุดในเมืองที่ไม่มีน้ำประปา
ถ่านไม้สำหรับหุงต้ม 1 กิโลกรัม
เหรียญ 20-50 บาท
เชื้อเพลิงที่มีความจำเป็นต่อการอยู่รอด
ยาปฏิชีวนะ 1 เม็ด
เหรียญ 100 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับความจำเป็น)
สินค้าหายากและสำคัญทางการแพทย์
ดังนั้น เงินเหรียญจึงไม่ใช่เงินตามมูลค่าเดิม แต่เป็น สินค้าโภคภัณฑ์ขนาดเล็ก ที่ได้รับการยอมรับในการแลกเปลี่ยนเพราะมีมูลค่าของโลหะที่แน่นอนและอำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินค้าในชีวิตประจำวัน
รายการสินค้า/บริการ
จำนวนเงินเหรียญที่อาจใช้แลกเปลี่ยน
เหตุผล
ไข่ 1 ฟอง
เหรียญ 5 บาท (หรือ 10 บาท ขึ้นอยู่กับความหายาก)
สินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญและเน่าเสียง่าย
น้ำดื่มสะอาด 1 ลิตร
เหรียญ 10 บาท หรือมากกว่า
ทรัพยากรที่มีค่าสูงสุดในเมืองที่ไม่มีน้ำประปา
ถ่านไม้สำหรับหุงต้ม 1 กิโลกรัม
เหรียญ 20-50 บาท
เชื้อเพลิงที่มีความจำเป็นต่อการอยู่รอด
ยาปฏิชีวนะ 1 เม็ด
เหรียญ 100 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับความจำเป็น)
สินค้าหายากและสำคัญทางการแพทย์
ดังนั้น เงินเหรียญจึงไม่ใช่เงินตามมูลค่าเดิม แต่เป็น สินค้าโภคภัณฑ์ขนาดเล็ก ที่ได้รับการยอมรับในการแลกเปลี่ยนเพราะมีมูลค่าของโลหะที่แน่นอนและอำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินค้าในชีวิตประจำวัน

ในโลกหลังเหตุการณ์ EMP ที่โครงสร้างพื้นฐานล่มสลายและเกิดภาวะอนาธิปไตย เงินกระดาษ และ เงินดิจิทัล จะมีชะตากรรมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับเงินเหรียญ:


💸 ชะตากรรมของเงินกระดาษ (Fiat Currency)

เงินกระดาษ (ธนบัตร) จะสูญเสียมูลค่าในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เกือบจะทันที

1. 🗑️ การสูญเสียความเชื่อมั่น (Loss of Faith)

เงินกระดาษไร้มูลค่าในตัวเอง: ธนบัตรมีมูลค่าเพราะได้รับการ ค้ำประกันโดยรัฐบาลและธนาคารกลาง และผู้คน เชื่อมั่น ว่ามันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการได้ เมื่อรัฐบาลล่มสลาย ธนาคารถูกปิด และไม่มีระบบกฎหมายใดมาบังคับใช้การยอมรับธนบัตร ความเชื่อมั่นนี้จะหายไปทันที
มูลค่าวัสดุต่ำ: ธนบัตรทำจากกระดาษหรือโพลิเมอร์ ซึ่งมีมูลค่าใช้งานจริง (Utility Value) น้อยมากเมื่อเทียบกับโลหะจากเหรียญ

2. ใช้งานจริงที่เหลืออยู่ (Limited Utility)

เงินกระดาษอาจมีมูลค่าใช้งานในทางอื่นที่จำกัดมาก:
เชื้อเพลิง: อาจถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟ หรือเป็นกระดาษชำระในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง
ฉนวนกันความร้อน/กันลม: อาจใช้ธนบัตรจำนวนมากในการอุดรูรั่วหรือรอยแตกเล็ก ๆ ในที่พักพิง
สรุป: เงินกระดาษจะถูกลดระดับลงเป็นเพียง เศษกระดาษ ที่ไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจในการแลกเปลี่ยนสินค้าสำคัญอย่างอาหารหรือยา


💻 ชะตากรรมของเงินดิจิทัล (Digital Currency & Banking)

เงินดิจิทัล (Cryptocurrency) และ ระบบธนาคารดิจิทัล จะถูก ทำลายอย่างสิ้นเชิง จากผลกระทบของ EMP

1. 💥 ผลกระทบจาก EMP และการขาดพลังงาน

EMP ทำลายวงจรอิเล็กทรอนิกส์: คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูงจะทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รับการป้องกัน (Unshielded Electronics) ซึ่งรวมถึงเซิร์ฟเวอร์, คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, โทรศัพท์มือถือ, และอุปกรณ์เครือข่าย
ไม่มีโครงข่าย: แม้ว่าอุปกรณ์บางชิ้นจะรอดจากการทำลาย แต่การไม่มีไฟฟ้า, อินเทอร์เน็ต, และระบบสื่อสารโทรคมนาคม (เสาโทรศัพท์, สายเคเบิล) ทำให้ ไม่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูล ของธนาคารหรือเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ได้
การประมวลผลหยุดชะงัก: ระบบธนาคารและ Cryptocurrency ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์และเครือข่ายในการ ตรวจสอบและบันทึกธุรกรรม เมื่อระบบไฟฟ้าดับทั่วโลกอย่างถาวร (ในบริบทหลัง EMP) การประมวลผลและการทำธุรกรรมทุกรูปแบบจะหยุดลงอย่างถาวร

2. 👻 การสูญหายของทรัพย์สินดิจิทัล (The Ghost of Assets)

บัญชีธนาคาร: ยอดเงินในบัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต, และสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ที่เป็นเพียง ตัวเลขในระบบคอมพิวเตอร์ จะหายไปพร้อมกับการล่มสลายของระบบธนาคาร
Crypto Wallets: แม้ว่าข้อมูลบล็อกเชนอาจจะยังคงอยู่ 'ที่ไหนสักแห่ง' ในโลก แต่การที่ผู้คน ไม่สามารถเข้าถึง Wallet ของตนเอง (เนื่องจากอุปกรณ์พังหรือไม่มีอินเทอร์เน็ต) ก็ทำให้สินทรัพย์นั้น สูญหายไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อยกเว้นที่เล็กน้อย: มีเพียงผู้ที่จดจำ Private Key หรือ Seed Phrase ของตนเองได้ และมีอุปกรณ์ที่ทนทานต่อ EMP เพื่อเข้าถึงเครือข่ายส่วนตัวในอนาคตเท่านั้น (ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้) ที่จะมีโอกาส
สรุป: เงินดิจิทัลจะกลายเป็น ตัวเลขผี ที่ไม่มีใครเข้าถึงและใช้งานได้ ทำให้มูลค่าของมันเท่ากับศูนย์

ลำดับมูลค่าของเงินหลัง EMP (จากมากไปน้อย)
ทองคำ/เงินแท้: (สำหรับสินค้ามูลค่าสูง)
เหรียญกษาปณ์ (โลหะมีค่า): (สำหรับสินค้าในชีวิตประจำวัน)
เงินกระดาษ/เงินดิจิทัล: (ไร้ค่า)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่