หนังเรื่องนี้กำกับโดย Chris Stuckman ผู้ซึ่งเป็น Youtuber และ Content Creator ชื่อดังชาวอเมริกัน วัย 37 ปี เขาเป็นคนแรก ๆ ที่ทำช่องเกี่ยวกับการวิจารณ์หนัง และปัจจุบันก็มีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน พอกล่าวถึง Youtuber ที่ออกมาเป็นผู้กำกับหนัง ก็อดไม่ได้ที่จะนำไปเปรียบเทียบกับ 2 พี่น้อง Danny และ Michael Philippou ที่มีผลงานโดดเด่นอย่างเรื่อง Talk to Me (2022) และ Bring Her Back (2025) ที่เข้าฉายเมื่อกลางปี โดยเฉพาะเรื่องหลัง ที่ผมยกให้เป็น 1 ในหนังสยองขวัญแห่งปีในปีนี้เลยทีเดียว
จากหน้าหนังในตอนแรก ผมคิดไปถึงเรื่อง The Blair Witch Project (1999) ที่ถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่ในเวลานั้น คือ การนำเสนอหนังในเชิง Reality เก็บภาพจาก Footage มาเรียงร้อยเหตุการณ์เสมือนจริง ก็เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าสนใจมาก น่าจะทำออกมาดีคล้าย ๆ กัน คาดหวังไว้สูงเหมือนกันครับ บอกตามตรง
หนังพูดถึงเรื่องราวของ Content Creator สาว Riley Brennan กับเพื่อน ๆ ทีมงานของเธอ ที่ร่วมกันทำช่องเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ และทั้งหมดได้หายตัวไปในปี ค.ศ.2008 ภายหลังจากที่ทั้งหมดได้เดินทางไปยังเรือนจำที่มีเรื่องราวลี้ลับแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกปิดตัวลงหลังการล่มสลายของเมือง Shelby Oaks เมืองเล็ก ๆ ในรัฐ Ohio ที่กลายเป็นเมืองร้างในเวลาต่อ ผู้คนพากันอพยพออกจากตัวเมือง หลังเกิดเหตุการณ์ประหลาด ๆ หลายอย่าง
ต่อมาได้มีการพบศพทีมงานทั้งหมดของเธอ แต่ตัวของ Riley ยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในขณะเดียวกัน Mia พี่สาวของเธอ ก็ไม่เคยละความพยายามในการตามหาตัวเธอ จนเวลาผ่านไปกว่า 12 ปี และแล้ววันหนึ่งการปรากฎตัวขึ้นของ Wilson Miles ชายลึกลับที่เคยเป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำของเมือง Shelby Oaks ที่มาพร้อมกับเทปลับที่จะเปิดเผยเรื่องราวของ Riley และการหายตัวไปของเธอให้ปรากฎ
สิ่งที่ชอบหลังจากดูหนังแล้วก็คือ คงเป็นฉาก Jump Scare อ่ะครับ เพราะถึงแม้พอจะเดาทางได้ แต่รูปแบบ รวมทั้งจังหวะก็ยังทำให้ตกใจได้อยู่หลายครั้ง ส่วนการเล่าเรื่องของหนังนั้น ใช้หลายวิธีการมาก ๆ และเมื่อ ผกก. เป็น Youtuber มาก่อน ย่อมไม่ทิ้งลาย เพราะใส่มาทั้งภาพ Footage, Video Clip, การสัมภาษณ์เชิงสืบสวนสอบสวน ฯลฯ
ส่วนที่ไม่ชอบก็คือ ต้องบอกตรง ๆ ว่าหนังยังขาดการเชื่อมต่อที่ดี และมีบทที่ยังไม่สมูธเท่าไหร่ เทคนิคการเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่ ผกก. ใส่มามากมายนั้น ไม่ได้ช่วยให้หนังสนุกขึ้น แต่ยิ่งกลับทำให้หนังน่าเบื่ออีกต่างหาก เพราะทุกอย่างเหมือนจะถูกดำเนินเรื่องไป หรือเฉลยด้วยคำพูดเกือบทั้งหมด คล้ายมานั่งฟังคนเล่าเรื่องลึกลับลี้ลับให้ฟัง สลับกับฉาก Jump Scare ให้ตกใจเล่น
ปมต่าง ๆ ที่มาที่ไปของเรื่องก็ถูกเฉลยอย่างง่ายดาย แถมยังจบได้แบบขวานฝ่าซากอีกต่างหาก แบบห๊ะ! จบแล้วเหรอ จะเอาแบบนี้เลยหรอ จะพลิกกันง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอ 555 บอกเลยว่าหนังสั้นมากครับ แถม Plot Hole ก็มีเต็มไปหมด การเปิดตัวละครสำคัญก็ง้ายง่าย ตัวละครหลายตัวเปิดมา แล้วก็ถูกโยนทิ้งไปง่าย ๆ ที่มาที่ไปของเรื่องก็ไม่เคลียร์ คือ รู้ว่าใครทำอะไร แต่แรงจูงใจ หรือปมเหตุที่ต้องการทำสิ่งเลวร้ายลึก ๆ นั้นไม่ถูกเคลียร์ การเฉลยจุดสำคัญก็ใช้การย้อนภาพ หรือคำบอกเล่าที่ผ่านมาแล้ว แล้วก็พลิกบทแบบง่าย ๆ เกินไป
สรุป เป็นหนังที่ดูได้ แต่ถ้าไม่ดูก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ถือว่าพลาดอะไร ยอมรับว่าหนังมาตรฐานต่ำกว่าที่ผมคาดเอาไว้ งานนี้หนังของ 2 พี่น้องกินขาดครับ ทำดีกว่าเยอะ
ใครได้ไปดูมาแล้วบ้าง คิดเห็นอย่างไรมาแชร์กันได้นะครับ
Shelby Oaks คลิปเฮี้ยน คดีหลอน.. ใครไปดูมาแล้วบ้าง ชอบ ไม่ชอบ อย่างไรกันบ้างครับ
หนังเรื่องนี้กำกับโดย Chris Stuckman ผู้ซึ่งเป็น Youtuber และ Content Creator ชื่อดังชาวอเมริกัน วัย 37 ปี เขาเป็นคนแรก ๆ ที่ทำช่องเกี่ยวกับการวิจารณ์หนัง และปัจจุบันก็มีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน พอกล่าวถึง Youtuber ที่ออกมาเป็นผู้กำกับหนัง ก็อดไม่ได้ที่จะนำไปเปรียบเทียบกับ 2 พี่น้อง Danny และ Michael Philippou ที่มีผลงานโดดเด่นอย่างเรื่อง Talk to Me (2022) และ Bring Her Back (2025) ที่เข้าฉายเมื่อกลางปี โดยเฉพาะเรื่องหลัง ที่ผมยกให้เป็น 1 ในหนังสยองขวัญแห่งปีในปีนี้เลยทีเดียว
จากหน้าหนังในตอนแรก ผมคิดไปถึงเรื่อง The Blair Witch Project (1999) ที่ถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่ในเวลานั้น คือ การนำเสนอหนังในเชิง Reality เก็บภาพจาก Footage มาเรียงร้อยเหตุการณ์เสมือนจริง ก็เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าสนใจมาก น่าจะทำออกมาดีคล้าย ๆ กัน คาดหวังไว้สูงเหมือนกันครับ บอกตามตรง
หนังพูดถึงเรื่องราวของ Content Creator สาว Riley Brennan กับเพื่อน ๆ ทีมงานของเธอ ที่ร่วมกันทำช่องเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ และทั้งหมดได้หายตัวไปในปี ค.ศ.2008 ภายหลังจากที่ทั้งหมดได้เดินทางไปยังเรือนจำที่มีเรื่องราวลี้ลับแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกปิดตัวลงหลังการล่มสลายของเมือง Shelby Oaks เมืองเล็ก ๆ ในรัฐ Ohio ที่กลายเป็นเมืองร้างในเวลาต่อ ผู้คนพากันอพยพออกจากตัวเมือง หลังเกิดเหตุการณ์ประหลาด ๆ หลายอย่าง
ต่อมาได้มีการพบศพทีมงานทั้งหมดของเธอ แต่ตัวของ Riley ยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในขณะเดียวกัน Mia พี่สาวของเธอ ก็ไม่เคยละความพยายามในการตามหาตัวเธอ จนเวลาผ่านไปกว่า 12 ปี และแล้ววันหนึ่งการปรากฎตัวขึ้นของ Wilson Miles ชายลึกลับที่เคยเป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำของเมือง Shelby Oaks ที่มาพร้อมกับเทปลับที่จะเปิดเผยเรื่องราวของ Riley และการหายตัวไปของเธอให้ปรากฎ
สิ่งที่ชอบหลังจากดูหนังแล้วก็คือ คงเป็นฉาก Jump Scare อ่ะครับ เพราะถึงแม้พอจะเดาทางได้ แต่รูปแบบ รวมทั้งจังหวะก็ยังทำให้ตกใจได้อยู่หลายครั้ง ส่วนการเล่าเรื่องของหนังนั้น ใช้หลายวิธีการมาก ๆ และเมื่อ ผกก. เป็น Youtuber มาก่อน ย่อมไม่ทิ้งลาย เพราะใส่มาทั้งภาพ Footage, Video Clip, การสัมภาษณ์เชิงสืบสวนสอบสวน ฯลฯ
ส่วนที่ไม่ชอบก็คือ ต้องบอกตรง ๆ ว่าหนังยังขาดการเชื่อมต่อที่ดี และมีบทที่ยังไม่สมูธเท่าไหร่ เทคนิคการเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่ ผกก. ใส่มามากมายนั้น ไม่ได้ช่วยให้หนังสนุกขึ้น แต่ยิ่งกลับทำให้หนังน่าเบื่ออีกต่างหาก เพราะทุกอย่างเหมือนจะถูกดำเนินเรื่องไป หรือเฉลยด้วยคำพูดเกือบทั้งหมด คล้ายมานั่งฟังคนเล่าเรื่องลึกลับลี้ลับให้ฟัง สลับกับฉาก Jump Scare ให้ตกใจเล่น
ปมต่าง ๆ ที่มาที่ไปของเรื่องก็ถูกเฉลยอย่างง่ายดาย แถมยังจบได้แบบขวานฝ่าซากอีกต่างหาก แบบห๊ะ! จบแล้วเหรอ จะเอาแบบนี้เลยหรอ จะพลิกกันง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอ 555 บอกเลยว่าหนังสั้นมากครับ แถม Plot Hole ก็มีเต็มไปหมด การเปิดตัวละครสำคัญก็ง้ายง่าย ตัวละครหลายตัวเปิดมา แล้วก็ถูกโยนทิ้งไปง่าย ๆ ที่มาที่ไปของเรื่องก็ไม่เคลียร์ คือ รู้ว่าใครทำอะไร แต่แรงจูงใจ หรือปมเหตุที่ต้องการทำสิ่งเลวร้ายลึก ๆ นั้นไม่ถูกเคลียร์ การเฉลยจุดสำคัญก็ใช้การย้อนภาพ หรือคำบอกเล่าที่ผ่านมาแล้ว แล้วก็พลิกบทแบบง่าย ๆ เกินไป
สรุป เป็นหนังที่ดูได้ แต่ถ้าไม่ดูก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ถือว่าพลาดอะไร ยอมรับว่าหนังมาตรฐานต่ำกว่าที่ผมคาดเอาไว้ งานนี้หนังของ 2 พี่น้องกินขาดครับ ทำดีกว่าเยอะ
ใครได้ไปดูมาแล้วบ้าง คิดเห็นอย่างไรมาแชร์กันได้นะครับ