JJNY : ณัฐพงษ์ร่วม TIME 100 NEXT│ ส.ส.ปชน.ปูดอีก โควต้าหวยทหารผ่านศึก│พ่อทหารกล้าสะอื้น│อากาศแปรปรวนในไทย ถึงวันที่ 2พ.ย

ณัฐพงษ์ ร่วมกาลาดินเนอร์ TIME 100 NEXT นิวยอร์ก ร่วมพูดแลกเปลี่ยนบุคคลสำคัญ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5436504
.

.
ณัฐพงษ์ ร่วมกาลาดินเนอร์ TIME 100 NEXT นิวยอร์ก ร่วมพูดแลกเปลี่ยนบุคคลสำคัญ
.
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ตามเวลาในท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางไปร่วมงาน Gala The World’s Most Influential Rising Stars  นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามที่ได้รับเชิญและถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน TIME 100 Next ประจำปี 2025 ในหมวด Leader จากบทความของ TIME ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ในด้านการปฏิรูปโครงสร้างของการเมืองไทย ปลดล็อกเศรษฐกิจ และคืนความยุติธรรมให้สังคมไทย เพื่อให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย
.
โดยภายในงาน นายณัฐพงษ์ ยังได้พบปะพูดคุยกับบุคคลสำคัญที่มาร่วมงาน อย่างเช่น Irfaan Ali – ประธานาธิบดีคนที่ 10 และคนปัจจุบันของประเทศกายอานา, Jonathan Bailey นักแสดงชาวอังกฤษ , Maggie Kang ผู้กำกับภาพยนตร์ KPop Demon Hunters ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบน Netflix Original, Ayana Johnson นักชีววิทยาทางทะเลผู้เรียกร้อง Climate Action, Emi Mahoud – UNHCR Goodwill Ambassador – ผู้อุทิศชีวิตให้กับการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ Dafur ในซูดาน, รวมไปถึงผู้ทรงอิทธิพลในวงการอื่น ๆ ทั้งสถาปนิก ร้านอาหาร นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว เป็นต้น
.
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนรู้สึกประทับใจในสุนทรพจน์ของ Ayana ที่เธอกล่าวในงานว่า “ฉันถูกขอให้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับ ‘ความหวัง’ ในงานวันนี้ แต่ฉันทำงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในปี 2024 เป็นปีที่โลกร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ, ช่างหัวความหวังมัน อะไรคือกลยุทธ์? [F*ck the Hope, What’s the Strategy?]
.
โดยเธอยังร้องขอให้ผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่ในงาน ควรเป็นแบบอย่างในการช่วยกันต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนี้ต่อไป ยกตัวอย่างเช่น การเป็นแบบอย่างในการตัดสินใจในการใช้เงินในกระเป๋าทุกดอลลาร์ของคุณ ไปกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่รักษ์โลก พร้อมกับการยกตัวอย่างการหันมาบริโภคเนื้อสัตว์ Plant-based เป็นต้น ฯลฯ
.
นายณัฐพงษ์ได้เล่าต่อว่า “ประโยคแรกที่เธอถามผมหลังที่เราแนะนำตัวกันก็คือ อะไรคือสิ่งที่พวกคุณกำลังทำในประเทศไทย เพื่อช่วยการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ?” ซึ่งณัฐพงษ์ตอบไปว่าคือเรื่อง “พลังงานสะอาด” ที่ตนกำลังถูกฟ้องร้องโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทยอยู่ 100 ล้านบาทในตอนนี้
.
โดยนายณัฐพงษ์ได้ระบุว่าการมาร่วมงานเลี้ยงมื้อค่ำครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพบปะกับผู้คนที่เป็นผู้นำในหลากหลายด้าน ทั้งนักการเมือง ศิลปิน นักเคลื่อนไหว นักสิ่งแวดล้อม และนักธุรกิจ ผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในกับโลกใบนี้ โดยหวังว่าการพบปะกันในครั้งนี้ จะทำให้มีโอกาสได้ร่วมงานกันกับผู้ที่อยู่ใน TIME 100 NEXT และรวมถึงบุคคลที่ได้รับรางวัลอื่นๆ ของ TIME ในด้านต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต
.
สำหรับ TIME 100 NEXT เป็นการจัดลิสต์ของนิตยสารไทม์ส มีหลากหลายหมวด เช่น ผู้นำ ผู้ที่สร้างปรากฏการณ์ ศิลปิน ผู้สร้างนวัตกรรม ฯลฯ โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมามีคนไทยที่ได้รับการจัดอยู่ในลิสต์นี้แล้ว 8 คน
.

.
ส.ส.ปชน.ปูดอีก โควต้าหวยทหารผ่านศึก กลายเป็นเหมืองทองทุนเทา ถามใครคือยี่ปั๊วใหญ่?https://www.matichon.co.th/politics/news_5436389
.
ส.ส.ปชน. ปูดอีก โควต้าหวยทหารผ่านศึก กลายเป็นเหมืองทองของกลุ่มทุนเทา ถามใครคือยี่ปั๊วใหญ่?
.
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ร.อ.ท.ธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ธนเดช เพ็งสุข – Tanadej Pengsuk ระบุว่า
.
โควต้าหวยสีเทา ใครกันหากินบนคราบเลือดคราบน้ำตา บนความเสียสละของผู้ผ่านศึก 
.
‘โควต้าหวยของทหารผ่านศึก กว่า 1,000,000.- ใบต่องวด กำลังกลายเป็นเหมืองทองของกลุ่มทุนเทา‘ คนที่เคยเสียสละ กลับกลายเป็นเหยื่อในเกมหากินของคนมีอำนาจ
.
ในแต่ละงวด ‘องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก’ ได้รับโควต้าลอตเตอรี่จำนวนมากกว่า 10,000.- เล่มต่องวดจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งเป็น ‘สิทธิประโยชน์เพื่อทหารผ่านศึก’ ผู้ที่เคยอุทิศเลือดเนื้อ ปกป้องแผ่นดิน เพื่อแลกกับความปลอดภัยของแผ่นดิน
.
แต่วันนี้… โควต้าเหล่านั้นกลับไม่ได้อยู่ในมือของทหารผ่านศึกจริงๆ โควต้าของพวกเขาถูกรวบรวมและจัดการบริหารภายใต้หน่วยงานที่ชื่อว่า สำนักงานจัดจำหน่ายสลากกินแบ่งและบุหรี่ ที่แปลสภาพตนเป็น ‘ยี่ปั๊วขนาดใหญ่’ ที่ทุกคนในวงการรู้ดีว่าใครคือผู้ถือสิทธิตัวจริง
วันนี้ผมขอถามว่าโควต้านี้ ‘หลุด’ ไปอยู่ในมือของกลุ่มใด? และเหตุใดเครือข่ายเหล่านั้นถึงได้สิทธิมากมายขนาดนี้? หรือเพราะเบื้องหลังของโควต้านี้ อาจไม่ได้มีแค่ธุรกิจ… แต่อาจมี ‘อำนาจ การเมือง มูลนิธิ หรือ สายสัมพันธ์’ ที่ค้ำจุนกันอยู่
.
ผมขอเรียกร้องให้ ผอ.อผศ เปิดเผย การบริหาร ‘โควต้าหวยของทหารผ่านศึก’ ว่าถูกบริหารจัดการอย่างไร? ใครคือผู้ได้รับสิทธิประมูลเหล่านี้? และมีใครกำลังหากินบนคราบเลือด คราบเหงื่อและน้ำตาของวีรบุรุษของชาติหรือไม่?
.
และขอแสดงความห่วงใย ถึง อผศ. ว่าหน่วยงานท่านกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือ ‘เครือข่ายเทา’ ที่กำลังเติบโตบนความไม่โปร่งใส และใช้ชื่อของผู้เสียสละเป็นเครื่องมือหากิน เบื้องหน้าอ้างคุณงามความดีของทหารผ่านศึก แต่เบื้องหลัง… กำลังกินส่วนต่างจากเหงื่อและน้ำตาของวีรบุรุษชาติ
นอกจากนี้ ร.อ.ท.ธนเดช ยังได้โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ได้รับโควต้าสลาก จาก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมแล้ว 10,988.- เล่ม ต่องวด หรือเท่ากับ 1,098,800.- ใบต่องวด “รวม 26,371,200.- ใบต่อปี”
.
โดยแบ่งโควต้าการบริหารออกเป็น 2 ส่วน
.
• ส่วนที่ 1 ให้กับ สมาคมทหารผ่านศึกพิการแห่งประเทศไทย จำนวน 4,235.- เล่ม หรือ 423,500.- ใบ ต่องวด
• ส่วนที่ 2 จัดสรร ให้กับ สำนักงานจำหน่ายสลากกินแบ่งและบุหรี่ อผศ. (จสบ.) บริหารจัดการ จำนวน 6,735.- เล่ม หรือ 673,500.- ใบต่องวด
.
โดยมีการปันผลรายได้ให้กับทหารผ่านศึก ดังนี้
.
– บัตรชั้น 1 ที่พิการทุพลลภาพ จำนวน 2,848 รายปีละ 13,700.- บาท/ปี (รวมเป็นเงิน 39,017,600.-)
– สามี หรือภรรยา ครอบครัว บัตรชั้น1 จำนวน 2,882 ราย ปีละ 3,000.- บาท/ปี (รวมเป็นเงิน 8,646,000.-)
– สามีหรือภรรยาของทหารผ่านศึกที่พิการและเสียชีวิตภายหลัง จำนวน 981 ราย ปีละ 2,500 บาท/ปี
(รวมเป็นเงิน 2,452,500.-)
– ทหารผ่านศึกบัตรชั้น 2,3,4 ที่พิการทุพลภาพจำนวน 3,460 ราย ปีละ 2,000.- บาท/ปี
(รวมเป็นเงิน 6,920,000.-)
รวม 57,036,100 บาท ต่อปี เมื่อนำมาหารกับจำนวนฉลากต่อปีที่ได้รับ เฉลี่ยแล้ว 1 คนจะได้ปันผล อยู่ที่ใบละ “2.1 บาท ต่อคน”
.
โดยที่ต้นทุนฉลากที่ได้รับโควต้ามาอยู่ที่ ใบละ 70.4 บาท คำถามคือ
.
1. อผศ. ขายต่อให้ผู้ที่ได้รับโควต้าต่อ ใบละเท่าไร
2. ใครเป็นคนได้โควต้า หวยก้อนใหญ่นี้ กี่เจ้าที่ได้ไป
3. การบริหารจัดการรายได้จากการขายสลากนี้ เป็นยังไง นี่คือคำถาม ที่ผู้ผ่านศึกทุกคน และประชาชนควรจะได้รับรู้ ถึงความจริงใจในการดูแล ผู้เสียสละของชาติบ้านเมือง
.
ผมจะเร่งทำหนังสือสอบถามและติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อผู้ผ่านศึกทุกคน เพื่อประโยชน์ของผู้เสียสละเพื่อแผ่นดิน อย่าให้กลุ่มทุนเทามาหากินบนความลำบากของผู้ผ่านศึก
.
https://www.facebook.com/TanadejP/posts/pfbid01BvXcMCBREx4XihwEL3R1xfxjnmNM9QzQfXbUCLBpW6zj1Jd5iejda1jX1Hqkhaul
.

.
พ่อทหารกล้าสะอื้น ลั่นถ้าต้องเสีย “ปราสาทตาควาย”ให้ “กัมพูชา” เท่ากับลูกชายที่สละชีพปกป้องแผ่นดินไทยต้องตายฟรี
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีกระแสว่าไทยอาจต้องเสียดินแดนที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรักษ์ จ.สุรินทร์ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ลงนามสันติภาพถอนกำลังร่วมกับกัมพูชา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหมู่ 8 บ้านลือ ต.ลือ อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นบ้านของ ส.อ.กฤษฎา น้อยโคตร หนึ่งใน 6 พลทหารซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทย บริเวณปราสาทตาควาย จนถูกระเบิดเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน พบกับนายเสพสรรค์ อายุ 55 ปี พ่อของ ส.อ.กฤษฎา กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า
.
จากกรณีที่มีข่าวว่า ไทยต้องเสียดินแดนบริเวณปราสาทตาควายให้กับเขมรนั้น รู้สึกจุกในอก เสียใจ จนพูดไม่ออกเลย เพราะทหารที่สละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ในพื้นที่ปราสาทตาควายและบริเวณอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่ทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ยอมเสียสละแม้กระทั่งของชีวิต กลับกลายต้องมาสูญเปล่า ถ้าผู้นำยอมเสียดินแดนจริง ส่วนตัวผมไม่ยอมแน่ ในฐานะคนไทยคนหนึ่งจะไม่ยอมเสียดินแดนไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง อย่าให้ทหารต้องตายฟรีเลย
.
ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดตนเองและครอบครัวก็ได้ขึ้นไปบริเวณปราสาทตาควายเพื่อทำพิธีเชิญวิญญาณลูกชายกลับบ้าน ก็เห็นว่าบริเวณปราสาทตาควาย ทหารไทยก็คุมพื้นที่อยู่ และเป็นอธิปไตยของไทย ไม่อยากเชื่อว่าไทยจะต้องสูญเสีย นายเสกสรรค์ กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่