เขียนและทำความเข้าใจ python กับน้องสตังค์ ep.2 - คำสั่ง print(), ตัวแปร, ชนิดข้อมูลต่างๆ

สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วนะครับกับบทความจาก สตังค์ ชวนเขียนโค้ด สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน ep.1 ผมจะแปะลิงค์ไว้ตรงนี้นะครับ ep.1 จะเขียนเรื่องการตั้งค่า Google Colab https://m.pantip.com/topic/43768559 ผมขอแนะนำตัสอีกครั้งนะครับผมชื่อ สตังค์ อายุ 11 ขวบ ( ที่ไม่ได้ลงเดือนหนึ่งเพราะว่าติดธุระนิดหน่อยครับ เพี้ยนจุดจุดจุด ) วันนี้จะพี่ๆไปรู้จะกับ คำสั่ง print() ตัวแปรและชนิดข้อมูลต่างๆ ในภาษา Python ครับ เมื่อ ep ที่แล้วเราได้ใช้คำสั่ง
print("นี่โค้ด python ครับ")
ไปแล้วใช่ไหมครับพี่ๆอาจสงสัยว่า print() คืออะไรวันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังครับ

print คืออะไร?

print คือคำสั่งสำหรับแสดงผลข้อมูลออกมาครับและยังสามารถใช้เป็น log (บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ) ได้ด้วยครับซึ่งผมขออธิบายก่อนว่าถ้าจะแสดงผลข้อความต้องมี ' ' หรือ " " และข้อมูลข้างในจะเป็นข้อความหรือถ้าตัวเลขก็เติมลงไปได้เลยครับเดี๋ยวผมจะอธิบายเรื่องชนิดข้อมูลอีกทีครับ
และยังมีความสามารถที่น่าสนใจอีก 1 อย่างคือการใช้ + หรือ , ในการต่อข้อความด้วยกันเช่นแบบนี้ครับ ซึ่ง , จะทำให้เกิดช่องว่าง แต่ + จะไม่ทำให้เกิดช่องว่าง
print("สวัสดีครับ" + "ผมชื่อ" , "สตังค์")
แต่ถ้าต่อกับตัวเลขจะ error ทันทีครับ แบบนี้:
print("ผมอายุ", 11 , "ขวบ")
วิธีแก้คือต้องแปลงตัวเลขเป็นข้อความด้วยการให้ตัวเลขอยู่ใน ' ' หรือ " " ครับ เช่น
print("ผมอายุ", "11" , "ขวบ")
เรายังสามารถใช้ /n เพื่อขึ้นบรรทัดใหม่ได้ครับเช่น
print("สวัสดีครับ", "\n", "ผมอายุ 11 ขวบ")
แล้วพี่ๆเคยสงสัยไหมครับว่าสมมุติว่าโปรแกรมเมอร์คนอื่นมาดูโค้ดของเราเขาจะเข้าใจได้ยังไง?

Comments ใน Python

โปรแกรมเมอร์คนอื่นเขาจะเข้าใจด้วยคำอธิบายที่เราให้ไว้ครับโดยคำอธิบายใช้ # นำหน้าและจะทำให้ทุกสิ่งที่อยู่หลัง # จะเป็นคำอธิบายและไม่ถูกประมวลผลโดย Python ครับเช่น
print("สวัสดีครับ")​
#ผลลัพธ์ : สวัสดีครับ
และยังมีคำอธิบายอีกรูปแบบหนึ่งที่ยาวหลายบรรทัดได้โดยทุกสิ่งที่อยู่ใน " " "  ไปจนถึง " " " อีกอันคือคำอธิบายทั้งหมดครับเช่น
print​("สวัสดี" + "ครับ")
"""
print ใช้สำหรับแสดงผลข้อมูลส่วน + ใช้ต่อข้อความแบบไม่มีช่องว่างเพิ่ม ส่วน , จะมีช่องว่างเพิ่ม
ผลลัพธ์ : สวัสดีครับ​
"""
( ในบางสภาพแวดล้อมเช่น google colab อาจแสดงผลคำอธิบายแบบ """ """ ด้วยครับ แต่หากเมื่อเขียนบนไฟล์ .py จริงๆมันจะไม่ถูกแสดงผลครับ )
print("อีก", "21","วัน","จะถึงวันเกิดของคุณ")
#ผลลัพธ์ : อีก 21 วัน จะถึงวันเกิดของคุณ
นี่คือโปรแกรมที่แสดงผลว่าอีกกี่วันจะถึงวันเกิดครับแต่เพื่อนๆสงสัยไหมครับว่าถ้ากว่าจะถึงวันเกิดเราก็อีก 364 วัน จะทำยังไงคือการเขียนแบบนี้นอกจากจะทำให้เราต้องเขียนโค้ดเยอะมากแล้วยังทำให้เราต้องเขียนโค้ดทุกวันด้วยครับดังนั้นเราจึงใช้

ตัวแปร

ตัวแปรเปรียบเสมือนกล่องที่มีป้ายชื่อที่เราตั้งเองและข้างในนั้นมีข้อมูลที่เราต้องการ การที่เราจะใช้แค่บอกโปรแกรมด้วยชื่อของกล่องมันก็จะดูว่าข้างในคืออะไร โดยตัวแปรกำหนดแบบนี้ครับ
day = 21
โดยหลักการตั้งชื่อของตัวแปรคือ
ชื่อห้ามเริ่มต้นด้วยตัวเลข
ชื่อตัวแปรสามารถมี ตัวเลข และ _ ได้
ชื่อตัวแปรห้ามเว้นวรรค
ชื่อตัวแปรห้ามมีสัญลักษณ์พิเศษ นอกเหนือไปจาก _
ชื่อตัวแปรห้ามใช้คำสงวนของ Python ( สามารถเช็คว่าคำสงวนของ Python เวอร์ชั่นนั้นคืออะไร โดย
import keyword

print(keyword.kwlist)
)
( ไม่บังคับ ) ชื่อตัวแปรควรมีความหมาย
ตัวแปรยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น
day = 364
day = ​21
วิธีเรียกตัวแปร :
day = 21
print(day)
#หรือ
print("เหลืออีก", day, "วัน")
ตัวพิมพ์เล็ก, ใหญ่ มีความแตกต่าง
day = 21
print(Day)​
#error
ในตัวอย่างของโปรแกรมนับวันเกิดของเรานั้น
เราสามารถ:
day = 364​
print("อีก", day,"วัน","จะถึงวันเกิดของคุณ")
day = 21
​print("อีก", day,"วัน","จะถึงวันเกิดของคุณ")
และเราควรใส่ใจเรื่องชนิดข้อมูลไม่เช่นนั้นอาจส่งผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดออกมาได้ครับเช่น:
a = 57
b = 78
print(a + b)​
#ผลลัพธ์ :​ 135
เอ... ว่าแต่พี่ๆอาจสงสัยว่าชนิดข้อมูลคืออะไรใช่ไหมครับเดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังครับ

ชนิดข้อมูลพื้นฐาน

ชนิดข้อมูลนั้นเปรียบเสมือนสีของกล่องตัวแปรที่กำหนดว่าสีนั้นสำหรับข้อมูลชนิดไหนเพื่อให้ข้อมูลถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ เช่น สีแดง สำหรับ ตัวเลข แล้วหากเราระบุสีผิดโปรแกรมจะทำงานไม่ได้ทันทีหรือดำเนินการกับของที่ได้มาไม่ตรงกับจุดประสงค์ของเรา โดยชนิดข้อมูลมีดังนี้ครับ

1. String หรือ str
String เป็นหนึ่งในชนิดข้อมูลที่เราใช้บ่อยครับ
เพราะมันครอบคลุมข้อความทั้งหมดวิธีเรียกใช้ก็ง่ายมากครับเพียงแค่เติม " " หรือ ' ' ไว้ข้างหน้าข้อมูลที่อยู่ในนั้นก็กลายเป็น String และมีความสามาถที่น่าสนใจนั่นก็คือ
1.1 ใช้ + ต่อข้อความ
       การใช้ + ต่อข้อความจะไม่มีช่องว่างระหว่าง
       ข้อความหากต้องการ              
       ช่องว่างให้เติม " " ลงไปครับ
1.2 ใช้ """ """ หรือ ''' ''' สำหรับข้อความหลายบรรทัดเช่น
message = """สวัสดีครับ
ผมชื่อสตังค์
"""
print(message)
#ผลลัพธ์ : สวัสดีครับ
#        ผมชื่อสตังค์
2. Integer หรือ int
Integer ก็เป็นหนึ่งในชนิดข้อมูลที่สำคัญที่สุดเหมือนกันครับเพราะมันครอบคลุมจำนวนเต็มทั้งหมด และมีความสามารถที่น่าสนใจดังนี้ครับ
2.1 ตัวดำเนินการ
       Integer สามารถคำนวนโดยใช้ตัวดำเนินการทาง
       คณิตศาสตร์ได้ครับเช่น :
a = 3 + 2
print(a)​
# + ก็ตรงตัวเลยครับ มันใช้ในการบวก
# a จะเท่ากับ 5
b = -9 - 7
print(b)​
# - ก็ตรงตัวเหมือนกันครับ มันใช้ในการลบ
# Integer สามารถมีค่าเป็นเลขติดลบได้
# b จะเท่ากับ -16
c = 2 * 5
print(c)​
# * คือการคูณครับ
# c จะเท่ากับ 10
d = 9 // 8
print(d)​
# // คือการหารแบบปัดเศษครับ
# เพราะหากหารทั่วไปค่าที่ได้อาจเป็นทศนิยม
# d = 1
3. Float หรือ float
Float สำคัญมากสำหรับเลขทศนิยมหรือค่าที่ต้องการความแม่นยำสูงเช่นน้ำหนัก, อุณหภูมิ และครอบคลุมเลขทศนิยมทั้งหมดและต่อให้เราบวก ลบ คูณ หารมันจนเป็นจำนวนเต็มได้แต่หากไม่แปลงเป็นตัวเลขมันจะยังคงเป็นทศนิยมเช่น 3.0 และ Float มีความสามารถที่น่าสนใจดังนี้
3.1 ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์
       ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ทั้งหมดใน Integer
       สามารถใช้ใน Float ได้และยังสามารถใช้การหาร
       แบบไม่ปัดเศษได้เช่น :
a = 9 / 8
# / คือการหารแบบไม่ปัดเศษ
# a จะเท่ากับ 1.125
print(a)
4. Boolean หรือ bool
Boolean สำคัญมากสำหรับค่าจริงเท็จเช่นการตั้งค่า
ต่างๆ โดย Boolean มีแค่ 2 ค่าเท่านั้นคือ True และ
False โดย Boolean มีความสามารถที่น่าสนใจดังนี้
4.1 Boolean จากการเปรียบเทียบ
       เราสามารถใช้ Boolean เปรียบเทียบค่าต่างๆได้
       เช่น
a = 2
b = 3
c = a > b #a มากกว่า b, False
d = a < b #b มากกว่า a, True
e = a == b #a เท่ากับ b, False
f = a != b #a ไม่เท่ากับ b, True
print(c, d, e, f)
4.2 แปลงค่าให้กลายเป็น Boolean
       เราสามารถแปลงเลข, ข้อความให้เป็น Boolean ได้
       เช่นเลข 1 กลายเป็น True ส่วนเลข 0 กลายเป็น
       False เช่น
a = (bool(1))      # True
b = (bool(0))      # False
c = (bool("Hi"))   # True (มีข้อความ)
d = (bool(""))    # False (ไม่มีข้อความ)
print(a, b, c, d)​
เป็นอย่างไรบ้างครับกับบทเรียนที่ผมนำมาฝากในวันนี้? สำหรับวันนี้ ขอตัวก่อนครับ สวัสดีครับเพี้ยนสวัสดี
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่