เจ้าบ้าน ทำสัญญากับ บริษัท M แห่งหนึ่ง
โดยเป็นสัญญาก่อสร้างบ้านพักอาศัย
ในสัญญา ไม่ได้ให้แบบบ้าน ไม่ให้ BOQ
และ มีการแบ่งงวดไม่ได้สัดส่วน 
รวมถึงขัดต่อกฎหมาย ประกาศ สคบ 13 ข้อ
( คุ้นๆใช่มั้ย เออ คุ้นแหละ แอดก็คุ้น แต่พูดได้แค่นี้ )
-
เมื่อเริ่มลงมือสร้างบ้าน เจ้าบ้านจ่ายงวด 1 ตามสัญญา
แต่ เกิดปัญหาเมื่อต้องจ่ายงวดต่อๆไป
เพราะ เจ้าบ้าน กู้ธนาคารมาสร้างบ้าน
งวดของ ธนาคารนั้น ไม่ตรงกับงวดของ บริษัท M
-
เจ้าบ้าน ได้แจ้งกับ M เรื่องงวดที่ไม่ตรงกับธนาคารแล้ว
ทาง ผู้จัดการสาขาของ M แจ้งว่า ไม่เป็นไร
เพราะสุดท้ายแล้ว บริษัท ยังจะได้เงินครบตามสัญญา
โดยจะทำเรื่องขอ ให้บริษัท ช่วยออกเงินแต่ละงวดให้ก่อน
???????
ความจริงแล้ว การเบิกงวดของ M นั้น เป็นการเบิกที่ไม่ได้สัดส่วนกับงานอย่างมาก โดย
งวดที่ 1 จำนวน 15% นั้น ก็เบิกกินเปล่าแบบไม่มีเนื้องาน
รวมยอดเบิกงวด 1-5 เสร็จงานโครงสร้าง เบิกรวม 70% ทั้งๆที่มีเนื้องานแค่ 35-40%
การที่เจ้าบ้าน จ่ายเงินตามงวดธนาคารไป แท้จะน้อยกว่าสัญญา ก็ยังมากกว่าเนื้องานที่ได้รับ
แต่ด้วยความไม่รู้ เจ้าบ้านจึงยอมทำสัญญาที่เสียเปรียบนี้ และ ยังต้องมารู้สึกติดหนี้บุญคุณ บริษัท M ที่ออกค่างวดให้เจ้าบ้านก่อน 
-
ปัญหา ก็เกิดที่งวด 5 อีก ( คุ้นอีกแล้วใช่มั้ย ก็นั่นแหละ พูดได้แค่นี้ และ ขอร้องว่ารู้ชื่อ ก็อย่าคอมเมนต์ )
บริษัท ทำงานถึงงวด 5 และ เบิกเงินเจ้าบ้านได้น้อยกว่าสัญญา แต่ ก็มากกว่างานที่ทำไป
แล้วก็เข้าสเตปเดิม ที่ทำกับหลังอื่นๆ เป็นร้อยหลัง คือ เริ่มหยุดงาน ล่าช้า ไม่มีช่างหน้างาน
เจ้าบ้านก็ตามงานที่ล่าช้า
และ บริษัท M ก็ได้ติบว่า จำเป็นต้องหยุดงาน เพราะเจ้าบ้านจ่ายเงินงวดไม่ครบถ้วน !!!!!!
< ไม่ครบตามสัญญา แต่ เงินที่ได้ไป ก็มากกว่าเนื้องานนั่นแหละ >
จากนั้น บริษัทออกหนังสือทวง ระบุว่า เจ้าบ้านผิดสัญญา และขอให้เจ้าบ้าน จ่ายเงินงวดให้ครบถ้วน  โดยจ่ายอีกประมาณ 250,000 บาท จึงจะเริ่มทำงานต่อไป หากไม่จ่าย จะฟ้องเป็นคดี
-
เจ้าบ้านก็ติดต่อ ผจก สาขา ของ M
ว่านี่เกิดอะไรขึ้น ได้รับคำตอบว่า ก็บริษัทออกค่างวดให้ก่อนตามที่แจ้ง ดังนั้น ตอนนี้ เจ้าบ้านต้องจ่ายเงินให้ครบตามสัญญา แล้วจึงจะนำช่างเข้าทำงานต่อได้
เจ้าบ้านก็แย้งว่า งวดธนาคาร แต่ละงวด ได้เงิน มาน้อยกว่า งวดของ บริษัท M อยู่แล้ว แต่สุดท้ายเมื่อ บริษัท M สร้างบ้านเสร็จ เบิกครบทุกงวด ก็จะได้เงินครบถ้วนตามสัญญา
ระหว่างก่อสร้างแต่ละงวด เจ้าบ้านก็ต้องเอาเงินจากธนาคารมา จะหาจากไหนมาให้ได้อีก เพราะงวดแรกก็เอาเงินส่วนตัวที่เตรียมไว้จ่ายให้หมดแล้ว 
ซึ่งรายละเอียดตรงนี้เจ้าบ้านก็คุยกับผู้จัดการสาขาเรียบร้อยตั้งแต่ต้น  ทำไมมีปัญหา
ผู้จัดการ จึงแจ้งต่อเจ้าบ้านว่าช่วยต่อรองกับบริษัทให้ 
โดยให้เจ้าบ้านเซ็นสัญญา รับสภาพหนี้ ที่ติดค้างกับบริษัทอยู่ และจะจ่ายเงินให้ครบถ้วน เมื่อเซ็นสัญญาแล้ว ก็จะขอให้บริษัทนำคนมาทำงานให้
-
เจ้าบ้านยอมเซ็นสัญญา เพราะหวังว่าจะได้ทำงานต่อ และคิดว่าสุดท้ายแล้วเมื่อบ้านเสร็จก็จะจ่ายเงินครบถ้วน ด้วยเงินที่ได้จากธนาคาร
จึงเซ็นสัญญาไป
-
หลังเซ็นสัญญาก็ไม่มีการส่งคนเข้ามาทำงาน
เมื่อ เจ้าบ้าน ติดตามสอบถามเรื่องการทำงาน คราวนี้เป็นทนายใหญ่ ของบริษัท ตอบกลับมาว่า ตามสัญญาที่เซ็นใบนั้น เจ้าบ้านมีหน้าที่จะต้องจ่ายเงินให้ครบถ้วนก่อน “ ตามหนังสือสัญญายอมรับรับสภาพหนี้”  บริษัทจึงจะเข้าไปทำงาน 
หากไม่จ่ายเงินภายใน 30 วัน บริษัทจะฟ้องเจ้าของบ้านในฐานะที่ผิดสัญญา
-
เจ้าบ้านก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว เมื่อครบ 30 วัน ก็ถูกบริษัท M ฟ้องบังคับตามหนังสือรับสภาพหนี้
เมื่อไปขึ้นศาล ก็แพ้คดี เพราะเป็นการฟ้องตามหนังสือที่เซ็นเอาไว้ว่าเจ้าบ้านเป็นผู้ติดหนี้บริษัท M แล้วไม่จ่ายเงิน
สุดท้ายเจ้าบ้าน ถูกทำเรื่องยึดบ้านและที่ดินที่ให้บริษัท M เข้ามาก่อสร้าง เอาไปขายทอดตลาด
-
เรื่องที่เล่านี้ ไม่ใช่เรื่องของเคสเดียว แต่เป็นเรื่องของเจ้าบ้าน 4 หลัง ที่ทำกับบริษัท M โดยอาจจะมีรายละเอียดแตกต่างกันเล็กน้อย
และแอด เชื่อว่าในความเป็นจริงแล้วจะมีจำนวนมากกว่านี้
-
ชาวบ้านทั้ง 4 ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากความไม่รู้ และการเซ็นสัญญาที่ถูกเอาเปรียบเป็นอย่างมาก 
ทำให้ทั้งที่จ่ายเงินสร้างบ้าน และได้งานที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีการเบิกจ่ายเกินกว่าเนื้องานอย่างมาก สุดท้ายก็ยังถูกยึดบ้านและที่ดินนำไปขายทอดตลาดจนหมดเนื้อหมดตัว
-
แอดกำลังพยายามจะหาทางช่วยเจ้าบ้านกลุ่มนี้อยู่ แต่ต้องบอกว่ายากจริงๆ เพราะทั้งสี่คดีที่ทราบมา อยู่ในขั้นตอนของการบังคับคดีแล้ว 
ซึ่งแปลว่าคดี จะรื้อขึ้นมาทำใหม่ได้ยากมาก
-
ที่มาเล่า นอกจากจะให้ทุกๆคนระมัดระวังตัวไว้ อย่าเสียรู้กับเล่ห์เหลี่ยมของบริษัทแบบนี้
แอดยังอยากให้ ผู้เสียหายที่โดนแบบเดียวกัน ติดต่อแอดเข้ามา เพื่อรวบรวมจำนวนผู้เสียหายให้มากขึ้นกว่านี้ แล้วเราจะได้เข้าไปร้องขอความเป็นธรรมกับองค์กรและภาคส่วนต่างๆที่อาจจะช่วยได้
-
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใหญ่มาก 
ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้วอยากจะช่วยเจ้าของบ้าน
ทำได้ง่ายง่ายเพียงแค่แชร์ โพสต์นี้ออกไป
เพื่อการช่วยรวบรวมผู้เสียหายลักษณะเดียวกัน
และเพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดเป็นกระแสขึ้น
ขอขอบคุณทุกคนด้วยครับ
CR 
https://www.facebook.com/share/p/17PKMnFZWw/?mibextid=wwXIfr
 
																															
เจ้าของบ้าน 🏚️ถูกบริษัทแห่งหนึ่ง โดยเป็นสัญญาก่อสร้างรับสร้างบ้านพักอาศัย ฟ้องยึดบ้านและบังคับขายทอดตลาด
โดยเป็นสัญญาก่อสร้างบ้านพักอาศัย
ในสัญญา ไม่ได้ให้แบบบ้าน ไม่ให้ BOQ
และ มีการแบ่งงวดไม่ได้สัดส่วน
รวมถึงขัดต่อกฎหมาย ประกาศ สคบ 13 ข้อ
( คุ้นๆใช่มั้ย เออ คุ้นแหละ แอดก็คุ้น แต่พูดได้แค่นี้ )
-
เมื่อเริ่มลงมือสร้างบ้าน เจ้าบ้านจ่ายงวด 1 ตามสัญญา
แต่ เกิดปัญหาเมื่อต้องจ่ายงวดต่อๆไป
เพราะ เจ้าบ้าน กู้ธนาคารมาสร้างบ้าน
งวดของ ธนาคารนั้น ไม่ตรงกับงวดของ บริษัท M
-
เจ้าบ้าน ได้แจ้งกับ M เรื่องงวดที่ไม่ตรงกับธนาคารแล้ว
ทาง ผู้จัดการสาขาของ M แจ้งว่า ไม่เป็นไร
เพราะสุดท้ายแล้ว บริษัท ยังจะได้เงินครบตามสัญญา
โดยจะทำเรื่องขอ ให้บริษัท ช่วยออกเงินแต่ละงวดให้ก่อน
???????
ความจริงแล้ว การเบิกงวดของ M นั้น เป็นการเบิกที่ไม่ได้สัดส่วนกับงานอย่างมาก โดย
งวดที่ 1 จำนวน 15% นั้น ก็เบิกกินเปล่าแบบไม่มีเนื้องาน
รวมยอดเบิกงวด 1-5 เสร็จงานโครงสร้าง เบิกรวม 70% ทั้งๆที่มีเนื้องานแค่ 35-40%
การที่เจ้าบ้าน จ่ายเงินตามงวดธนาคารไป แท้จะน้อยกว่าสัญญา ก็ยังมากกว่าเนื้องานที่ได้รับ
แต่ด้วยความไม่รู้ เจ้าบ้านจึงยอมทำสัญญาที่เสียเปรียบนี้ และ ยังต้องมารู้สึกติดหนี้บุญคุณ บริษัท M ที่ออกค่างวดให้เจ้าบ้านก่อน
-
ปัญหา ก็เกิดที่งวด 5 อีก ( คุ้นอีกแล้วใช่มั้ย ก็นั่นแหละ พูดได้แค่นี้ และ ขอร้องว่ารู้ชื่อ ก็อย่าคอมเมนต์ )
บริษัท ทำงานถึงงวด 5 และ เบิกเงินเจ้าบ้านได้น้อยกว่าสัญญา แต่ ก็มากกว่างานที่ทำไป
แล้วก็เข้าสเตปเดิม ที่ทำกับหลังอื่นๆ เป็นร้อยหลัง คือ เริ่มหยุดงาน ล่าช้า ไม่มีช่างหน้างาน
เจ้าบ้านก็ตามงานที่ล่าช้า
และ บริษัท M ก็ได้ติบว่า จำเป็นต้องหยุดงาน เพราะเจ้าบ้านจ่ายเงินงวดไม่ครบถ้วน !!!!!!
< ไม่ครบตามสัญญา แต่ เงินที่ได้ไป ก็มากกว่าเนื้องานนั่นแหละ >
จากนั้น บริษัทออกหนังสือทวง ระบุว่า เจ้าบ้านผิดสัญญา และขอให้เจ้าบ้าน จ่ายเงินงวดให้ครบถ้วน โดยจ่ายอีกประมาณ 250,000 บาท จึงจะเริ่มทำงานต่อไป หากไม่จ่าย จะฟ้องเป็นคดี
-
เจ้าบ้านก็ติดต่อ ผจก สาขา ของ M
ว่านี่เกิดอะไรขึ้น ได้รับคำตอบว่า ก็บริษัทออกค่างวดให้ก่อนตามที่แจ้ง ดังนั้น ตอนนี้ เจ้าบ้านต้องจ่ายเงินให้ครบตามสัญญา แล้วจึงจะนำช่างเข้าทำงานต่อได้
เจ้าบ้านก็แย้งว่า งวดธนาคาร แต่ละงวด ได้เงิน มาน้อยกว่า งวดของ บริษัท M อยู่แล้ว แต่สุดท้ายเมื่อ บริษัท M สร้างบ้านเสร็จ เบิกครบทุกงวด ก็จะได้เงินครบถ้วนตามสัญญา
ระหว่างก่อสร้างแต่ละงวด เจ้าบ้านก็ต้องเอาเงินจากธนาคารมา จะหาจากไหนมาให้ได้อีก เพราะงวดแรกก็เอาเงินส่วนตัวที่เตรียมไว้จ่ายให้หมดแล้ว
ซึ่งรายละเอียดตรงนี้เจ้าบ้านก็คุยกับผู้จัดการสาขาเรียบร้อยตั้งแต่ต้น ทำไมมีปัญหา
ผู้จัดการ จึงแจ้งต่อเจ้าบ้านว่าช่วยต่อรองกับบริษัทให้
โดยให้เจ้าบ้านเซ็นสัญญา รับสภาพหนี้ ที่ติดค้างกับบริษัทอยู่ และจะจ่ายเงินให้ครบถ้วน เมื่อเซ็นสัญญาแล้ว ก็จะขอให้บริษัทนำคนมาทำงานให้
-
เจ้าบ้านยอมเซ็นสัญญา เพราะหวังว่าจะได้ทำงานต่อ และคิดว่าสุดท้ายแล้วเมื่อบ้านเสร็จก็จะจ่ายเงินครบถ้วน ด้วยเงินที่ได้จากธนาคาร
จึงเซ็นสัญญาไป
-
หลังเซ็นสัญญาก็ไม่มีการส่งคนเข้ามาทำงาน
เมื่อ เจ้าบ้าน ติดตามสอบถามเรื่องการทำงาน คราวนี้เป็นทนายใหญ่ ของบริษัท ตอบกลับมาว่า ตามสัญญาที่เซ็นใบนั้น เจ้าบ้านมีหน้าที่จะต้องจ่ายเงินให้ครบถ้วนก่อน “ ตามหนังสือสัญญายอมรับรับสภาพหนี้” บริษัทจึงจะเข้าไปทำงาน
หากไม่จ่ายเงินภายใน 30 วัน บริษัทจะฟ้องเจ้าของบ้านในฐานะที่ผิดสัญญา
-
เจ้าบ้านก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว เมื่อครบ 30 วัน ก็ถูกบริษัท M ฟ้องบังคับตามหนังสือรับสภาพหนี้
เมื่อไปขึ้นศาล ก็แพ้คดี เพราะเป็นการฟ้องตามหนังสือที่เซ็นเอาไว้ว่าเจ้าบ้านเป็นผู้ติดหนี้บริษัท M แล้วไม่จ่ายเงิน
สุดท้ายเจ้าบ้าน ถูกทำเรื่องยึดบ้านและที่ดินที่ให้บริษัท M เข้ามาก่อสร้าง เอาไปขายทอดตลาด
-
เรื่องที่เล่านี้ ไม่ใช่เรื่องของเคสเดียว แต่เป็นเรื่องของเจ้าบ้าน 4 หลัง ที่ทำกับบริษัท M โดยอาจจะมีรายละเอียดแตกต่างกันเล็กน้อย
และแอด เชื่อว่าในความเป็นจริงแล้วจะมีจำนวนมากกว่านี้
-
ชาวบ้านทั้ง 4 ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากความไม่รู้ และการเซ็นสัญญาที่ถูกเอาเปรียบเป็นอย่างมาก
ทำให้ทั้งที่จ่ายเงินสร้างบ้าน และได้งานที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีการเบิกจ่ายเกินกว่าเนื้องานอย่างมาก สุดท้ายก็ยังถูกยึดบ้านและที่ดินนำไปขายทอดตลาดจนหมดเนื้อหมดตัว
-
แอดกำลังพยายามจะหาทางช่วยเจ้าบ้านกลุ่มนี้อยู่ แต่ต้องบอกว่ายากจริงๆ เพราะทั้งสี่คดีที่ทราบมา อยู่ในขั้นตอนของการบังคับคดีแล้ว
ซึ่งแปลว่าคดี จะรื้อขึ้นมาทำใหม่ได้ยากมาก
-
ที่มาเล่า นอกจากจะให้ทุกๆคนระมัดระวังตัวไว้ อย่าเสียรู้กับเล่ห์เหลี่ยมของบริษัทแบบนี้
แอดยังอยากให้ ผู้เสียหายที่โดนแบบเดียวกัน ติดต่อแอดเข้ามา เพื่อรวบรวมจำนวนผู้เสียหายให้มากขึ้นกว่านี้ แล้วเราจะได้เข้าไปร้องขอความเป็นธรรมกับองค์กรและภาคส่วนต่างๆที่อาจจะช่วยได้
-
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใหญ่มาก
ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้วอยากจะช่วยเจ้าของบ้าน
ทำได้ง่ายง่ายเพียงแค่แชร์ โพสต์นี้ออกไป
เพื่อการช่วยรวบรวมผู้เสียหายลักษณะเดียวกัน
และเพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดเป็นกระแสขึ้น
ขอขอบคุณทุกคนด้วยครับ
CR https://www.facebook.com/share/p/17PKMnFZWw/?mibextid=wwXIfr