IPO ระดับประวัติศาสตร์ หลังปรับโครงสร้างใหม่สำเร็จ OpenAI ปลดล็อกข้อจำกัดทำกำไร หาเงิน-พันธมิตร ได้เต็มที่

​ ระดับประวัติศาสตร์ หลังปรับโครงสร้างใหม่สำเร็จ OpenAI ปลดล็อกข้อจำกัดทำกำไร หาเงิน-พันธมิตร ได้เต็มที่  
.
โลกจับตาความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของ OpenAI ที่อาจสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง เมื่อบริษัทประกาศว่าการปรับโครงสร้างองค์กรสู่การเป็น “Public Benefit Corporation (PBC)” หรือ “บริษัทแสวงหากำไรที่มีพันธกิจเพื่อสาธารณะ” ที่เริ่มต้นดำเนินการในปี 2024 เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
.
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการระดมทุนในระดับล้านล้านและอาจนำไปสู่การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 37 ล้านล้านบาท ตามรายงานจาก Reuters ที่อ้างอิงข้อมูลจากบุคคลใกล้ชิดกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะนับเป็นหนึ่งในดีล IPO ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
.
ผลลัพธ์การปรับผังองค์กรครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เปลี่ยนทิศทางของบริษัทเจ้าของ ChatGPT เท่านั้น แต่ยังผลักดันให้มูลค่าตลาดของผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดอย่าง Microsoft ผู้หนุนหลัง OpenAI ในช่วงเริ่มต้น พุ่งทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติใหม่และขึ้นไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Apple และ Nvidia
.
[ จากองค์กรไม่แสวงหากำไร สู่ “กลุ่มบริษัทเชิงพาณิชย์” ที่พร้อมเข้าตลาดหุ้น ]

OpenAI ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ในฐานะ “ห้องปฏิบัติการวิจัยที่ไม่แสวงหาผลกำไร” (Non-profit Research Laboratory) จากกลุ่มบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะแห่งซิลิคอนแวลลีย์ที่มีเป้าหมายใหญ่ คือ การพัฒนา AGI (Artificial General Intelligence) เพื่อมนุษยชาติ โดยมีการตั้งพันธกิจไว้อย่างชัดเจนในการดำเนินการแบบ “องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร”
.
อย่างไรก็ตาม เส้นทางการพัฒนาเรียกร้องเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลที่สร้างแรงกดดันให้ OpenAI ต้องยอมผ่าตัดใหญ่พลิกโครงสร้างบริษัททั้งหมดในปี 2019 ที่ได้ประกาศเปลี่ยนผ่านจากโครงสร้างแบบ “ไม่แสวงหากำไร” ไปสู่การ “แสวงหากำไร” อย่างเต็มตัว
.
ภายใต้โครงสร้างใหม่ที่เริ่มปรับเปลี่ยนในปี 2024 เพื่อเปิดทางให้สามารถระดมทุนและถือหุ้นได้แบบบริษัททั่วไป แต่ยังคงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรไม่แสวงหากำไรเดิม ซึ่งปัจจุบันรีแบรนด์เป็น “OpenAI Foundation”

- OpenAI Foundation ถือหุ้น 26% ของธุรกิจ มูลค่าประมาณ 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Microsoft ยังคงถือหุ้น 27% ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 135,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 10 เท่าของเงินลงทุนที่บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่รายนี้อัดฉีดใน OpenAI ตั้งแต่ปี 2019 จำนวน 13,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
- ส่วนที่เหลือ 47% เป็นของพนักงานและนักลงทุนรายอื่น เช่น SoftBank, Thrive Capital, Andreessen Horowitz, และ Sequoia Capital
.
ขณะที่ Sam Altman ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ยังคงยืนกรานว่า เขาจะไม่ถือหุ้นในบริษัท ภายใต้โครงสร้างใหม่นี้เพื่อรักษาความเป็นกลางทางจริยธรรมขององค์กร พร้อมทั้งกล่าวชัดเจนถึงความเป็นไปได้ในการเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สำหรับ OpenAI เพื่อเปิดช่องทางการหาเงินทุนมหาศาลมาขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่ยังต้องการเงินเพิ่มอีกในระดับหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่