ตะเกียงอาม่า

👻 ตะเกียงอาม่า
(เรื่องจริงจากประสบการณ์นักดนตรียุค 80)
เกือบ 40 ปีก่อน ผมยังเป็นนักศึกษา ปวส. พ่อเพิ่งเสียไป เลยต้องหาเลี้ยงตัวเอง จึงรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ เล่นดนตรีตามบาร์ย่านในเมือง ตอนนั้นอายุประมาณ 19 ปี ชีวิตวัยรุ่น สนุกสนาน และไม่แปลกที่จะมีสาว ๆ มาวนเวียนเพราะอาชีพนักดนตรี
พอมีสาว ๆ มาติดพัน ก็ต้องมีที่พัก แต่สมัยนั้นเพิ่งเริ่มเล่นดนตรี เงินก็ไม่ค่อยมี เพราะต้องเก็บไว้ซื้อเครื่องดนตรี
เพื่อนมือกลองเลยเสนอ…
“ไปพักบ้านแม่ผมแถวห้วยขวางไหม ฟรี!”
บ้านชั้นเดียวในหมู่บ้านจัดสรร ค่อนข้างโทรม ไม่มีคนอยู่ ไฟถูกตัดไปแล้ว
สภาพรอบ ๆ ไม่ค่อยมีคน ทำให้บรรยากาศค่อนข้างเปลี่ยว
พอพาสาว ๆ ไปพัก คืนแรกช่วงโพล้เพล้ ฟ้าวันนั้นแดงฉาน — คนโบราณเรียกว่า “ผีตากผ้าอ้อม” — บรรยากาศวังเวงมาก
มือกลองเจ้าของบ้านหยิบ ตะเกียงเก่า ๆ มาจุดให้พวกเรามีแสงสว่างเล็กน้อย
พวกเรานั่งเล่นหัวเราะ คุยกันเหมือนวัยรุ่น
สองทุ่มกว่า ๆ ก็ออกไปเล่นดนตรีตามปกติ คืนหนึ่งเราเล่นกันหลายบาร์
หลังเล่นดนตรีเสร็จ ถึงเช้า พวกเราพาสาว ๆ กลับมาพักผ่อนในบ้าน
ช่วงเย็นประมาณ 16–17 น. ผมง่วงจัด หลับไป…
แล้วทุกอย่างก็เริ่มขึ้น…
ผมรู้สึกเหมือนมีใครมากดทับ ลุกไม่ขึ้น
พอลืมตา — เห็น หญิงชราจีนในชุดแบบที่คนจีนแก่ ๆ สมัยนั้นใส่กัน เดินวนไปมาอยู่ปลายเท้า
ใบหน้าไม่ชัด แต่ความรู้สึกเราเหมือนได้ยินเค้าบ่นอะไรงึมๆงัมๆ ฟังไม่ออก ด้วยความอึดอัดและความโดนกดทับทั้งตัว
เลยภาวนาในใจบทที่จำได้…
“สัมมาอรหัง… สัมมาอรหัง… สัมมาอรหัง…”
ภาวนาได้สามครั้ง ร่างกายสะดุ้ง ดีดตัวลุกขึ้นได้ทันทีแบบอัตโนมัติ
พอมองไปรอบตัว เพื่อนหันมามองผมด้วยสายตาแปลก ๆ ผมไม่อยากพูดอะไร เดินออกไป บอกเพื่อนว่า “แล้วเจอกันที่บาร์นะ”
วันนั้นก็ไปเล่นดนตรีตามปกติ จบบาร์แรกก็ไปต่ออีกที่ ซึ่งเป็นบาร์ที่สาว ๆ ทำงาน
ระหว่างเล่น ผมเห็นแฟนเพื่อนคนหนึ่งเดินเข้ามายืนหลังเวที หน้าเธอซีด ขาวเหมือนกระดาษ
เธอพูดเสียงเบาแบบสั่นๆ…
“พี่ๆๆๆๆ... ตะเกียงในบ้านเรามัน… มันลอยขึ้นมาเองพี่...”
เท่านั้นแหละ ผมขนลุกนึกถึงเกตุการณ์ตอนเย็นทันที…
พอเล่นเสร็จ เราเลยมานั่งคุยกัน สังเกตเห็นมือกลองทำหน้าครุ่นคิด สักพักเขาก็เฉลยว่า
บ้านหลังนี้แม่เขาซื้อให้อาม่าอยู่
อาม่าเสียชีวิตที่นี่
และตะเกียงที่เอามาจุดให้พวกเรา… ก็เป็น ตะเกียงหน้าศพของอาม่า ที่เก็บไว้หน้ารูปในห้องที่ปิดนั้นหละ
พวกเราจึงถึงบางอ้อ — คิดว่า อาม่าไม่น่าจะพอใจที่พวกเรานำสาว ๆ มามั่วในบ้าน และยังหยิบตะเกียงของเธอไปใช้โดยไม่ได้ขอ
จึงมาแสดงตัวให้เห็นด้วยตัวเอง เพื่อเตือนพวกเรา
ตั้งแต่วันนั้น ผมไม่เคยไปนอนบ้านนั้นอีก
ส่วนเพื่อนมือกลองกับแฟนเขา ก็ยังอยู่บ้านหลังนั้นอีกหลายปี — อาจเพราะเป็นหลานและคงได้จุดธูปขอขมาเรียบร้อย
ตะเกียงเก่า ๆ และหญิงชราจีนจึงกลายเป็น ความทรงจำหลอนตลอดชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่