เคาะแล้ว! ค่าโดยสารใหม่ รถไฟฟ้า สายสีแดง-สายสีม่วง 40 บาทตลอดวัน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 ต.ค. 2568 ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน ครั้งที่ 1/2568
โดยระบุว่า
ที่ประชุมมีการคิดอัตราค่าโดยสารตลอดสายทั้งสายสีม่วง และสายสีแดง ทั้งวัน 40 บาท (แต่ถ้าวิ่งขาเดียว ต้องจ่ายตามความเป็นจริง) สำหรับบุคคลทั่วไป
- นักศึกษาจ่าย 30 บาท
- เด็ก และผู้พิการ ขึ้นรถไฟฟรีเหมือนเดิม
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปี ให้จ่ายครึ่งราคาเหมือนเดิม คือครึ่งหนึ่งของ 40 บาท หรือครึ่งหนึ่งของระยะทางก็ได้
โดยเริ่มวันที่ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
เป็นระยะเวลา 1 ปี
โดยจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง อย่างช้าไม่เกิน 18 พฤศจิกายน ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็จะประกาศใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ทันที
เมื่อถามว่า กังวลกับคะแนนเสียงหรือความนิยมของรัฐบาลหรือไม่ เพราะเริ่มต้นโครงการคือ 20 บาทตลอดสาย แต่รัฐบาลนี้กำหนดราคาในอัตรา 40 บาท
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แต่ก่อนคือเดินทางขาไปอย่างเดียวตลอดสาย 20 บาท แต่หากเปลี่ยนสายจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม
แต่อันนี้คือ 40 บาท ตลอดวันไม่ว่าจะขึ้นกี่รอบก็ตาม
“สมมติผู้ปกครองไปส่งลูกหลานที่โรงเรียนเสร็จเรียบร้อย แล้วเดินทางกลับบ้านในช่วงเช้า ตอนบ่ายท่านเดินทางอีกครั้ง เพื่อรับลูกหลานกลับบ้าน ในวันนั้นท่านเดินทางทั้งสิ้น 4 ครั้ง เท่ากับท่านจ่ายแค่ 40 บาท เซฟค่าใช้จ่ายมากกว่าในอดีตถึง 50% ถือว่าเป็นนโยบายที่ดีกว่าเดิม”
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม หรือ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ผ่านสภาแล้วตั้งแต่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา เราจึงคิดว่าเรื่องตั๋วร่วมน่าจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งภายใน 4 เดือนที่เป็นรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีอยากเห็นเรื่องการใช้ตั๋วร่วมจบให้ได้ ซึ่งเป็นการนำมาต่อยอด และคิดคำนวณใหม่ถึงอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม
โดยให้กระทรวงการคลังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ เพื่อพิจารณาให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเจ้าของรายเดียวจะต้องทำอย่างไร และ หาวิธีการหาเงินอย่างไรที่จะไม่ให้กระทบต่อเพดานหนี้สาธารณะ 70 เปอร์เซ็นต์ และยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมจะไม่ทำให้เรื่องนี้ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะเพิ่มมากขึ้น
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทั้งราง กล่าวว่า สมมติว่าท่านมีธุระมากขึ้น ไม่ว่าท่านจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่เที่ยวก็จ่าย 40 บาท ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ท่านจะออกจากระบบแล้วแต่หากวันนั้นต้องใช้บริการรถไฟฟ้าอีกก็สามารถใช้ได้ แต่มาตรการนี้ต้องใช้ผ่านบัตร EMV เท่านั้น ส่วนบัตรที่ใช้ตามตู้แบบเที่ยวเดียวไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ ในส่วนของงบประมาณที่ต้องนำไปอุดหนุนในโครงการจะใช้น้อยลงจากเดิม เพราะเราจะให้สิทธิ์เฉพาะกลุ่มที่จำเป็น ซึ่งมาตรการนี้ทำเฉพาะกลุ่มที่เดินทางเยอะตลอดวัน เป็นคนหาเช้ากินค่ำคือประชาชนที่ไปทำงานก็จะช่วยลดค่าครองชีพเรื่องการเดินทางได้เยอะ
เมื่อถามว่า นโยบาย 40 บาทตลอดสายทั้งวันจะต้องขอเงินจากรัฐบาลเพิ่มหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า ไม่ต้อง เพราะทั้งทั้งสองโครงการรัฐเป็นเจ้าของเราจ่ายค่าจ้างเดินรถอยู่แล้ว เพียงแต่มาตรการนี้ถ้าคนมาใช้ยิ่งเยอะยิ่งดี ก็ขอเชิญชวนประชาชนให้มาใช้มาตรการนี้เยอะๆ
ที่มา : ข่าวสด
ค่าโดยสารใหม่ รถไฟฟ้า สายสีแดง-สายสีม่วง 40 บาทตลอดวัน
เคาะแล้ว! ค่าโดยสารใหม่ รถไฟฟ้า สายสีแดง-สายสีม่วง 40 บาทตลอดวัน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 ต.ค. 2568 ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน ครั้งที่ 1/2568
โดยระบุว่า
ที่ประชุมมีการคิดอัตราค่าโดยสารตลอดสายทั้งสายสีม่วง และสายสีแดง ทั้งวัน 40 บาท (แต่ถ้าวิ่งขาเดียว ต้องจ่ายตามความเป็นจริง) สำหรับบุคคลทั่วไป
- นักศึกษาจ่าย 30 บาท
- เด็ก และผู้พิการ ขึ้นรถไฟฟรีเหมือนเดิม
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปี ให้จ่ายครึ่งราคาเหมือนเดิม คือครึ่งหนึ่งของ 40 บาท หรือครึ่งหนึ่งของระยะทางก็ได้
โดยเริ่มวันที่ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
เป็นระยะเวลา 1 ปี
โดยจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง อย่างช้าไม่เกิน 18 พฤศจิกายน ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็จะประกาศใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ทันที
เมื่อถามว่า กังวลกับคะแนนเสียงหรือความนิยมของรัฐบาลหรือไม่ เพราะเริ่มต้นโครงการคือ 20 บาทตลอดสาย แต่รัฐบาลนี้กำหนดราคาในอัตรา 40 บาท
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แต่ก่อนคือเดินทางขาไปอย่างเดียวตลอดสาย 20 บาท แต่หากเปลี่ยนสายจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่อันนี้คือ 40 บาท ตลอดวันไม่ว่าจะขึ้นกี่รอบก็ตาม
“สมมติผู้ปกครองไปส่งลูกหลานที่โรงเรียนเสร็จเรียบร้อย แล้วเดินทางกลับบ้านในช่วงเช้า ตอนบ่ายท่านเดินทางอีกครั้ง เพื่อรับลูกหลานกลับบ้าน ในวันนั้นท่านเดินทางทั้งสิ้น 4 ครั้ง เท่ากับท่านจ่ายแค่ 40 บาท เซฟค่าใช้จ่ายมากกว่าในอดีตถึง 50% ถือว่าเป็นนโยบายที่ดีกว่าเดิม”
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม หรือ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ผ่านสภาแล้วตั้งแต่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา เราจึงคิดว่าเรื่องตั๋วร่วมน่าจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งภายใน 4 เดือนที่เป็นรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีอยากเห็นเรื่องการใช้ตั๋วร่วมจบให้ได้ ซึ่งเป็นการนำมาต่อยอด และคิดคำนวณใหม่ถึงอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม
โดยให้กระทรวงการคลังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ เพื่อพิจารณาให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเจ้าของรายเดียวจะต้องทำอย่างไร และ หาวิธีการหาเงินอย่างไรที่จะไม่ให้กระทบต่อเพดานหนี้สาธารณะ 70 เปอร์เซ็นต์ และยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมจะไม่ทำให้เรื่องนี้ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะเพิ่มมากขึ้น
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทั้งราง กล่าวว่า สมมติว่าท่านมีธุระมากขึ้น ไม่ว่าท่านจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่เที่ยวก็จ่าย 40 บาท ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ท่านจะออกจากระบบแล้วแต่หากวันนั้นต้องใช้บริการรถไฟฟ้าอีกก็สามารถใช้ได้ แต่มาตรการนี้ต้องใช้ผ่านบัตร EMV เท่านั้น ส่วนบัตรที่ใช้ตามตู้แบบเที่ยวเดียวไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ ในส่วนของงบประมาณที่ต้องนำไปอุดหนุนในโครงการจะใช้น้อยลงจากเดิม เพราะเราจะให้สิทธิ์เฉพาะกลุ่มที่จำเป็น ซึ่งมาตรการนี้ทำเฉพาะกลุ่มที่เดินทางเยอะตลอดวัน เป็นคนหาเช้ากินค่ำคือประชาชนที่ไปทำงานก็จะช่วยลดค่าครองชีพเรื่องการเดินทางได้เยอะ
เมื่อถามว่า นโยบาย 40 บาทตลอดสายทั้งวันจะต้องขอเงินจากรัฐบาลเพิ่มหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า ไม่ต้อง เพราะทั้งทั้งสองโครงการรัฐเป็นเจ้าของเราจ่ายค่าจ้างเดินรถอยู่แล้ว เพียงแต่มาตรการนี้ถ้าคนมาใช้ยิ่งเยอะยิ่งดี ก็ขอเชิญชวนประชาชนให้มาใช้มาตรการนี้เยอะๆ
ที่มา : ข่าวสด