1. ทำข้อตกลง ห้ามกัมพูชาปีนขึ้นแนวเขาพนมดงรัก (หรือจะไปเรียบเรียง ลงรายละเอียดให้ดีกว่านี้)
ฝั่งไทยเป็นพื้นที่สูง เข้าถึงแนวเขตสันปันน้ำจากที่ราบ ขึ้นไปจากที่ราบนิดหน่อย แล้วเป็นหน้าผาลงไป ฝั่งไทยจำกัดพื้นที่เป็นเขตอนุรักษ์ เป็นป่า
กัมพูชาเป็นพื้นที่ต่ำกว่า การที่ปีนขึ้นมา เป็นการกระทำที่ยากอยู่แล้ว ต้องการปีนขึ้นมา ยึดพื้นที่เพิ่ม เพื่อลักลอบตัดไม้ หาผลประโยชน์จากการแย่งพื้นที่หรืออย่างไร??? ไม่เคยมีการควบคุมการใช้พื้นที่ทางฝั่งกัมพูชาเอง
ให้เข้าใจง่ายๆ แค่คิดภาพดู ก็รู้แล้วว่า เป็นเจตนาไม่ดีจากกัมพูชา หรือจะใช้คำว่า bad faith ก็ได้ ให้ปรับ-กำจัดชุดความคิดฝ่ายกัมพูชาเรื่องแนวเขตแดน พื้นที่พิพาทไปเลย
ใน ASEAN, APEC, UN รัฐบาลเจรจาทางการฑูตกัน ใช้คำว่า good faith, good gesture, หรือมี good will แต่ไม่เห็นนำมาใช้จริงเลย
น่าจะไปศึกษากรณี มีมาตรการป้องกันอย่างไร??? ที่ประเทศอื่นที่ใช้ หลักการ watershed principle หรือยอดเขาเป็นแนวแบ่งเขตแดน จีน-อินเดีย, ชิลี-อาร์เจนตินา, เปรู-เอกวาดอร์, อิตาลี-สวิตซ์เซอร์แลนด์, อิสราเอลกับเทือกเขาโกลัน
bad faith, intrusion, provocative or semi-aggressive act, act of aggression กัมพูชาผิด ละเมิดทุกลำดับขั้นตอน ทำข้อตกลง ห้ามกัมพูชาปีนขึ้นมาแนวพนมดงรักอีก โผล่ขึ้นมาทหารไทยยิงไล่ ยกระดับ-โจมตีได้เลย
2. เรื่องแผนที่ 1:50000 ไทยทำโดย กรมแผนที่ทหารไทยร่วมมือกับอเมริกา มีความแม่นยำมากกว่า, MOU 43 ใช้สนธิสัญญาเป็นเอกสารอ้างอิง (แผนที่ 1:20000 เป็นแค่ส่วนประกอบ) โดยปกติในทางสากลแล้ว ให้ยึดคำที่ระบุในสนธิสัญญาเป็นหลัก ซึ่งก็คือ watershed principle เป็นหลักการสำคัญ
ฝ่ายไทยยึด แผนที่ 1:50000 ที่ทำโดยความร่วมมือกับอเมริกา ที่ทันสมัย ละเอียดกว่า (ถ้ากัมพูชายกให้อเมริกาเป็นผู้ช่วยไกล่เกลี่ย ก็ควรที่จะเคารพในแผนที่ที่ทางฝ่ายไทยทำร่วมกับอเมริกาเช่นกัน) จากคำตามสนธิสัญญา ซึ่งแผนที่ 1:200000 นั้นเป็นแผนโบราณที่มีแต่ความผิดพลาด ไม่ตรงกับความเป็นจริง
ฝ่ายกัมพูชา อ้างแผนที่ 1:200000 รุกล้ำเข้ามา เพราะกินพื้นที่ขึ้นมาเลยแนวสันปันน้ำได้ มองแต่ในส่วนที่เป็นเส้นขีดที่หยาบกว่า เมื่อมองบนแผนที่ เส้นขีดเลยเข้ามา ถามความจริงว่า กัมพูชา คุณเคยทำสำรวจเพิ่มบ้างไหม ตั้งแต่คุณเพิ่งได้เรียกว่าเป็นประเทศข้ึนมา หรือสนธิสัญญานี้แต่แรกก็ไม่ได้ทำกับคนกัมพูชา??? (ตามประวัติศาสตร์ ก่อนปี 1962 ก็ไม่เคยมีจังหวัดชื่อ Preah Vihear ในกัมพูชา)
ฝ่ายไทยใช้แผนที่ 1:50000 เป็นหลักในส่วนที่เป็นของไทย และควรใช้กลยุทธ์เชิงป้องกัน อ้างขอบเขต 1:200000 ที่เลยลงไปที่ขอบหน้าผาบ้าง เป็นมาตรการเชิงป้องกัน (ถ้าตกลงกันไม่ได้ หรือมีการปะทะกันอีกรอบ ใช้สิทธิ์ลงไปยึดพื้นที่ด้านล่างเป็นมาตรการเชิงป้องกัน)
ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีพิสูจน์ ดีกว่า คำพูด-กล่าวอ้างของ นักการเมืองแย่ๆ (ประเทศไทย หรือประเทศสากลอื่นก็มีการเปลี่ยนผู้นำตามระบบกันไป บางประเทศก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง)
เรียกร้องค่าเสียหายคืนด้วย จากเหตุการปะทะ ถ้าการสำรวจใหม่ด้วย LIDAR โดยยึดแนวสันปันน้ำเป็นหลักการสำคัญ จัดทำแผนที่ใหม่ ทวงคืนปราสาทเขาพระวิหารด้วย (หรือถ้าในกรณที่มีการปะทะอีก ฝ่ายไทยควรใช้มาตรการเชิงป้องกันทางการทหาร ยึดพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารคืน เนื่องจากกัมพูชา นำไปใช้เป็นฐานที่มั่นทหาร ทำฐานซุ่มยิง ผิดในทุกข้อตกลง ไม่ว่าจะเป็นกฏบัตรใด)
และที่สำคัญ ทำข้อตกลง ห้ามกัมพูชาปีนขึ้นแนวเขาพนมดงรัก
3. อยากให้มีการทำประชามติ ‘ปรับลด-ตัดความสัมพันธ์ มาตรการคว่ำบาตรกับกัมพูชา ปิดด่าน ไปจนกว่าจะทำการปักปันเขตแดน-สร้างรั้วกันเสร็จเรียบร้อย’ ให้ประชาชนแสดงเจตจำนง มีผลบังคับใช้ไปเลย แก้ปัญหาในระยะยาวเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องมาทะเลาะเรื่องเขตแดนอีก จะได้ทำการค้าขาย-แลกเปลี่ยนอย่างสบายใจในระยะยาว เจ็บครั้งนี้พอแล้ว เจ็บแล้วต้องจบ มีปัญหามาครั้งนี้ครั้งที่เท่าไหร่???
ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจากพรรคไหน ให้รัฐบาลปรับแผนพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนที่ติดกับกัมพูชา ไม่ใช่ทำการค้าขายชายแดนด้านนี้กับประเทศกัมพูชา เพราะแค่อยู่ติดกัน มีแผนพัฒนาเป็น พื้นที่... (การท่องเที่ยว เกษตร อุตสาหกรรม ระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมต่อกับลาวก็ได้) ให้ประชามติเป็นข้อบังคับ จะใช้เวลาในการทำการปักปันเขตแดนกี่ปีก็ทำไป เมื่อการคืนความสัมพันธ์หลังจากปักปันเขตแดนแล้ว ก็มีสิ่งสร้างไว้แล้วรองรับพื้นที่ไปด้วย
ในอีกมุมก็จะเป็นการบีบทั้งส่วนนักการเมืองไทย และฝ่ายกัมพูชาไปด้วย ให้รีบปักปันเขตแดนให้เรียบร้อย อาจจะทำการสำรวจได้เร็วก็ได้ ให้เชิญประชาชน นักเคลื่อนไหว สื่อไทยเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ไม่มีนอกมีในกัน
4. ปิดด่าน ไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด ด้วยเรื่อง scammer ไทยไม่เปิดด่าน ไม่เป็นทางผ่าน scammer จนกว่าจะลดหรือจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเห็นผล หรือเห็นได้ชัด คิดง่ายๆ ว่า 'ทุกคนในโลกนี้ ที่มีอุปกรณ์ มีโทรศัพท์ใช้ มีใครบ้างที่ไม่เคยโดน การหลอกลวง scammer พวกนี้ติดต่อเข้ามาไม่ทางใดก็ทางนึง???' เป็นภัยที่อยู่ใกล้ตัว ในชีวิตประจำวันมาก
ให้ทางฝั่งไทย ตั้งธงการเจราจาให้สูงไว้ก่อน ก่อนที่จะคืนความสัมพันธ์หรือเปิดด่าน เรียกร้องค่าชดเชยก่อน หรือดำเนินการคดีอาชญากรรมสงครามกับผู้นำกัมพูชา
มองจากพื้นที่-ภูมิศาสตร์ ทำไม ไม่ทำข้อตกลง ห้ามกัมพูชาปีนขึ้นแนวเขาพนมดงรัก
ฝั่งไทยเป็นพื้นที่สูง เข้าถึงแนวเขตสันปันน้ำจากที่ราบ ขึ้นไปจากที่ราบนิดหน่อย แล้วเป็นหน้าผาลงไป ฝั่งไทยจำกัดพื้นที่เป็นเขตอนุรักษ์ เป็นป่า
กัมพูชาเป็นพื้นที่ต่ำกว่า การที่ปีนขึ้นมา เป็นการกระทำที่ยากอยู่แล้ว ต้องการปีนขึ้นมา ยึดพื้นที่เพิ่ม เพื่อลักลอบตัดไม้ หาผลประโยชน์จากการแย่งพื้นที่หรืออย่างไร??? ไม่เคยมีการควบคุมการใช้พื้นที่ทางฝั่งกัมพูชาเอง
ให้เข้าใจง่ายๆ แค่คิดภาพดู ก็รู้แล้วว่า เป็นเจตนาไม่ดีจากกัมพูชา หรือจะใช้คำว่า bad faith ก็ได้ ให้ปรับ-กำจัดชุดความคิดฝ่ายกัมพูชาเรื่องแนวเขตแดน พื้นที่พิพาทไปเลย
ใน ASEAN, APEC, UN รัฐบาลเจรจาทางการฑูตกัน ใช้คำว่า good faith, good gesture, หรือมี good will แต่ไม่เห็นนำมาใช้จริงเลย
น่าจะไปศึกษากรณี มีมาตรการป้องกันอย่างไร??? ที่ประเทศอื่นที่ใช้ หลักการ watershed principle หรือยอดเขาเป็นแนวแบ่งเขตแดน จีน-อินเดีย, ชิลี-อาร์เจนตินา, เปรู-เอกวาดอร์, อิตาลี-สวิตซ์เซอร์แลนด์, อิสราเอลกับเทือกเขาโกลัน
2. เรื่องแผนที่ 1:50000 ไทยทำโดย กรมแผนที่ทหารไทยร่วมมือกับอเมริกา มีความแม่นยำมากกว่า, MOU 43 ใช้สนธิสัญญาเป็นเอกสารอ้างอิง (แผนที่ 1:20000 เป็นแค่ส่วนประกอบ) โดยปกติในทางสากลแล้ว ให้ยึดคำที่ระบุในสนธิสัญญาเป็นหลัก ซึ่งก็คือ watershed principle เป็นหลักการสำคัญ
ฝ่ายไทยยึด แผนที่ 1:50000 ที่ทำโดยความร่วมมือกับอเมริกา ที่ทันสมัย ละเอียดกว่า (ถ้ากัมพูชายกให้อเมริกาเป็นผู้ช่วยไกล่เกลี่ย ก็ควรที่จะเคารพในแผนที่ที่ทางฝ่ายไทยทำร่วมกับอเมริกาเช่นกัน) จากคำตามสนธิสัญญา ซึ่งแผนที่ 1:200000 นั้นเป็นแผนโบราณที่มีแต่ความผิดพลาด ไม่ตรงกับความเป็นจริง
ฝ่ายกัมพูชา อ้างแผนที่ 1:200000 รุกล้ำเข้ามา เพราะกินพื้นที่ขึ้นมาเลยแนวสันปันน้ำได้ มองแต่ในส่วนที่เป็นเส้นขีดที่หยาบกว่า เมื่อมองบนแผนที่ เส้นขีดเลยเข้ามา ถามความจริงว่า กัมพูชา คุณเคยทำสำรวจเพิ่มบ้างไหม ตั้งแต่คุณเพิ่งได้เรียกว่าเป็นประเทศข้ึนมา หรือสนธิสัญญานี้แต่แรกก็ไม่ได้ทำกับคนกัมพูชา??? (ตามประวัติศาสตร์ ก่อนปี 1962 ก็ไม่เคยมีจังหวัดชื่อ Preah Vihear ในกัมพูชา)
ฝ่ายไทยใช้แผนที่ 1:50000 เป็นหลักในส่วนที่เป็นของไทย และควรใช้กลยุทธ์เชิงป้องกัน อ้างขอบเขต 1:200000 ที่เลยลงไปที่ขอบหน้าผาบ้าง เป็นมาตรการเชิงป้องกัน (ถ้าตกลงกันไม่ได้ หรือมีการปะทะกันอีกรอบ ใช้สิทธิ์ลงไปยึดพื้นที่ด้านล่างเป็นมาตรการเชิงป้องกัน)
ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีพิสูจน์ ดีกว่า คำพูด-กล่าวอ้างของ นักการเมืองแย่ๆ (ประเทศไทย หรือประเทศสากลอื่นก็มีการเปลี่ยนผู้นำตามระบบกันไป บางประเทศก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง)
เรียกร้องค่าเสียหายคืนด้วย จากเหตุการปะทะ ถ้าการสำรวจใหม่ด้วย LIDAR โดยยึดแนวสันปันน้ำเป็นหลักการสำคัญ จัดทำแผนที่ใหม่ ทวงคืนปราสาทเขาพระวิหารด้วย (หรือถ้าในกรณที่มีการปะทะอีก ฝ่ายไทยควรใช้มาตรการเชิงป้องกันทางการทหาร ยึดพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารคืน เนื่องจากกัมพูชา นำไปใช้เป็นฐานที่มั่นทหาร ทำฐานซุ่มยิง ผิดในทุกข้อตกลง ไม่ว่าจะเป็นกฏบัตรใด)
และที่สำคัญ ทำข้อตกลง ห้ามกัมพูชาปีนขึ้นแนวเขาพนมดงรัก
3. อยากให้มีการทำประชามติ ‘ปรับลด-ตัดความสัมพันธ์ มาตรการคว่ำบาตรกับกัมพูชา ปิดด่าน ไปจนกว่าจะทำการปักปันเขตแดน-สร้างรั้วกันเสร็จเรียบร้อย’ ให้ประชาชนแสดงเจตจำนง มีผลบังคับใช้ไปเลย แก้ปัญหาในระยะยาวเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องมาทะเลาะเรื่องเขตแดนอีก จะได้ทำการค้าขาย-แลกเปลี่ยนอย่างสบายใจในระยะยาว เจ็บครั้งนี้พอแล้ว เจ็บแล้วต้องจบ มีปัญหามาครั้งนี้ครั้งที่เท่าไหร่???
ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจากพรรคไหน ให้รัฐบาลปรับแผนพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนที่ติดกับกัมพูชา ไม่ใช่ทำการค้าขายชายแดนด้านนี้กับประเทศกัมพูชา เพราะแค่อยู่ติดกัน มีแผนพัฒนาเป็น พื้นที่... (การท่องเที่ยว เกษตร อุตสาหกรรม ระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมต่อกับลาวก็ได้) ให้ประชามติเป็นข้อบังคับ จะใช้เวลาในการทำการปักปันเขตแดนกี่ปีก็ทำไป เมื่อการคืนความสัมพันธ์หลังจากปักปันเขตแดนแล้ว ก็มีสิ่งสร้างไว้แล้วรองรับพื้นที่ไปด้วย
ในอีกมุมก็จะเป็นการบีบทั้งส่วนนักการเมืองไทย และฝ่ายกัมพูชาไปด้วย ให้รีบปักปันเขตแดนให้เรียบร้อย อาจจะทำการสำรวจได้เร็วก็ได้ ให้เชิญประชาชน นักเคลื่อนไหว สื่อไทยเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ไม่มีนอกมีในกัน
4. ปิดด่าน ไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด ด้วยเรื่อง scammer ไทยไม่เปิดด่าน ไม่เป็นทางผ่าน scammer จนกว่าจะลดหรือจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเห็นผล หรือเห็นได้ชัด คิดง่ายๆ ว่า 'ทุกคนในโลกนี้ ที่มีอุปกรณ์ มีโทรศัพท์ใช้ มีใครบ้างที่ไม่เคยโดน การหลอกลวง scammer พวกนี้ติดต่อเข้ามาไม่ทางใดก็ทางนึง???' เป็นภัยที่อยู่ใกล้ตัว ในชีวิตประจำวันมาก
ให้ทางฝั่งไทย ตั้งธงการเจราจาให้สูงไว้ก่อน ก่อนที่จะคืนความสัมพันธ์หรือเปิดด่าน เรียกร้องค่าชดเชยก่อน หรือดำเนินการคดีอาชญากรรมสงครามกับผู้นำกัมพูชา