น่ากลัวกว่าการยื่นใบลาออก คือพนักงานที่ร่างกายยังมาทำงาน แต่จิตวิญญาณและความทุ่มเทได้ลาออกไปเรียบร้อยแล้ว

"น่ากลัวกว่าการยื่นใบลาออก คือพนักงานที่ร่างกายยังมาทำงาน แต่จิตวิญญาณและความทุ่มเทได้ลาออกไปเรียบร้อยแล้ว หรือที่เรียกว่า 'Quiet Quitting' "ภาวะนี้ทำลาย Productivity และบรรยากาศในทีมอย่างช้าๆ... ในฐานะผู้นำ คุณมองเห็นสัญญาณเหล่านี้หรือยัง?"

สัญญาณที่ 1: มาตรงเวลา-กลับตรงเวลาเป๊ะ "จากที่เคยอยู่เคลียร์งานหรือคุยเล่นหลังเลิกงาน กลายเป็นคนแรกที่เก็บของทันทีที่นาฬิกาบอกเวลาเลิกงาน ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะทำงานเกินหน้าที่แม้แต่น้อย"

สัญญาณที่ 2: เงียบในที่ประชุม "จากคนที่เคยเสนอไอเดีย หรือตั้งคำถามท้าทาย กลายเป็นคนที่นั่งเงียบๆ รอให้การประชุมจบไป ไม่แสดงความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น"

สัญญาณที่ 3: ปฏิเสธงานใหม่ๆ และโอกาสเรียนรู้ "เมื่อมีการเสนอโปรเจกต์ใหม่ๆ หรือคอร์สอบรมที่น่าสนใจ เขาจะหาเหตุผลมาปฏิเสธ และเลือกทำแต่งานรูทีนในขอบเขตเดิมๆ"

สัญญาณที่ 4: ทำงานตามสั่งเท่านั้น (Work-to-rule) "ทำงานครบตาม Job Description เป๊ะๆ ไม่มีขาด ไม่มีเกิน ไม่มีความคิดริเริ่มที่จะปรับปรุงหรือพัฒนางานให้ดีขึ้น"

สัญญาณที่ 5: ตีตัวออกห่างจากทีม "เริ่มไม่ไปกินข้าวกลางวันกับทีม ไม่เข้าร่วม
กิจกรรมสังสรรค์ของออฟฟิศ แยกตัวออกจากวงสนทนาต่างๆ"

สัญญาณที่ 6: คุณภาพงานลดลงเล็กน้อย (แต่สม่ำเสมอ) "งานที่ส่งอาจไม่ผิดพลาดร้ายแรง แต่ขาดความเฉียบคม ขาดการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยมี"

สัญญาณที่ 7: หยุดแสดงอารมณ์ (ทั้งบวกและลบ) "ไม่ตื่นเต้นกับความสำเร็จ ไม่หงุดหงิดกับปัญหา กลายเป็นคนเฉยชา ไม่แสดงความผูกพันทางอารมณ์กับงานอีกต่อไป"

"ถ้าคุณพบว่าลูกทีมมีอาการเหล่านี้เกิน 3 ข้อ นี่คือสัญญาณเตือนที่ต้องรีบเข้าไปพูดคุยแบบ 1-on-1 โดยด่วน" "การถามไถ่ด้วยความเข้าอกเข้าใจ อาจช่วยดึง 'ใจ' ของเขากลับมา ก่อนที่ร่างกายเขาจะเดินไปจากคุณจริงๆ" "ลองส่ง Checklist นี้ให้เพื่อนร่วมทีมหรือหัวหน้าของคุณดูสิครับ"

#DrKidOfficeStory #ภาวะหมดไฟ #การสร้างแรงจูงใจ #ภาวะผู้นำ #QuietQuitting #WorkLifeBalance #การสื่อสาร #Coaching #บทความ
CR https://www.facebook.com/share/17WAxp9YsZ/?mibextid=wwXIfr

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่