ผู้ชายคนนี้ทำงานธนาคารมาหลายปี กลายเป็นมหาเศรษฐีภายในชั่วข้ามคืน เพราะแอบขโมยเงิน 1 บาท จากลูกค้าทุกคน ขโมยทุกวันโดยที่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครสังเกตเลย
ในปี 1990 มีพนักงานธนาคารชื่อ ‘อามาน’ เรียนจบมาด้านบัญชี ทำงานธนาคารมาตั้งแต่เรียนจบใหม่ที่ธนาคาร Hock Hua เป็นธนาคารชื่อดังของมาเลฯในสมัยนั้น
อามานทำสาขาในกัวลาลัมเปอร์ งานเยอะสารพัดอย่างแต่ได้เงินเดือนแค่ 8 พันบาทไทย (ค่าเงินในปัจจุบัน) จนวันหนึ่งอามานได้ไปอบรมกับธนาคาร
อามานได้เลื่อนตำแหน่งที่หมายถึงทำงานเยอะขึ้นเฉย ๆ เงินเดือนไม่ได้เพิ่มตาม ได้ไปอบรมเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคาร และจากการอบรมนี้นี่เองที่ทำให้เขาได้เห็นช่องว่างว่าลูกค้าไม่ค่อยชอบมาอัพเดทสมุดเงินฝาก ทำให้ถ้าเงินหายไปซักบาทสองบาทก็ไม่ทันรู้ เขาเลยได้ไอเดียว่าจะขโมยเงินลูกค้าแค่คนละบาท
เขาใช้ ‘ทฤษฎีการหั่นซาลามี่’ ค่อย ๆ เล็มเงินทีละบาทจากลูกค้าจำนวนมากเหมือนคนสไลด์แฮมบาง ๆ โอนเข้าบัญชีที่เปิดแยกมารับเงินโดยเฉพาะ
อามานทดลองทำดูและพบว่าระบบธนาคารไม่ได้สงสัยอะไรเลย เงินหายไปทุกวันแต่ไม่มีใครสังเกต เลยได้ใจขโมยเงินชาวบ้านไปใช้จ่ายเหมือนเป็นเศรษฐี อามานซื้อรถหรูนำเข้า 6 คัน เอาเงินไปซื้อคอนโดสุดหรูกลางเมือง กินหรูอยู่แพง ออกรายการทีวีอวดรถตัวเอง ฯลฯ มีชีวิตไฮโซสุด ๆ
จนเพื่อนร่วมงานสงสัยปนอิจฉาว่าเงินเดือนก็เท่ากันทำไมชีวิตมันดีกว่ากู เลยไปแจ้งจนทตรวจสอบบัญชีธนาคารของอามาน แค่สามวันอามานก็โดนอายัดบัญชี โดนตำรวจจับตัว
เงินที่อามานขโมยไปวันละบาทสองบาท รวมกันแล้วประมาณ สามสิบกว่าล้านบาท
ผู้พิพากษามองว่าอามานเป็นแค่วัยรุ่นอยากเทสดี อยากมีชีวิตดี๊ดี ไม่ได้ทำร้ายใคร เลยให้ติดคุกแค่ 5 ปี ไม่มีข้อมูลว่าธนาคารได้คืนเงินบาทสองบาทให้กับลูกค้ามั้ย เพราะไม่กี่ปีต่อมาธนาคารเจ๊งและถูกซื้อกิจการไป
เรื่องราวของอามานกลายเป็นตำนานโจรในหมู่คนมาเลเซีย กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับซีรีส์ One Cent Thief กับแผนการขโมยเงิน 1 บาทจากทุกคน
และล่าสุดไทยเราก็มีโจรในคราบพนักงานธนาคาร กับเรื่อง ลักกันวันตาย พนักงานธนาคารวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยภาระหน้าที่ ดันมาเจอช่องโหว่เป็นบัญชีคนตายที่ไม่มีใครมาถอน เป็นเงินไม่มีเจ้าของล่องลอยอยู่ในอากาศ เขาเลยเอามาใช้ แต่หารู้ไม่ว่าเงินคนตายที่ไม่มีที่ไป กำลังจะพาเขาไปตกนรก
ใครดูหนังเรื่อง "ลักกันวันตาย" แล้วคิดว่าเป็นเรื่องแต่ง มาลองอ่านคดีนี้ดู