15 วัน
เหมือนเช่นทุกๆวัน.. ผมรู้สึกตัวตื่นแล้ว..แต่ยังไม่อยากจะลืมตา เวลาน่าจะใกล้ตีสี่แล้ว เวลาที่จะต้องลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อไปอาบน้ำ, เดินทาง, และไปทำงาน เป็นแบบนี้มานานแล้ว คงเพราะว่าร่างกายมันจดจำ เนื่องจากการทำติดต่อกันซ้ำๆมาแบบนี้ร่วมสิบยี่สิบปี
ไม่นานเสียงเตือนปลุกจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น แม้นว่าโทรศัพท์จะถูกเปลี่ยนรุ่นมาหลายครั้งแล้ว แต่เวลาที่ตั้งเตือนปลุกนั้นกลับเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน นั่นก็คือเวลาตีสี่ยี่สิบในวันจันทร์ถึงศุกร์และหกโมงในวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ผมลุกขึ้นจากที่นอน พับผ้าห่มทั้งของผมและของภรรยา แสงไฟจากห้องแต่งตัวสว่างพอให้เห็นได้ว่า เธอกำลังแต่งตัวเพื่อที่จะไปทำงานเช่นกัน กิจวัตรของผมกับปุ๋ยนั้นแทบไม่ต่างกัน ต่างกันเพียงแต่ว่า..เธอเป็นครูและผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชนเท่านั้นเอง
เมื่อเสร็จจากกิจวัตรข้างบนบ้าน ลงมาเตรียมตัวอีกเล็กน้อย จากนั้นจึงพากันขับรถออกจากบ้านไม่เกินตีห้า ผมจะถูกส่งลงที่ป้ายรถเมลล์ระหว่างทางเพื่อจับรถเมลล์ไปทำงาน ขณะที่ปุ๋ยก็จะขับรถไปทำงาน พวกเราจะได้เจอกันอีกทีก็ตอนเย็นหลังเลิกงานที่ป้ายรถเมลล์แห่งนี้เพื่อเดินทางกลับบ้านด้วยกัน เป็นแบบนี้มานานจนเหมือนเป็นโปรแกรมชีวิตไปแล้ว
ครอบครัวผมเรามีลูกชายหนึ่งคนชื่อข้าวเหนียว ตอนนี้เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัด ปิดเทอมจึงจะกลับมาที เราโชคดีที่ข้าวเหนียวเป็นเด็กดีพอควร อันนี้จึงทำให้เบาใจได้ในเรื่องนึง
ในมื้อเช้าเกือบทุกวัน ผมจะกินโจ๊กที่โรงอาหารใกล้ๆกับที่ทำงาน เนื่องจากการมีอายุที่มากขึ้น ทำให้ต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ย่อยยากจนเกินไปและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ร่างกายนี้ต้องถนอมรักษาไว้ให้นานที่สุด เพื่อที่ให้ได้อยู่กับคนที่เรารักไปนานๆ และเพื่อจัดการกับหนี้สินที่มี จะได้ไม่เป็นภาระให้คนข้างหลังเมื่อผมไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
เมื่อจบมื้อเช้าก็เกือบจะได้เวลางาน ระหว่างทางเดินไปที่ทำงาน ก็จะได้เจอกับแผงล๊อตเตอรี่สามสี่แผงเรียงรายอยู่ข้างทาง บางแผงมีคนมุงอยู่สองสามคน บางแผงก็ว่างรอคนเข้ามาเลือกซื้อ
ผมไม่ค่อยสนใจการเสี่ยงโชคประเภทนี้ อาจเป็นเพราะรู้สึกว่ามันไกลเกินจริง และรู้สึกเหมือนกับเป็นการเอาเงินไปทิ้งแบบไร้ประโยชน์เสียมากกว่า เงินสองร้อยค่าล๊อตเตอรี่นี่ผมเก็บไว้กินข้าวได้เกือบสองวันเลย แต่นานๆทีก็อาจมีบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นมีลางสังหรณ์, ความฝันสะกิดใจ เช่นฝันถึงแม่ที่เสียไป หรือฝันแปลกๆอารมย์แบบลางบอกเหตุ ซึ่งก็เกิดขึ้นชนิดที่ไม่บ่อยเอามากๆ
พูดถึงเรื่องล๊อตเตอรี่แล้ว ก่อนหน้านี้ผมได้พบกับเรื่องแปลกประหลาดเรืองหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อราวๆสามสี่เดือนก่อน ตอนนั้นเป็นช่วงวันหยุดยาว 5 วัน ครอบครัวเราได้ไปเที่ยวแถวภาคอีสาน และไปไหว้พระเพื่อขอพรตามธรรมเนียมนิสัยคนไทยที่วัดแห่งหนึ่งที่มีเรื่องราวเกี่ยกับพญานาค วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในระดับประเทศเลยทีเดียวมาก
หลังจากที่เราได้กราบพระ ทำบุญบริจาค และกำลังจะกลับนั้น ในบริเวณวัดจะมีซุ้มสำหรับทำบุญขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆหลายซุ้ม สายตาผมก็บังเอิญไปเห็นซุ้มๆหนึ่งซึ่งดูน่าสนใจมาก มีคนกลุ่มใหญ่พอสมควร กำลังทำการจุดธูปกราบไหว้ ขอพร จนถึงทำการเสี่ยงทายในแบบต่างๆกันไปอยู่ที่ซุ้มแห่งนั้น
ที่นั้นผมได้พบกับหญิงสูงวัยคนหนึ่ง ท่านแต่งตัวดี หน้าตาสดใส ผิวขาวสะอาด ดูน่าเคารพ และคุณป้าท่านนั้นได้เข้ามาทักผมโดยที่เราไม่ได้รู้จักหรือเคยเจอกันมาก่อน ท่านพูดด้วยน้ำเสียงน่าฟังกับผมว่า
“คุณคะ ขอป้าได้บอกอะไรกับคุณบางอย่างนะคะ”
“เอ่อ.. ก็ได้ครับ” ผมประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าเรื่องที่จะบอก น่าจะเป็นการบอกบุญหรือขอทำบุญอะไรสักอย่าง
“คุณเป็นคนดีนะ คุณเหนื่อยมามาก คุณทำเพื่อคนอื่นมามาก คุณจะได้พักแล้ว ถ้าคุณอยากจะพักนะ”
ผมได้ยินเช่นนั้น แต่ก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณป้าท่านนั้นพูด
“ได้พักคืออะไรครับป้า นี่ผมก็มาพักนะ หยุดยาวผมเลยมาที่นี่ มาพักผ่อนกับที่บ้านครับ”
ป้ายิ้มและพูดอย่างมีเมตตาว่า
“ถ้าคุณพร้อม เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณซื้อล๊อตเตอรี่ คุณจะถูกรางวัลที่หนึ่งนะ”
ผมหัวเราะเบาๆ แล้วยิ้ม ยังไม่ทันที่จะพูดกลับไป ป้าก็พูดต่อ ออกมาว่า
“แต่จากนี้ฟังแล้วอย่าโกรธป้านะ เมื่อคุณถูกรางวัลที่หนึ่งแล้ว คุณจะมีชีวิตอยู่ต่อได้เพียง 15 วัน”
ผมอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน อะไรวะเนี่ย.!?
“คุณต้องเลือกเอานะ ถ้าหากคุณต้องการใช้ชีวิตแบบเดิมเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ไม่ต้องไปซื้อมันไอ้ ล๊อตเตอรี่นั่น และใช้ชีวิต่อไปอย่างปกติจนสิ้นอายุขัย ฟ้าเปิด มอบทางเลือกให้คุณแล้ว..”
ผมสะอึกในสิ่งที่ได้ยิน ในหัวประหลาดใจว่าทำไมป้าเขาถึงมาพูดอะไรแบบนี้กับผม กว่าจะรู้ตัวป้าแกก็เดินหายไปทางไหนแล้วก็ไม่รู้ สติกลับมาอีกทีตอนที่ข้าวเหนียวร้องเรียกให้กลับไปรวมกลุ่มกันก่อนขึ้นรถ
ระหว่างที่เดินทางกลับนั้น คำพูดของคุณป้าคนแปลกหน้าวนเวียนในหัวแบบที่สลัดออกไม่ได้ มันจะจริงหรือ? มันจะเป็นจริงได้ไง? ถ้าเป็นแบบนั้นหากเราซื้อล๊อตเตอรี่ชุดใหญ่แล้วถูกรางวัลที่หนึ่ง 10 ใบ บ้านเราคงสบาย แต่มันจะคุ้มเหรอถ้าเราต้องตายและไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อใช้เงิน ทางบ้านอาจจะสบาย แต่ครอบครัวที่ไม่มีเราจะมีความสุขไหม? จะมีความสุขจริงไหม? มีอีกหลายคำถามผุดขึ้นมาในหัว ผมพยายามทำใจสงบทำจิตให้ว่างเพื่อให้ไม่คิดมาก แล้วเวลาก็ผ่านไป จากวันนั้นที่วัดนั่นผ่านพ้นล่วงเลยมาถึงวันนี้
ตอนนี้ผมกลับพบว่าตัวหยุดยืนอยู่หน้าแผงล็อตเตอรี่ ตาจับไปที่หวยชุด 10 ใบเบื้องหน้า.....
......จบตอนทื่ 1.....
เรื่องสั้น 15 วัน