เรื่องจริงของนบีอาดัม มนุษย์คนแรกของโลก จากชาวสวรรค์มาเป็นมนุษย์

นบีอาดัม เป็นมนุษย์คนแรกของโลก มาพร้อมกับศาสนาอิสลาม ศาสนาดั้งเดิม ที่อัลลอฮฺ ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกและจักรวาลประทานให้ การที่นบีอาดัมมาเป็นมนุษย์ เป็นพระประสงค์ของพระองค์ ซึ่งก่อนจะมาอยู่บนโลกใบนี้ มีสาเหตุของการมา ซึ่งเกี่ยวกับอิบลีส (หัวหน้าชัยฏอน หรือที่เรียกว่ามารร้ายซาตาน) ที่พยายามล่อลวงให้นบีอาดัมทำผิดกฎที่จะต้องไม่ไปยุ่งกับต้นไม้หนึ่งในสวรรค์ ชัยฏอนหลอกลวงท่านนบีอาดัม จนเผลอไปกินผลไม้จากต้นนั้น เผยเห็นเอาเราะฮฺ (สิ่งปกปิด) ร่างกาย เห็นเรือนร่างเปล่าเปลือย

จากสาเหตุนั้น อัลลอฮฺจึงสั่งให้ทั้งหมด คือ นบีอาดัม พระนางเฮาวา(คุ่ครองของนบีอาดัม) และอิบลีส ลงไปอยู่บนโลกมนุษย์ โดยนบีอาดัมจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลครอบครัว เผยแผ่ศาสนา และจะมีลูกหลานออกมามากมาย ส่วนอิบลีสจะมีลูกน้องเป็นชัยฏอน จะคอยยุแยงกระซิบกระซาบให้มนุษย์ คิด พูด กระทำชั่ว และให้อยู่กับอารมณ์ใฝ่ต่ำ มันพยายามที่จะให้มนุษย์เห็นว่าการเปิดเผยสิ่งพึงสงวนในร่างกายเป็นสิ่งที่ทำได้ ทั้งๆ ที่ศาสนาสอนไว้ว่า จะต้องปกปิด รักนวลสงวนตัว โดยลูกหลานอาดัม คือ มนุษย์อย่างเราๆ ผู้ใดที่เป็นผู้ศรัทธาและทำความดี ก็จะได้รับการตอบแทนคือ ได้อยู่ในสวรรค์ และผู้ที่ทำชั่ว ปฏิเสธศรัทธาก็จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนกระทำ ได้รับบทลงโทษในไฟนรก วัลอิยาซุบิลลาฮฺ  

ส่วนความเชื่อใดที่มีบอกว่า สาเหตุที่ผิดพลาดของนบีอาดัมในสวรรค์ กินผลไม้ต้องห้ามนั้น ทำให้ลูกหลานที่เกิดมา ผู้ชายมีลูกกระเดือก ผู้หญิงมีเลือดประจำเดือนนั้น ไม่ใช่ความเชื่อที่ถูกต้อง เพราะไม่จริง การมีลูกกระเดือก และการมีประจำเดือน เป็นธรรมชาติของร่างกายที่อัลลอฮฺสร้างให้ เป็นการแบ่งแยกเพศให้มี 2 เพศ คือ ชาย-หญิง ชัดเจน

สำหรับความผิดพลาดที่นบีอาดัมได้ทำไว้ในสวรรค์นั้น เป็นความประสงค์ของพระองค์ เพราะนบีอาดัมก็ได้สำนึกผิดขออภัยโทษต่อพระองค์ และพระองค์มีพระประสงค์ที่จะให้นบีอาดัมลงมายังโลกนี้อยู่แล้ว โดยแต่ละคนที่เป็นลูกหลานก็จะต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตนต่อมาจากนบีอาดัม มนุษย์ทุกคนล้วนทำผิด แต่ผู้ที่ทำผิดที่ดีคือผู้ที่กลับเนื้อกลับตัว แต่สำหรับผู้ที่กระทำชั่วนั้น แม้เขาจะทำภายใต้การอนุมัติของพระองค์ก็ตาม หากเขาไม่สำนึกผิด ก็จะได้รับโทษตามความชั่วที่เขาทำ เพราะเขาเลือกที่จะทำชั่วเอง

มีหลักฐานจากอัลกุรอานที่เล่าถึงนบีอาดัม ซึ่งมีความนอบน้อมต่ออัลลอฮฺ ส่วนอิบลีสนั้น มีความหยิ่งยะโส ไม่ยอมก้มหัวแสดงความเคารพต่อท่านนบีอาดัม ตามที่อัลลอฮฺสั่งใช้ เพราะเขามองว่าอิบลีสมาจากไฟ ย่อมมีฐานะเหนือกว่ามนุษย์ที่เกิดจากดิน ซึ่งมนุษย์บางคนหากทำตามการชักจูงของอิบลีสชัยฏอน ก็จะมีลักษณะเหมือนมัน คือ หยิ่งยะโส ซึ่งไม่ใช่ลักษณะของชาวสวรรค์ เราจึงควรมีความนอบน้อมถ่อมตน ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่อิบลีสไม่มี แต่ท่านนบีอาดัมมีคือ “รู้ตัวว่าผิดแล้วเตาบะฮฺ” (กลับเนื้อกลับตัว)

- - -

รายละเอียดอยู่ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ โองการที่ 30-31, 34-38 โดยมีตัฟซีร (คำอธิบาย) จากสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย ดังนี้

อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ 30 ความว่า "และจงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่มลาอิกะฮฺว่า แท้จริงข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่ง¹ ในพิภพ มลาอิกะฮฺได้ทูลขึ้นว่า พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลาย และก่อการนองเลือดในพิภพกระนั้นหรือ²? ทั้ง ๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์ และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์ พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้"³

คำอธิบาย 1-3

¹ คือนบีอาดัม ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรก และเป็นบิดาของมนุษยชาติมิใช่คนใดคนหนึ่งที่ชื่ออาดัม ตามที่พวกก็อดยานีได้บิดเบือนไว้
² การที่มลาอิกะฮฺกล่าวเช่นนั้น อาจเข้าใจได้ว่า เมื่อก่อนโน้นอัลลอฮฺเคยบังเกิดสิ่งที่มีชีวิต และมีปัญญามาในโลก แล้วพวกเขาเหล่านั้นประหัตประหารกัน จนกระทั่งสูญพันธุ์ ทั้งนี้ด้วยพระประสงค์ของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ทรงบังเกิดอาดัมขึ้นมาใหม่จากดิน เพื่อเป็นผู้แทนของพระองค์ในพิภพ ซึ่งจะมีลูกหลานแพร่สะพัดไปทั่วโลก ในการนี้ทำให้มลาอิกะฮฺเข้าใจว่า ลูกหลานของอาดัมจะประหัตประหารกัน และหลั่งเลือดกัน จึงได้ถามพระองค์เพื่อต้องการทราบ ใช่ว่าเป็นการคัดค้านแต่อย่างใดไม่
³ อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่ง ถึงเป้าหมายในการบังเกิดท่านนบีอาดัม แต่มลาอิกะฮฺไม่รู้

อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ 31 ความว่า "และพระองค์ได้ทรงสอนบรรดานามของทั้งปวงให้แก่อาดัม⁴ ภายหลังได้ทรงแสดงสิ่งเหล่านั้นแก่มลาอิกะฮฺ แล้วตรัสว่า จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่ข้า หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง"

คำอธิบาย 4

⁴ อัลลอฮฺทรงสอนบรรดาชื่อทั้งปวงของสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ในพิภพ ให้แก่นบีอาดัมทราบ

อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ 34 ความว่า "และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มลาอิกะฮฺว่า พวกเจ้าจงสุญูด¹ แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุญูดกัน นอกจากอิบลีส² โดยที่มันไม่ยอมสุญูด และแสดงโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา (กาฟิรฺ)"

คำอธิบาย 1-2

¹ หมายถึงการโน้มศีรษะลงด้วยความนอบน้อม เป็นการคารวะและเคารพนับถือ มิใช่หมายถึงการวางใบหน้าลงบนพื้นแต่อย่างใด เพราะปฏิบัติการดังกล่าวนี้ จะกระทำได้เฉพาะอัลลอฮฺเท่านั้น
² เป็นต้นตอแห่งเชื้อสายของชัยฏอน และชัยฏอนนั้นคือผู้ที่ฝ่าฝืนและดื้อดึงจากพวกญิน

อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ 35 ความว่า "และเราได้กล่าว่า โอ้ อาดัม ! เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์นั้นเถิดและเจ้าทั้งสองจงบริโภคจากสวนนั้นอย่างกว้างขวาง ณ ที่ที่เจ้าทั้งสองปรารถนา และอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้³ (มิเช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเอง"

คำอธิบาย 3

³ ต้นไม้ต้นหนึ่งในสวนสวรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงชี้ให้อาดัมและเฮาวาอฺ ดู

อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ 36 ความว่า "ภายหลังจากชัยฎอนได้ทำให้ทั้งสองนั้นพลั้งพลาดไป เนื่องจากต้นไม้ต้นนั้น⁴ แล้วได้ทำให้ทั้งสองออกจากที่ที่เคยพำนักอยู่⁵ และเราได้กล่าวว่าพวกเจ้าจงออกไป โดยที่บางส่วนของพวกเจ้าต่างเป็นศัตรูต่อกัน¹ และ (สำหรับพวกเจ้าในผืนแผ่นดินนั้น) มีที่พำนัก และมีสิ่งอำนวยประโยชน์จนถึงระยะเวลาหนึ่ง"²

คำอธิบาย 4-5, 1-2

⁴ เนื่องจากเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้น และบริโภคผลของมัน
⁵ ออกจากสวนสวรรค์

¹ บางส่วนของลูกหลานอาดัม กับผู้ที่สืบเชื้อสายจากอิบลีสที่จะมีต่อไป
² จนกว่าจะถึงวาระแห่งการสิ้นชีวิต

อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ 37 ความว่า"ภายหลังอาดัมได้เรียนรู้คำวิงวอนจากพระเจ้าของเขา³ แล้วพระองค์อภัยโทษแก่เขา แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ"

คำอธิบาย 3

³ แล้วได้วิงวอนขออภัยโทษต่อพระองค์

อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ 38 ความว่า "เราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงออกไปทั้งหมด⁴จากสวนนั้น แล้วหากมีคำแนะนำจากข้ามายังพวกเจ้าแล้ว ผู้ใดที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้า ก็ไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขา⁵ และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ"

คำอธิบาย 4-5

⁴ ทั้งนบีอาดัม พระนางเฮาวาอฺ และอิบลีส
⁵ เมื่อพวกเขาฟื้นคืนชีพในวันปรโลก พวกเขาจะไม่มีความกลัวใดๆ ที่จะถูกลงโทษ และจะไม่เสียใจในสิ่งตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับ

เรื่องราวทั้งหมดนี้ เป็นข้อเตือนใจมนุษย์อย่างดี ผู้ใดเป็นผู้ศรัทธา และรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเองอย่างดี อาจมีพลั้งพลาดทำผิด แต่ก็ขออภัยโทษต่อพระองค์ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เขาก็เหมือนบรรพบุรุษของเขาคือนบีอาดัม แต่ผู้ใดปฏิเสธคำสั่งใช้ และฝ่าฝืนคำสั่งห้าม มีความหยิ่งทะนง คิดว่าตนดีกว่าคนอื่น ก็มีลักษณะคล้ายชัยฏอน วัลอิยาซุบิลลาฮฺ ตรวจสอบตัวเอง และกลับเนื้อกลับตัวเพื่ออัลลอฮฺ ผู้เป็นพระเจ้าที่แท้จริง ผู้สร้างเรากันนะ

- ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ลูกหลานอาดัม(มนุษย์)ทุกคน ย่อมมีความผิด และผู้ที่ดีที่สุดในหมู่ผู้มีความผิด คือ ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัว” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อิบนุมาญะฮ์ เลขที่ 4251, ติรมีซีย์, อะห์มัด และฮากิม)

และการที่อัลลอฮฺทรงให้นบีอาดัมมาเป็นมนุษย์ เป็นโอกาสให้เราทุกคน มีชีวิตบนโลกนี้ มาทำหน้าที่ของตนให้ดี โดยที่พระองค์มีอัลกุรอานและหะดีษ เป็นคู่มือในการใช้ชีวิต เวลามีปัญหา อยากได้อะไร พระองค์ก็ให้เราขอดุอาอฺ(ขอพร) ขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา พระองค์จะทรงตอบรับการขอพรตามความเหมาะสมของแต่ละคน และดีกว่าที่เราขอด้วย เพราะพระองค์ทรงรอบรู้ว่าอะไรเหมาะกับเรา

พระองค์ทรงให้มนุษย์รักษาชีวิตตนเอง ส่งเสริมกันในการทำความดี ห้ามปรามการทำชั่ว เป็นความเมตตาอย่างมากมายต่อมนุษย์ ทุกลมหายใจมีค่าไม่สามารถแปลงเป็นเงินได้ การทำดีตอบแทนพระองค์ไม่เท่าสิ่งที่อัลลอฮฺให้มากมาย เราจึงต้องดูแลชีวิตตัวเองให้ดี ทำตามคำสั่งใช้ และห่างไกลคำสั่งห้าม ดูแลชีวิตไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่รวมถึงจิตใจและวิญญาณ เมื่อใดที่เราทำผิด ใจเราก็จะอ่อนแอ แต่เมื่อขออภัยโทษต่อพระองค์ เลิกและปรับปรุงแก้ไข จิตใจเราก็จะแข็งแกร่งได้ใหม่และดีกว่าเดิม อดทนในการชีวิตชั่วคราวบนโลกนี้ และรอกลับไปหาพระองค์ หวังการตอบแทนได้อยู่สวรรค์ของพระองค์ ชีวิตที่ถาวร ไม่เหนื่อย ไม่ทุกข์ ไม่ร้อนอีกต่อไป ทุกความเหนื่อยยาก ถ้าเราอดทน จะกลายเป็นผลบุญอยู่ในตาชั่งความดี หากเราเชื่อว่ามีโลกหน้าจริงๆ มีการสอบสวน มีการตัดสินพิพากษา มีสวรรค์-นรก เราจะไม่กล้าทำผิด มุ่งมั่นทำความดี เพราะพระองค์ทรงเห็นเราเสมอ

ความศรัทธาที่แท้จริง จะแสดงออกทั้งความคิด จิตใจ และคำพูด การกระทำ ไม่ใช่แค่กล่าวปฏิญาณอย่างเดียว

วัลลอฮุอะอฺลัม อัลลอฮฺเท่านั้นที่รู้