การโดนปิดช่องyoutube เพราะทำช่องแนวข่าว
แต่สรา้งภาพ ai
ระบบมองว่าเป็นการ สแปม
หรือหลอกลวง
(แตกต่างจากนิทานเรื่องตลกหรือการล้อเลียนที่ไม่โดนปิดช่อง
เพราะใช้คนหน้าเหมือนและเป็นเหตุการสมมุติ)
ในช่วงหลัง YouTube มีการปรับนโยบายที่เข้มงวดขึ้น
เกี่ยวกับเนื้อหาที่สร้างจาก AI โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับ ความไม่จริงแท้
(Inauthentic)
เนื้อหาซ้ำซาก (Repetitive)
หรือการปลอมแปลง (Deepfake)
โดยเฉพาะในบริบทของ "ข่าว" หรือ "ข้อเท็จจริง"โดยเฉพาะคนมีชื่อเสียง
.........
1. ระบบมองว่าเป็น “สแปม” เพราะเนื้อหาไม่จริงหรือซ้ำแบบ AI
YouTube ใช้ระบบตรวจจับว่า
วิดีโอจำนวนมากมี ภาพและเสียงและเนื้อหาซ้ำรูปแบบเดิม ๆ
(เช่น ภาพ AI เคลื่อนไหวเหมือนกันแต่เปลี่ยนข้อความ)
เนื้อหาไม่ได้มาจาก “การรายงานจริง” แต่ดูเหมือน อัตโนมัติสร้างเพื่อเพิ่มยอดดูหรือรายได้
👉 ระบบจะมองว่าเป็น “Mass-produced AI content” ซึ่งเข้าข่าย “สแปมและเนื้อหาซ้ำซ้อน”
(Repetitious or Reused Content)
⚠️ 2. ระบบมองว่า “หลอกลวง” เพราะใช้ภาพ AI ทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นข่าวจริง
ถ้าช่องนำเสนอข่าวหรือเหตุการณ์จริง แต่ใช้ภาพ AI โดยไม่ระบุว่าเป็นภาพจำลอง (AI generated image)
ระบบอาจมองว่าเป็น “Misleading content” เพราะทำให้ผู้ชม เข้าใจผิดว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง
โดยเฉพาะคนมีชื่อเสียง สถานที่มีชื่อเสียง
ตัวอย่างเช่น:
"ภาพเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ วันนี้"
แต่จริง ๆ เป็นภาพที่ AI สร้างขึ้น → ระบบและผู้ดูจะเข้าใจว่า “หลอกลวงข่าว”
📢 3. ใช้เสียง AI พากย์แบบไม่ระบุว่าเป็น AI
YouTube เริ่มตรวจเข้ม “เสียงพากย์ AI” โดยเฉพาะในเนื้อหาข่าวหรือสารคดี
เพราะถ้าไม่ระบุว่า “เป็นเสียง AI” อาจเข้าข่าย “Deceptive Synthetic Media”
คือ “สื่อสังเคราะห์ที่หลอกให้ผู้ชมคิดว่าเป็นคนจริง”
🧠 4. ขาดความจริงแท้ในแง่ภาพ เสียง
📉 5. โพสต์ถี่เกินไปหรือใช้ AI อัปโหลดอัตโนมัติ
ถ้าช่องโพสต์วันละหลายคลิปในรูปแบบ AI เดิม ๆ
ระบบจะมองว่าเป็น “automated or spammy behavior”
→ เข้าข่าย “สแปมระบบ YouTube”
→ อาจโดนปิดหรือโดนจำกัดการมองเห็น
✅ วิธีลดความเสี่ยงโดนปิดช่อง
หลีกเลี่ยงใช้aiเกี่ยวกับสถานที่จริงคนจริง
อย่าใช้คำพาดหัวที่ชวนให้เชื่อว่า “เป็นเหตุการณ์จริง” ถ้าไม่ใช่
ห้ามใช้ภาพ AI ของบุคคลจริงในเชิงข่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่าทำคอนเทนต์ข่าวปลอม (Fake News) หรือข่าวลือ
อย่าโพสต์วิดีโอสั้น ๆ จำนวนมากในรูปแบบเดียวกัน
เพิ่มเนื้อหาที่ “มนุษย์เล่า” เช่น ผู้สร้างพูด แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์เอง
ปิดสรา้งรายได้ ปิดช่องโดนแบน ทำไมถึงโดน
แต่สรา้งภาพ ai
ระบบมองว่าเป็นการ สแปม
หรือหลอกลวง
(แตกต่างจากนิทานเรื่องตลกหรือการล้อเลียนที่ไม่โดนปิดช่อง
เพราะใช้คนหน้าเหมือนและเป็นเหตุการสมมุติ)
ในช่วงหลัง YouTube มีการปรับนโยบายที่เข้มงวดขึ้น
เกี่ยวกับเนื้อหาที่สร้างจาก AI โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับ ความไม่จริงแท้
(Inauthentic)
เนื้อหาซ้ำซาก (Repetitive)
หรือการปลอมแปลง (Deepfake)
โดยเฉพาะในบริบทของ "ข่าว" หรือ "ข้อเท็จจริง"โดยเฉพาะคนมีชื่อเสียง
.........
1. ระบบมองว่าเป็น “สแปม” เพราะเนื้อหาไม่จริงหรือซ้ำแบบ AI
YouTube ใช้ระบบตรวจจับว่า
วิดีโอจำนวนมากมี ภาพและเสียงและเนื้อหาซ้ำรูปแบบเดิม ๆ
(เช่น ภาพ AI เคลื่อนไหวเหมือนกันแต่เปลี่ยนข้อความ)
เนื้อหาไม่ได้มาจาก “การรายงานจริง” แต่ดูเหมือน อัตโนมัติสร้างเพื่อเพิ่มยอดดูหรือรายได้
👉 ระบบจะมองว่าเป็น “Mass-produced AI content” ซึ่งเข้าข่าย “สแปมและเนื้อหาซ้ำซ้อน”
(Repetitious or Reused Content)
⚠️ 2. ระบบมองว่า “หลอกลวง” เพราะใช้ภาพ AI ทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นข่าวจริง
ถ้าช่องนำเสนอข่าวหรือเหตุการณ์จริง แต่ใช้ภาพ AI โดยไม่ระบุว่าเป็นภาพจำลอง (AI generated image)
ระบบอาจมองว่าเป็น “Misleading content” เพราะทำให้ผู้ชม เข้าใจผิดว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง
โดยเฉพาะคนมีชื่อเสียง สถานที่มีชื่อเสียง
ตัวอย่างเช่น:
"ภาพเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ วันนี้"
แต่จริง ๆ เป็นภาพที่ AI สร้างขึ้น → ระบบและผู้ดูจะเข้าใจว่า “หลอกลวงข่าว”
📢 3. ใช้เสียง AI พากย์แบบไม่ระบุว่าเป็น AI
YouTube เริ่มตรวจเข้ม “เสียงพากย์ AI” โดยเฉพาะในเนื้อหาข่าวหรือสารคดี
เพราะถ้าไม่ระบุว่า “เป็นเสียง AI” อาจเข้าข่าย “Deceptive Synthetic Media”
คือ “สื่อสังเคราะห์ที่หลอกให้ผู้ชมคิดว่าเป็นคนจริง”
🧠 4. ขาดความจริงแท้ในแง่ภาพ เสียง
📉 5. โพสต์ถี่เกินไปหรือใช้ AI อัปโหลดอัตโนมัติ
ถ้าช่องโพสต์วันละหลายคลิปในรูปแบบ AI เดิม ๆ
ระบบจะมองว่าเป็น “automated or spammy behavior”
→ เข้าข่าย “สแปมระบบ YouTube”
→ อาจโดนปิดหรือโดนจำกัดการมองเห็น
✅ วิธีลดความเสี่ยงโดนปิดช่อง
หลีกเลี่ยงใช้aiเกี่ยวกับสถานที่จริงคนจริง
อย่าใช้คำพาดหัวที่ชวนให้เชื่อว่า “เป็นเหตุการณ์จริง” ถ้าไม่ใช่
ห้ามใช้ภาพ AI ของบุคคลจริงในเชิงข่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่าทำคอนเทนต์ข่าวปลอม (Fake News) หรือข่าวลือ
อย่าโพสต์วิดีโอสั้น ๆ จำนวนมากในรูปแบบเดียวกัน
เพิ่มเนื้อหาที่ “มนุษย์เล่า” เช่น ผู้สร้างพูด แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์เอง