เราเจอกับแฟนที่แอปหนึ่ง เราคบกันเป็นแฟนแต่ยังไม่เคยเจอหน้ากันเลย เพราะเขาก็ยุ่ง ต้องดูแลแม่ จึงไม่สามารถมาหาได้ ส่วนเราก็เคยบอกเขาไปว่าเราจะยังไม่ไปหาเขา เพราะเราไม่สะดวกใจที่จะไปหาก่อน ซึ่งเราเข้าใจกัน แต่ประเด็นมันอยู่ที่พฤติกรรมของเขา เขาไม่ชอบให้เรามีเพื่อนผู้ชาย (เรามีทั้งชาย หญิง LGBTQ) ทั้งที่เราก็บอกเขาเกี่ยวกับเพื่อนคนนี้ คนนั้นเกือบทุกอย่าง เราบริสุทธิ์ใจมากที่จะพูดออกไป เพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่าเราไม่ซื่อสัตย์ แต่เขามักจะชอบพูดจาประชดประชัน บอกว่าผู้หญิงก็เหมือนกันหมด ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ และเขาก็ไม่พยายามจะเชื่อใจเราเลย ทั้งที่เราเชื่อใจเขา เรารู้ว่าเขาก็ผ่านผู้หญิงมาเยอะเหมือนกัน แต่ทำไมเราถึงมองข้ามมันได้ แล้วทำไมเขาไม่พยายามเข้าใจเราบ้าง ช่วงหลัง ๆ พอเราเริ่มง้อ มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้กลัวการสูญเสียเราเลย มีแค่เราที่กลัวการสูญเสียเขา ทั้งที่เราพยายามไม่เอาใจลงไปเล่นมาก แต่มันหยุดไม่ได้ เขาเริ่มเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง บอกว่าเขาว่างเวลานี้แต่เราไม่ว่าง เพราะเราชอบไปตลาดเพื่อเดินเล่นและหาซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้ครอบครัวทาน = เราผิดที่ไม่มีเวลาให้ แต่พอเขาไม่ว่าง เขาทำงาน เขาดูแลแม่ เขาอารมณ์ไม่ดีก็เลยไม่คุยบางวัน = เขาไม่ผิด เพราะเราให้อภัยเขาตลอด เราพยายามเข้าใจสถานการณ์ของเขา ตัวเราเอง เราพยายามที่จะอยู่ในความสัมพันธ์ที่เข้าใจกันและกัน มีชีวิตของตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ แค่เราอยู่ด้วยกัน คอยแชร์เรื่องต่าง ๆ ความรู้สึกดีๆให้กัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ต้องคอยจับผิดว่าเราจะคุยกับคนอื่นไหม หรือมองว่าเราเป็นฝ่ายผิดอยู่ฝ่ายเดียว
เอาจริง ๆ เรารู้ว่าทางเลือกไหนคือทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะจบปัญหาทุกอย่าง แต่เราก็แค่คิดว่ามันจะเปลี่ยนได้ แค่อยากลองแก้ไขมันให้ถึงที่สุด เพราะคนสองคนที่อายุต่างกัน 10 ปี ความคิดมันไม่ได้เหมือนกันอยู่แล้ว แค่เราจะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาของเราสองคน และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ตัวเราเองก็พยายามลดความเอาแต่ใจลง เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น พยายามเข้าใจเวลาที่เขาไม่มีเวลาให้ พยายามใจเย็นมากขึ้น แต่ยิ่งเปลี่ยน ก็เหมือนตัวเองวิ่งเข้าหาเขาอยู่ฝ่ายเดียว เอาจริง ๆ ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อย เราอยากบอกเลิกหลายครั้ง แต่ใจเรามันยังอยากลองอีกครั้ง เราเหนื่อยมากที่เขาไม่เคยฟังเราเลย เราเหนื่อยกับการที่ต้องถูกทำให้เป็นคนผิด
เขาอายุมากกว่าเรา 10 ปี และแน่นอนว่าเขามักจะคิดว่าประสบการณ์ของเขามันถูกต้องกว่าของเรา และเขาเคยสัญญาว่าจะมาหาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ล่มทุกครั้ง ตรงนี้เราเคยเสียใจนะ แต่หลัง ๆ พยายามเข้าใจจนไม่ได้คาดหวังอะไร
มีอีกหนึ่งอย่าง เขาบอกว่าอยากให้เราติดขนตา เขาชอบ อยากให้เราดูดีตลอดเวลา แต่คือเวลาที่โทรหากัน มันคือช่วงดึกแล้ว เราเช็ดเครื่องสำอางค์ออกแล้วเพราะหน้าจะเป็นสิว และหน้ามันด้วย บางทีก็ถึงเวลานอนแล้ว คนปกติก็ไม่ต้องการเติมเมคอัพสำหรับการนอน แล้วเราก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะโทรมาช่วงไหน หรือเขาว่างช่วงไหน จะให้เราแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลามันใช่เรื่องไหม บางครั้งเราก็ยังไม่ได้อาบน้ำ เพราะเพิ่งทำอาหารหรือกินข้าวเย็นเสร็จ แต่ล่าสุดที่ทะเลาะกันเขาบอกว่าเราโทรมมาก ผู้หญิงทุกคนต้องดูดีและดูแลตัวเองสำหรับผู้ชายหรือแฟนเสมอ แต่เราไม่รู้วิธีดูแลผู้ชายแบบเขาเลย (เขาเป็นคนอินเดียที่ดูแลตัวเอง เข้ายิม แต่งตัวดูดี) เราไม่รู้ว่าเขาคาดหวังแค่รูปลักษณ์ภายนอกของเราใช่ไหม ถ้าดูดีก็จะทำให้เขาพอใจ แล้วนิสัยข้างในของเราละ เราคุยกันมา 1 ปีกว่าแล้ว เขาเคยบอกว่าเขาชอบที่เรานิสัยดี แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินเราด้วยรูปลักษณ์ภายนอก (พื้นเพเราชอบคุยกับต่างชาติชาวยุโรปมาก เพราะพวกเขามักจะไม่ได้แคร์รูปลักษณ์ ภายนอก จะคอยชมตลอด แต่พอมาเจอผู้ชายคนนี้ เขาทำให้เราเสียความมั่นใจหลายอย่างเลย)
ถ้ามองข้อดีของเขามันก็มีเหมือนกัน ในช่วงที่ตัวเราเองเป็นฝ่ายสร้างปัญหา ซึ่งเราอาจจะทำแบบนั้นจริง ๆ แต่เขาก็ยังพยายามแนะนำ และกลับมาคุยกันเหมือนเดิม และในพาร์ทของเขา เขาก็พยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องเล็กๆ น้อย ๆ เพื่อเราเหมือนกัน อีกอย่างเขารักครอบครัว ดูแลแม่ตลอด เขาชอบให้อาหารสุนัขจรจัดด้วย
เพื่อน ๆ คิดว่า เราควรทำอย่างไรดี เราไม่เคยมีแฟนมาก่อน เราไม่เคยแคร์ใครแบบนี้ สำหรับคนแรกเราอาจจะทุ่มมากเกินไป เราคิดว่าเรากลัวทางเลือกที่จะบอกเลิกเขา เราแค่อยากพยายามรักษาความสัมพันธ์ก็แค่นั้น
แฟนคนอินเดีย ควรไปต่อหรือพอแค่นี้
เอาจริง ๆ เรารู้ว่าทางเลือกไหนคือทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะจบปัญหาทุกอย่าง แต่เราก็แค่คิดว่ามันจะเปลี่ยนได้ แค่อยากลองแก้ไขมันให้ถึงที่สุด เพราะคนสองคนที่อายุต่างกัน 10 ปี ความคิดมันไม่ได้เหมือนกันอยู่แล้ว แค่เราจะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาของเราสองคน และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ตัวเราเองก็พยายามลดความเอาแต่ใจลง เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น พยายามเข้าใจเวลาที่เขาไม่มีเวลาให้ พยายามใจเย็นมากขึ้น แต่ยิ่งเปลี่ยน ก็เหมือนตัวเองวิ่งเข้าหาเขาอยู่ฝ่ายเดียว เอาจริง ๆ ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อย เราอยากบอกเลิกหลายครั้ง แต่ใจเรามันยังอยากลองอีกครั้ง เราเหนื่อยมากที่เขาไม่เคยฟังเราเลย เราเหนื่อยกับการที่ต้องถูกทำให้เป็นคนผิด
เขาอายุมากกว่าเรา 10 ปี และแน่นอนว่าเขามักจะคิดว่าประสบการณ์ของเขามันถูกต้องกว่าของเรา และเขาเคยสัญญาว่าจะมาหาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ล่มทุกครั้ง ตรงนี้เราเคยเสียใจนะ แต่หลัง ๆ พยายามเข้าใจจนไม่ได้คาดหวังอะไร
มีอีกหนึ่งอย่าง เขาบอกว่าอยากให้เราติดขนตา เขาชอบ อยากให้เราดูดีตลอดเวลา แต่คือเวลาที่โทรหากัน มันคือช่วงดึกแล้ว เราเช็ดเครื่องสำอางค์ออกแล้วเพราะหน้าจะเป็นสิว และหน้ามันด้วย บางทีก็ถึงเวลานอนแล้ว คนปกติก็ไม่ต้องการเติมเมคอัพสำหรับการนอน แล้วเราก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะโทรมาช่วงไหน หรือเขาว่างช่วงไหน จะให้เราแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลามันใช่เรื่องไหม บางครั้งเราก็ยังไม่ได้อาบน้ำ เพราะเพิ่งทำอาหารหรือกินข้าวเย็นเสร็จ แต่ล่าสุดที่ทะเลาะกันเขาบอกว่าเราโทรมมาก ผู้หญิงทุกคนต้องดูดีและดูแลตัวเองสำหรับผู้ชายหรือแฟนเสมอ แต่เราไม่รู้วิธีดูแลผู้ชายแบบเขาเลย (เขาเป็นคนอินเดียที่ดูแลตัวเอง เข้ายิม แต่งตัวดูดี) เราไม่รู้ว่าเขาคาดหวังแค่รูปลักษณ์ภายนอกของเราใช่ไหม ถ้าดูดีก็จะทำให้เขาพอใจ แล้วนิสัยข้างในของเราละ เราคุยกันมา 1 ปีกว่าแล้ว เขาเคยบอกว่าเขาชอบที่เรานิสัยดี แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินเราด้วยรูปลักษณ์ภายนอก (พื้นเพเราชอบคุยกับต่างชาติชาวยุโรปมาก เพราะพวกเขามักจะไม่ได้แคร์รูปลักษณ์ ภายนอก จะคอยชมตลอด แต่พอมาเจอผู้ชายคนนี้ เขาทำให้เราเสียความมั่นใจหลายอย่างเลย)
ถ้ามองข้อดีของเขามันก็มีเหมือนกัน ในช่วงที่ตัวเราเองเป็นฝ่ายสร้างปัญหา ซึ่งเราอาจจะทำแบบนั้นจริง ๆ แต่เขาก็ยังพยายามแนะนำ และกลับมาคุยกันเหมือนเดิม และในพาร์ทของเขา เขาก็พยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องเล็กๆ น้อย ๆ เพื่อเราเหมือนกัน อีกอย่างเขารักครอบครัว ดูแลแม่ตลอด เขาชอบให้อาหารสุนัขจรจัดด้วย
เพื่อน ๆ คิดว่า เราควรทำอย่างไรดี เราไม่เคยมีแฟนมาก่อน เราไม่เคยแคร์ใครแบบนี้ สำหรับคนแรกเราอาจจะทุ่มมากเกินไป เราคิดว่าเรากลัวทางเลือกที่จะบอกเลิกเขา เราแค่อยากพยายามรักษาความสัมพันธ์ก็แค่นั้น