ครับ ก็สวัสดีกันอีกครั้งนะครับ สำหรับสารพันน่ารู้ของเราในวันนี้กันอีกเช่นเคยนะครับ แต่ว่าก่อนที่จะเข้าเรื่องในวันนี้ พวกเราก็ต้องขอชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตั้งกระทู้ให้ทุกท่านได้รับทราบนะครับว่า กระทู้ที่เราได้เขียนก่อนหน้านั้นและของตอนนี้ผู้เขียนเป็นคนเดียวกันนะครับ หลายท่านอาจจะสงสัยว่าอาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพหรือเปล่านะครับ แต่จริงๆแล้วทุกกระทู้ที่นำเสนอไปนั้นผู้เขียนเป็นคนเดียวกันกับกระทู้ก่อนหน้านะครับ อย่าเข้าใจผิดกันนะครับ
เพราะว่าจริงๆแล้ว แอคเคาท์ที่เราใช้ในการตั้งกระทู้ในเว็บ pantip มีอยู่ด้วยกันถึง 3 แอคเคาท์นะครับ โดยกระทู้ก่อนหน้าจะใช้แอคเคาท์หลักในการตั้งกระทู้ ส่วนอีก 2 แอคเคาท์นั้นจะเป็นแอคเคาท์สำรองเผื่อไว้ใช้เวลาที่แอคเคาท์หลักถุกแบนนะครับ แล้วก็ที่เหตุผลหลักที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า น่าจะเป็นเรื่องของการทำเรื่องยืนยันตัวตนที่มันดูยุ่งยาก นะครับ ก็เลยคิดว่าเหตุผลหลักๆก็น่าจะมาเรื่องนี้นั่นแหละครับ แต่ถึงยังไง เราก็ยังคงที่จะนำเสนอเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมาฝากให้ทุกท่านเหมือนเช่นเคยนะครับ ยังไงก็ต้องขอบคุณจากใจจริง มา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ สำหรับวันนี้ สารพันน่ารู้ ใน ep.2 ของเรา เราก็จะนำเสนอเกี่ยวกับ soft power ด้านดนตรีนะครับ เมื่อหากจะพุดถึง soft power ของบ้านเรานั้น เราก็มักจะพูดถึงสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีอยู่ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย มวยไทย เทศกาลงานประเพณีต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อตามพื้นที่ต่างๆ กางเกงช้าง ภาพยนตร์และซีรีส์ไทย หรือแม้แต่คนดังที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เช่น ลิซ่า และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ ล้วนเป็นซอฟต์เพาวเวอร์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งไม่เพียงแค่นั้น หากจะพูดถึงทางด้านดนตรีนั้นก็นับได้ว่าเป็นซอฟต์เพาเวอร์ที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากจะพูดถึงแนวดนตรีในบ้านเรานั้น ก็มีรูปแบบที่หลากหลาย และหนึ่งในนั้น ไม่พูดถึงก็ไม่ได้ นั้นก็คือ ทีป็อป หรือภาษาอังกฤษที่เรียกว่า t-pop นั่นเอง ซึ่งหลายท่านก็เองอาจจะอดคิดไม่ได้เลยว่า วงการเพลง tpop นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ และการผลักดัน tpop ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแก่สายตาชาวโลกนั้น จึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาเราก็อาจจะได้เห็นศิลปิน tpop จากวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 4eve pixxie bus proxie และนักร้องนักดนตรีท่านอื่นๆ ที่ได้ไปโปรโมตผลงานที่ต่างประเทศแล้วนะครับ แต่ที่วงการtpopของเรายังไม่ไปไหนจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะขาดการสนับสนุนจากทางภาครัฐ และคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีความเป็นชาตินิยม เพราะมัวแต่อุดหนุนไปฟังเพลงเกาหลีบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง ฝรั่งบ้าง บลา บลา บลา อะไรประมาณนี้นะครับ และก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนะครับ หากจะพูดถึงรายการชาร์ตเพลงหรือที่เรียกว่า music chart show นั้น ก็จะมีรายการในลักษณะแบบนี้ไม่ว่าจะในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหากจะพูดถึงของเกาหลีนั้น ก็มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้นอยู่ 6 รายการ เช่น m countdown music bank show music core inkigayo เป็นต้น ส่วนในประเทศไทยนั้น รายการ music chart show ของไทย ก็มีอยู่แค่ 2 รายการเท่านั้น ซึ่งก็น้อยกว่าของฝั่งเกาหลีอยู่พอสมควร โดยมี t-pop stage ที่เป็นรายการชาร์ตเพลงสัญชาติไทยรายการแรกของประเทศ ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 ส่วนอีกรายการนึงเป็นรายการชาร์ตเพลงที่เป็นความร่วมมือระหว่างไทยและเกาหลีอย่าง thailand music countdown ออกอากาศทางช่อง 3 hd ซึ่งเป็นรายการชาร์ตเพลงแห่งที่ 2 ของประเทศไทย และทั้ง 2 รายการนี้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันก็เพื่อที่จะยกระดับศักยภาพ tpop ของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับโลก และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริม soft power ของรัฐบาล แต่รูปแบบของแต่ละสเตจรายการเพลงทั้งสองก็จะมีความแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะมาดูกันนะครับว่ารูปแบบของสเตจทั้งสองรายการนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้น ถ้าพร้อมแล้ว ไปรับชมพร้อมๆกันเลยครับ
รายการ
T-POP STAGE และ
Thailand Music Countdown มีรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยสรุปความแตกต่างที่สำคัญได้ดังนี้
T-POP STAGE
แนวคิดหลัก: เป็นรายการเพลงที่เน้นการรวบรวมศิลปิน T-POP จากหลากหลายค่ายมาขึ้นแสดงบนเวที
รูปแบบรายการ: เป็นรายการที่เน้นการแสดงโชว์ของศิลปิน T-POP ในแต่ละสัปดาห์ ไม่ได้เน้นการจัดอันดับหรือแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะประจำสัปดาห์เป็นหลัก
จุดประสงค์: มีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอผลงานและส่งเสริมศิลปิน T-POP โดยเฉพาะ พร้อมสร้างคอมมูนิตี้และความผูกพันระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ
บรรยากาศ: เน้นการสร้างคอมมูนิตี้และความผูกพันระหว่างแฟนเพลงและศิลปิน มีความเป็นกันเองและอบอุ่น
การนำเสนอ: มีการแสดงโชว์พิเศษหรือการคอลแล็บกันของศิลปินต่าง ๆ รวมถึงการพูดคุยกับศิลปินและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในรายการ
Thailand Music Countdown
แนวคิดหลัก: เป็นรายการชาร์ตเพลงประจำสัปดาห์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากรายการ M Countdown ของเกาหลีใต้ ทำให้มีโครงสร้างที่มีความเป็นสากลและเน้นการแข่งขัน
รูปแบบรายการ: เป็นรายการชาร์ตเพลงประจำสัปดาห์ ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากรายการ "M Countdown" ของเกาหลีใต้ ทำให้มีโครงสร้างและรูปแบบรายการที่คล้ายคลึงกับรายการเพลงของเกาหลี
จุดประสงค์: มุ่งเน้นการจัดอันดับเพลงยอดนิยมในแต่ละสัปดาห์ และมอบรางวัลให้กับเพลงที่ครองอันดับ 1 ซึ่งเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมเพลงไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก
บรรยากาศ: มีบรรยากาศการแข่งขันที่เข้มข้น มีการประกาศผลคะแนนและมอบรางวัล ทำให้แฟนคลับรู้สึกตื่นเต้นและมีส่วนร่วมในการโหวต
การนำเสนอ: ประกอบด้วยการแสดงโชว์จากศิลปินที่มีเพลงติดชาร์ต, การประกาศอันดับ, และช่วงมอบรางวัล นอกจากนี้ยังมีช่วง TMC LIVE Studio สำหรับกิจกรรมพิเศษและอินเตอร์วิวกับศิลปิน
เปรียบเทียบความแตกต่างของทั้ง 2 รายการ
T-POP STAGE
รูปแบบ: รายการวาไรตี้โชว์เพลงที่มุ่งเน้นการแสดงเป็นหลัก
จุดประสงค์: สร้างเวทีและคอมมูนิตี้ให้ศิลปิน T-POP
รูปแบบการแข่งขัน ไม่มีระบบแข่งขันหาผู้ชนะที่ชัดเจน
ที่มา/อ้างอิงจาก เป็นรายการที่ผลิตขึ้นเองในประเทศไทยโดยไม่ได้อ้างอิงจากรายการเพลงของเกาหลีหรือของต่างประเทศ
ไฮไลต์ การแสดงที่หลากหลาย, การพูดคุยกับศิลปิน, คอมมูนิตี้ของแฟนเพลง
บรรยากาศ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง
Thailand Music Countdown
รูปแบบ รายการชาร์ตเพลงประจำสัปดาห์ที่เน้นการแข่งขันและการจัดอันดับ
จุดประสงค์ จัดอันดับเพลงและมอบรางวัลเพื่อต่อยอดและยกระดับอุตสาหกรรมเพลง
ที่มา/อ้างอิงจาก เป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากรายการ M Countdown ของเกาหลีใต้
ไฮไลต์ การประกาศอันดับ, ช่วงลุ้นรางวัล, การแสดงที่จัดเต็มแบบรายการเกาหลี
บรรยากาศ ตื่นเต้น เร้าใจ มีการแข่งขัน
ความคล้ายคลึงกันระหว่างรายการ
T-POP STAGE และ
Thailand Music Countdown คือ:
1.เป็นรายการที่นำเสนอเพลง T-POP: ซึ่งทั้งสองรายการมีวัตถุประสงค์หลักในการสนับสนุนและส่งเสริมวงการเพลงป๊อปไทย หรือ T-POP
2.เป็นพื้นที่ให้ศิลปินแสดงความสามารถ: ทั้งสองรายการเป็นเวทีให้ศิลปิน T-POP ได้แสดงผลงานเพลงของตัวเองในรูปแบบโชว์พิเศษ
3.มีช่องทางการรับชมที่หลากหลาย: นอกจากการออกอากาศทางโทรทัศน์แล้ว ทั้งสองรายการยังมีการเผยแพร่เนื้อหาและโชว์ต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น YouTube และ Facebook
4.มีการนำเสนอโชว์ที่น่าสนใจ: ทั้งสองรายการต่างลงทุนกับการผลิตที่มีคุณภาพ ทั้งแสง สี เสียง และเอฟเฟกต์ เพื่อให้การแสดงของศิลปินออกมาดีที่สุด
5.มีช่วงพิเศษต่างๆ: นอกจากการแสดงเพลงหลักแล้ว ทั้งสองรายการยังมีการนำเสนอช่วงพิเศษ เช่น การสัมภาษณ์ศิลปิน หรือการแสดงที่แตกต่างออกไปจากปกติ
ในด้านอื่นๆ
1.เวทีเสริม ในปัจจุบัน thailand music countdown ก็มี TMC LIVE Studio เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินมาสัมภาษณ์ เล่นเกม และโชว์สด ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณห้างสยามพารากอน ในขณะที่ tpop stage ไม่มี
2.ในด้านความรู้สึกของทั้ง 2 รายการ
แม้ทั้งสองรายการจะมีเป้าหมายในการส่งเสริมวงการ T-POP เหมือนกัน แต่ความรู้สึกที่แฟนๆ ได้รับจาก
T-POP STAGE และ
Thailand Music Countdown (TMC) นั้นแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยมีรายละเอียดดังนี้
T-POP STAGE
รายการ T-POP STAGE ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น "งานรวมญาติ" หรือ "เทศกาลดนตรี" สำหรับแฟนคลับ T-POP บรรยากาศโดยรวมมีความเป็นกันเอง อบอุ่น และมุ่งเน้นไปที่การสร้างคอมมูนิตี้ให้ศิลปินและแฟนๆ ได้มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
ความเป็นกันเอง: แฟนๆ รู้สึกถึงความใกล้ชิดกับศิลปิน เพราะรายการเน้นการแสดงโชว์พิเศษและการพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติ
การเฉลิมฉลอง: แทนที่จะเป็นการแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะ แฟนๆ จะรู้สึกเหมือนกำลังร่วมฉลองความสำเร็จและเห็นการเติบโตของ T-POP ไปพร้อมกับศิลปินและแฟนด้อมอื่นๆ
ความหลากหลาย: ด้วยรูปแบบที่ไม่เน้นการแข่งขัน ทำให้ T-POP STAGE สามารถนำเสนอการแสดงจากศิลปินที่หลากหลายได้อย่างเต็มที่ ทั้งศิลปินเดี่ยว กลุ่มไอดอล และการคอลแล็บพิเศษ
THAILAND MUSIC COUNTDOWN
รายการ TMC ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น "รายการเพลงแบบเกาหลี" ที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยการแข่งขัน แฟนๆ จะรู้สึกถึงความตื่นเต้นและลุ้นระทึกกับการประกาศอันดับ และมีความภาคภูมิใจเมื่อศิลปินที่พวกเขาสนับสนุนสามารถคว้าถ้วยรางวัลอันดับ 1 มาครองได้
ความตื่นเต้นในการแข่งขัน: ระบบการจัดอันดับและมอบรางวัลในแต่ละสัปดาห์ ทำให้เกิดบรรยากาศการแข่งขันที่แฟนๆ ได้มีส่วนร่วมในการโหวตอย่างจริงจัง
ความภาคภูมิใจในความสำเร็จ: การที่ศิลปินที่รักได้ถ้วยรางวัลอันดับ 1 เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับทั้งศิลปินและแฟนคลับ เป็นการยืนยันถึงความนิยมในระดับชาร์ตเพลง
ความหวังในการยกระดับ: แฟนๆ รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันวงการ T-POP ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์จาก M Countdown
3.ในด้านการจัดฉากแสงสีเสียงและศิลปินจากต่างประเทศที่มาขึ้นโชว์ของทั้ง 2 รายการ
ฉากการแสดงและศิลปินต่างประเทศที่ขึ้นโชว์ในรายการ T-POP STAGE และ Thailand Music Countdown (TMC) มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนตามแนวคิดหลักของแต่ละรายการ
ยังมีต่อหน้า 2
สารพันน่ารู้ ep.2 ตอน ความแตกต่างของรูปแบบรายการชาร์ตเพลง tpop stage กับ thailand music countdown
เพราะว่าจริงๆแล้ว แอคเคาท์ที่เราใช้ในการตั้งกระทู้ในเว็บ pantip มีอยู่ด้วยกันถึง 3 แอคเคาท์นะครับ โดยกระทู้ก่อนหน้าจะใช้แอคเคาท์หลักในการตั้งกระทู้ ส่วนอีก 2 แอคเคาท์นั้นจะเป็นแอคเคาท์สำรองเผื่อไว้ใช้เวลาที่แอคเคาท์หลักถุกแบนนะครับ แล้วก็ที่เหตุผลหลักที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า น่าจะเป็นเรื่องของการทำเรื่องยืนยันตัวตนที่มันดูยุ่งยาก นะครับ ก็เลยคิดว่าเหตุผลหลักๆก็น่าจะมาเรื่องนี้นั่นแหละครับ แต่ถึงยังไง เราก็ยังคงที่จะนำเสนอเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมาฝากให้ทุกท่านเหมือนเช่นเคยนะครับ ยังไงก็ต้องขอบคุณจากใจจริง มา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ สำหรับวันนี้ สารพันน่ารู้ ใน ep.2 ของเรา เราก็จะนำเสนอเกี่ยวกับ soft power ด้านดนตรีนะครับ เมื่อหากจะพุดถึง soft power ของบ้านเรานั้น เราก็มักจะพูดถึงสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีอยู่ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย มวยไทย เทศกาลงานประเพณีต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อตามพื้นที่ต่างๆ กางเกงช้าง ภาพยนตร์และซีรีส์ไทย หรือแม้แต่คนดังที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เช่น ลิซ่า และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ ล้วนเป็นซอฟต์เพาวเวอร์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งไม่เพียงแค่นั้น หากจะพูดถึงทางด้านดนตรีนั้นก็นับได้ว่าเป็นซอฟต์เพาเวอร์ที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากจะพูดถึงแนวดนตรีในบ้านเรานั้น ก็มีรูปแบบที่หลากหลาย และหนึ่งในนั้น ไม่พูดถึงก็ไม่ได้ นั้นก็คือ ทีป็อป หรือภาษาอังกฤษที่เรียกว่า t-pop นั่นเอง ซึ่งหลายท่านก็เองอาจจะอดคิดไม่ได้เลยว่า วงการเพลง tpop นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ และการผลักดัน tpop ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแก่สายตาชาวโลกนั้น จึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาเราก็อาจจะได้เห็นศิลปิน tpop จากวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 4eve pixxie bus proxie และนักร้องนักดนตรีท่านอื่นๆ ที่ได้ไปโปรโมตผลงานที่ต่างประเทศแล้วนะครับ แต่ที่วงการtpopของเรายังไม่ไปไหนจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะขาดการสนับสนุนจากทางภาครัฐ และคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีความเป็นชาตินิยม เพราะมัวแต่อุดหนุนไปฟังเพลงเกาหลีบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง ฝรั่งบ้าง บลา บลา บลา อะไรประมาณนี้นะครับ และก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนะครับ หากจะพูดถึงรายการชาร์ตเพลงหรือที่เรียกว่า music chart show นั้น ก็จะมีรายการในลักษณะแบบนี้ไม่ว่าจะในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหากจะพูดถึงของเกาหลีนั้น ก็มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้นอยู่ 6 รายการ เช่น m countdown music bank show music core inkigayo เป็นต้น ส่วนในประเทศไทยนั้น รายการ music chart show ของไทย ก็มีอยู่แค่ 2 รายการเท่านั้น ซึ่งก็น้อยกว่าของฝั่งเกาหลีอยู่พอสมควร โดยมี t-pop stage ที่เป็นรายการชาร์ตเพลงสัญชาติไทยรายการแรกของประเทศ ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 ส่วนอีกรายการนึงเป็นรายการชาร์ตเพลงที่เป็นความร่วมมือระหว่างไทยและเกาหลีอย่าง thailand music countdown ออกอากาศทางช่อง 3 hd ซึ่งเป็นรายการชาร์ตเพลงแห่งที่ 2 ของประเทศไทย และทั้ง 2 รายการนี้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันก็เพื่อที่จะยกระดับศักยภาพ tpop ของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับโลก และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริม soft power ของรัฐบาล แต่รูปแบบของแต่ละสเตจรายการเพลงทั้งสองก็จะมีความแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะมาดูกันนะครับว่ารูปแบบของสเตจทั้งสองรายการนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้น ถ้าพร้อมแล้ว ไปรับชมพร้อมๆกันเลยครับ
รายการ T-POP STAGE และ Thailand Music Countdown มีรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยสรุปความแตกต่างที่สำคัญได้ดังนี้
ความคล้ายคลึงกันระหว่างรายการ T-POP STAGE และ Thailand Music Countdown คือ:
1.เป็นรายการที่นำเสนอเพลง T-POP: ซึ่งทั้งสองรายการมีวัตถุประสงค์หลักในการสนับสนุนและส่งเสริมวงการเพลงป๊อปไทย หรือ T-POP
2.เป็นพื้นที่ให้ศิลปินแสดงความสามารถ: ทั้งสองรายการเป็นเวทีให้ศิลปิน T-POP ได้แสดงผลงานเพลงของตัวเองในรูปแบบโชว์พิเศษ
3.มีช่องทางการรับชมที่หลากหลาย: นอกจากการออกอากาศทางโทรทัศน์แล้ว ทั้งสองรายการยังมีการเผยแพร่เนื้อหาและโชว์ต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น YouTube และ Facebook
4.มีการนำเสนอโชว์ที่น่าสนใจ: ทั้งสองรายการต่างลงทุนกับการผลิตที่มีคุณภาพ ทั้งแสง สี เสียง และเอฟเฟกต์ เพื่อให้การแสดงของศิลปินออกมาดีที่สุด
5.มีช่วงพิเศษต่างๆ: นอกจากการแสดงเพลงหลักแล้ว ทั้งสองรายการยังมีการนำเสนอช่วงพิเศษ เช่น การสัมภาษณ์ศิลปิน หรือการแสดงที่แตกต่างออกไปจากปกติ
ในด้านอื่นๆ
1.เวทีเสริม ในปัจจุบัน thailand music countdown ก็มี TMC LIVE Studio เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินมาสัมภาษณ์ เล่นเกม และโชว์สด ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณห้างสยามพารากอน ในขณะที่ tpop stage ไม่มี
2.ในด้านความรู้สึกของทั้ง 2 รายการ
แม้ทั้งสองรายการจะมีเป้าหมายในการส่งเสริมวงการ T-POP เหมือนกัน แต่ความรู้สึกที่แฟนๆ ได้รับจาก T-POP STAGE และ Thailand Music Countdown (TMC) นั้นแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยมีรายละเอียดดังนี้
T-POP STAGE